รู้จักโควิด-19 สายพันธุ์เอปซิลอน ลดประสิทธิภาพวัคซีน mRNA |

ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เอปซิลอน (Epsilon) แบ่งออกเป็นสายพันธุ์ย่อย B.1.427 และB.1.429 พบระบาดครั้งแรกในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ตั้งแต่ มี.ค. 2563 พบระบาดใน 44 ประเทศ โดยเฉพาะในทวีปยุโรป

สำหรับภูมิภาคเอเชีย พบในปากีสถาน เมื่อ 1 ส.ค. 2564 คาดการณ์ว่าจะเป็นสายพันธุ์ที่ระบาดรุนแรงในปากีสถาน แต่ยังไม่พบการระบาดในไทย โดย ศ.นพ.ธีรวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกมาระบุว่า “อีกไม่นานสายพันธุ์นี้อาจจะเข้ามาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงไทยด้วย แนะนำว่า ให้เร่งฉีดวัคซีนให้ประชากรให้ได้ 80 – 90 % ในระยะเวลา 3 เดือน”

ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เอปซิลอน มีลักษณะเฉพาะสายพันธุ์ คือ มีความรุนแรงกว่าสายพันธุ์ปกติ 18.6 – 24.6 %

โดยเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2564 เว็บไซต์นิตยสาร Science เผยแพร่งานวิจัยในสหรัฐฯ เกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เอปซีลอน พบว่า มีการเปลี่ยนแปลงในระดับพันธุกรรม ทำให้มีฤทธิ์หลบภูมิคุ้มกันได้มากขึ้น และส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของวัคซีนชนิด mRNA ได้แก่ วัคซีนของไฟเซอร์ (Pfizer) และโมเดอร์นา (Moderna) ซึ่งงานวิจัยชิ้นนี้ทำการทดลองโดยนำพลาสมาของอาสาสมัครที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์และโมเดอร์นาครบทั้งสองเข็มแล้ว มาทดสอบประสิทธิภาพกับไวรัสโควิดสายพันธุ์เอปซีลอน ซึ่งผลที่ออกมา พบว่า วัคซีนไฟเซอร์และโมเดอร์นามีประสิทธิภาพในการต้านเชื้อสายพันธุ์เอปซีลอนลดลง 2 – 3.5 เท่าตัวเมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่น โดยทีมวิจัย ชี้ว่า สาเหตุที่ทำให้ประสิทธิภาพวัคซีนไฟเซอร์กับโมเดอร์นาลดลง เนื่องจากไวรัสสายพันธุ์เอปซีลอนมีการเปลี่ยนแปลงในระดับพันธุกรรม 3 จุด ได้แก่ บริเวณ S13I, W152C และ L452R

นอกจากนี้มีข้อมูลว่า เมื่อ 6 ก.ค. 2564 องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ลดระดับจาก สายพันธุ์ที่ต้องจับตา (VOI) เป็นสายพันธุ์ที่ต้องตรวจสอบเพิ่ม (Alerts for Further Monitoring) ขณะที่ 29 มิ.ย 2564 ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) ลดระดับจากสายพันธุ์ที่น่ากังวล (VOC) เป็นสายพันธุ์ที่น่าจับตา (VOI)

รู้จักโควิด-19 สายพันธุ์เอปซิลอน ลดประสิทธิภาพวัคซีน mRNA

ที่มา

podcast

Spotify

Podbean

Youtube

Apple Podcasts