รวมข้อสงสัยการจากไปของ ‘แตงโม นิดา’

การจากไปของ ‘แตงโม’ นิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงชื่อดังในวัย 37 ปี จากเหตุพลัดตกเรือสปีดโบ๊ท กลางแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อกลางดึกของวันที่ 24 ก.พ. 2565 ขณะกำลังนั่งเรือไปกับเพื่อนรวม 6 คน หลังเกิดเหตุทุกฝ่ายพยายามค้นหาร่างของแตงโม ก่อนจะพบในช่วงบ่ายวันที่ 26 ก.พ. 2564 ท่ามการตั้งคำถามและข้อสงสัยจากสังคมถึงอุบัติเหตุที่พรากดาราสาวไปในครั้งนี้ workpointTODAY ได้รวบรวมคำถามและข้อสงสัยและคำอธิบายจากผู้เกี่ยวข้อง มาไว้ในโพสต์นี้สรุปทั้งหมด 9 ข้อ

1. หลังเกิดเหตุแตงโมพลัดตกเรือ และกลายเป็นข่าว มีการตั้งคำถามจากคนในโซเชียลว่า เพื่อนที่นั่งเรือไปด้วยกันอีก 5 คน หายไปไหน ถึงไม่ปรากฎตัวในระหว่างปฏิบัติการค้นหา และพยายามปิดข่าวหรือไม่ เนื่องจากคนใกล้ตัวของแตงโมทราบข่าวจากสื่อทั้งสิ้น

คำถามนี้ มีการอธิบายโดย ‘ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์’ หรือ ‘ไฮโซปอ’ ซึ่งเป็นเจ้าของเรือ และเป็นหนึ่งใน 6 คน ที่ถูกระบุว่าอยู่บนเรือลำที่เกิดเหตุ บอกว่า หลังรู้ว่าแตงโมตกจากเรือได้พยายามขับเรือวนหาและแจ้งกู้ชีพ ยืนยันว่า ไม่ได้หายไปไหน แต่ทุกคนตกใจจึงกลับไปตั้งสติ ก่อนเข้ามาให้ปากคำกับตำรวจ

2. ทำไมการให้ข้อมูลของเพื่อนเกี่ยวกับพิกัดที่แตงโมตกจากเรือในตอนแรกไม่มีความชัดเจน โดยระบุเพียงว่า “ตกลงไปกลางแม่น้ำเจ้าพระยา” ทำให้การค้นหาของเจ้าหน้าที่เป็นการงมเข็มในมหาสมุทร โดยหลังการให้ปากคำกับตำรวจ มีการออกมาเปิดเผยว่า ถ้าให้ไปชี้จุดที่ตก สามารถชี้พิกัดได้

3. ลำดับเรื่องราวขณะเกิดเหตุไม่มีความชัดเจน เช่น มีการระบุในตอนแรกว่าไม่รู้พิกัดที่แตงโมตกน้ำ แต่ต่อมาเพื่อนของแตงโม ระบุว่า “เห็นแตงโมตกน้ำไปต่อหน้าต่อตา” ซึ่งคำตอบนี้ยังคงเป็นที่ค้างคาใจของสังคม ว่าทำไมไม่ชี้จุดตั้งแต่แรกเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานง่ายขึ้น

4. ทำไมคนที่อยู่บนเรือมีการไปขอคำปรึกษาจากทนายความ ก่อนเข้าให้ปากคำกับตำรวจ

โดยทนายความคนดังกล่าว คือ ‘ษิทรา เบี้ยบังเกิด’ มาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กปฏิเสธเป็นทนายให้ โดยมีข้อความว่า “พี่ๆ นักข่าวโทรมาถามกันเยอะหลังจากผู้กำกับ สภ.เมืองนนทบุรี พูดถึงชื่อผมออกสื่อในคดีน้องแตงโม ผมขอใช้พื้นที่ตรงนี้ชี้แจงสั้นๆ ว่าเพื่อนแตงโมประสานมาเพื่อปรึกษาจริง แต่ทราบว่าคุณปอมีทีมทนายอยู่ก่อนผมแล้ว และสุดท้ายผมไม่ได้เป็นทนายในคดีนี้ ทราบว่าทุกคนในเหตุการณ์กำลังไป สภ.เมืองนนทบุรีเพื่อให้การและให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนครับ”

ด้าน ไฮโซปอ เผยเรื่องนี้ผ่านการสัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า “ต้องการขอคำปรึกษาเห็นว่าเป็นทนายที่มีชื่อเสียงจะช่วยคลายความกังวลเพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ตกใจและกลัวทุกอย่าง แต่ไม่ได้กลัวความผิด ส่วนสาเหตุครั้งนี้เกิดจากความประมาทในการขับเรือสปีดโบ๊ทหรือไม่ ยังไม่ขอตอบ”

5. การให้ข้อมูลว่าก่อนแตงโมตกเรือไปปัสสาวะบริเวณท้ายเรือเป็นความจริงหรือไม่

โดยเรื่องนี้ ไฮโซปอ หนึ่งในสมาชิกบนเรือเล่าเหตุการณ์ว่า จังหวะที่แตงโมตกน้ำตนเองไม่เห็น คนที่เห็นคือ ‘แซน’ ดังนั้น ข้อมูลตอนตกจากเรืออยากให้ถามกับทางแซนมากกว่า

ขณะที่ ธนกฤต วงศ์สุวรรณ์ เจ้าของโกดังเก็บเรือ NBC BOAT CLUB จ.นนทบุรี ให้ข้อมูลว่า จากการสอบถามทราบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนที่อยู่บนเรือคือ แตงโม เดินไปปัสสาวะท้ายเรือโดยมี ไฮโซปอ ขับเรือแต่ไม่ทราบว่า แตงโมเดินไปปัสสาวะท้ายเรือและลื่นพลัดตกไปในแม่น้ำเจ้าพระยา และยังบอกอีกว่าคนที่คลุกคลีในวงการเรือสปีดโบ๊ทจะรู้ดีว่าเรือประเภทนี้ไม่มีห้องน้ำ คนมักจะปัสสาวะท้ายเรือซึ่งเป็นเรื่องปกติ

ด้าน แอนนา ยืนยันว่า แตงโมว่ายน้ำเป็น เชื่อว่า สามารถประคองตัวเองอยู่บนน้ำได้หากไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง

6. มีการตั้งคำถามถึงการไม่เข้าให้ปากคำทันทีหลังเกิดเหตุของคนที่อยู่บนเรือ ว่าอาจะเป็นเพราะกลัวเรื่องการดื่มแอลกอฮอล์หรือมีการใช้สารเสพติดหรือไม่

เบื้องต้น มีรายงานว่า กระติก และ ไฮโซปอ ไม่พบสารเสพติดในร่างกาย แต่มีการยอมรับว่าขณะนั่งเรือมีการดื่มไวน์คนละแก้ว แต่ไม่มีใครเมาจนขาดสติ

7. แม่ของแตงโม บอกกับสื่อมวลชน วันนั้นกระติกบอกว่ามีการว่าจ้างแตงโมไปถ่ายภาพบนเรือ ซึ่งมีการตั้งข้อสงสัยข้อเท็จจริงในกรณีนี้ว่า เป็นการว่าจ้างงานลักษณะอย่างไร เป็นเรื่องจริงหรือไม่ โดยกลุ่มเพื่อนของแตงโม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ปกติถ้ามีงานแตงโมจะพิมพ์แจ้งเพื่อนในกลุ่ม แต่ครั้งนี้ไม่ได้บอกอะไร

8. ภาพในอินสตราแกรมของแตงโม ถูกลบไปจำนวน 6 ภาพ โดยมีชาวเน็ตแคปภาพหน้าจออินสตราแกรม หลังแตงโมพลัดตกและหายตัวไป ในวันที่ 25 และ 26 ก.พ. โดยพบว่ามีภาพถูกลบออกไป จากเดิมมี 2,306 โพสต์ แต่ล่าสุดเหลือ 3,300 โพสต์ โดยมีการระบุว่าภาพที่ถูกลบเป็นภาพของกระติก (ผู้จัดการ) และลูกบุณธรรมของแตงโม รวมทั้งมีข้อสงสัยว่าโทรศัพท์ของแตงโมอยู่ที่ไหน

โดย แอนนา ออกมาระบุว่า “ไม่ทราบว่าใครเป็นคนลบ ทำไมต้องลบ ในเมื่อเป็นพื้นที่ส่วนตัวของแตงโม จะต้องมีรหัสผ่าน ซึ่งผู้จัดการจะมีรหัสเข้า แต่ทราบว่า มือถือที่เป็นของกลาง ตอนแรกอยู่กับผู้จัดการ จนกระทั่งเมื่อวานนี้ แม่แตงโมแจ้งว่า ได้รับโทรศัพท์กลับคืนมาแล้ว ซึ่งตอนนี้ได้นำมาให้พนักงานสอบสวน เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน นี่ก็เป็นอีกหนึ่งข้อสงสัย”

ก่อนที่ในเวลาต่อมา แอนนาโพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่าคุยกับผู้จัดการแล้ว “เคลียร์กับกระติก (ผู้จัดการ) แล้ว นางเล่าทุกอย่างหมดสิ้น สภาพจิตใจนางย่ำแย่พอสมควร สมบัติอะไรของโม ก็คือของโม ลูกกระติกไม่ได้รับอะไร เช็กแอคเคาท์ในไอจีไม่มีใครล็อกอิน สิ่งที่จะทำสุดท้าย คือ แต่งหน้าให้เพื่อน จัดงานให้ดีที่สุดเป็นครั้งสุดท้าย”

9. มีการตั้งข้อสงสัยถึงการทำพินัยกรรมของแตงโม ช่วงก่อนเกิดเหตุว่าเป็นการเขียนมอบให้ลูกบุญธรรม ซึ่งเป็นลูกแท้ๆ ของกระติก ผู้จัดการหรือไม่ ซึ่งแอนนาออกมาบอกว่า พินัยกรรม หรือทรัพย์สินยกให้ใคร ไม่สามารถรับรู้ได้ เพราะเป็นเรื่องภายในของครอบครัว แต่เท่าที่ทราบแตงโมรักแฟนมาก ก่อนที่ในเวลาต่อมาได้โพสต์ว่า สมบัติอะไรของโม ก็คือของโม ลูกกระติกไม่ได้รับอะไร

หลังจากนี้ข้อสงสัยที่ถูกตั้งคำถามเอาไว้มากมาย หวังจะว่าคลี่คลายภายหลังผลการชูนสูตรพลิกศพร่างของ ‘แตงโม’ ออกมาพร้อมกับการสอบปากคำอย่างเข้มข้นของคนบนเรือทั้งหมด 5 ชีวิต เพื่อให้เกียรติผู้ล่วงลับจากไปอย่างสงบ