SHARE

คัดลอกแล้ว

เทรนด์ Paperless ที่มาแรงต่อเนื่อง กระทบธุรกิจเครื่องพิมพ์-เครื่องถ่ายเอกสารอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้บรรดาธุรกิจเครื่องพิมพ์เองต่างก็เร่งปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์

ค่ายเครื่องพิมพ์เบอร์ต้นๆ ‘เอปสัน’ (Epson) เป็นอีกแบรนด์ที่ปรับตัวอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา คือ โฟกัสโปรดักต์ B2C น้อยลง ลุยให้ความสำคัญกับ B2B มากขึ้น จนทำให้ผลประกอบการในไทยยังเติบโต

โดยเอปสัน ประเทศไทย รายงานผลประกอบการปี 2565 ที่ผ่านมา (ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2566) ยอดขายเติบโตทะลุ 10% เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

‘ยรรยง มุนีมงคลทร’ ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ข้อมูลจาก GFK ประเมินว่าตลาดเครื่องพิมพ์ในปี 2022 มีมูลค่าอยู่ที่ 2,838 ล้านบาท ลดลง 5% จากปี 2021 ที่มีมูลค่าอยู่ที่ 2,985 ล้านบาท

ไม่เพียงเท่านั้น แต่ในแง่ของจำนวนยูนิตการขาย ปี 2022 ก็ลดลงเหลือ 7.17 แสนตัว จากปี 2021 ที่อยู่ที่ราวๆ 7.87 แสนตัว หรือลดลงประมาณ 8%

“แต่ทั้งหมดนี้คือการคาดการณ์ในฝั่งของธุรกิจ B2C แต่ตลาด B2B เรียกได้ว่ายังมีศักยภาพ ทำให้ตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา เอปสันไปลุยธุรกิจ B2B อย่างต่อเนื่อง เราพยายามอย่างหนัก จนผลประกอบการเราเป็นบวกแม้ว่าภาพรวมตลาดฝั่ง B2C จะติดลบ”

คุรยรรยงเผยว่า ปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้เติบโตต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 มาจากการที่ภาคเอกชนและหน่วยงานราชการมีการลงทุนกับอุปกรณ์ไอที เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานภายในองค์กร

รวมถึงสถาบันการศึกษาจำนวนมากเริ่มนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้าไปใช้ในกระบวนการเรียนการสอนเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีมาตรการสนับสนุนการใช้จ่ายของภาครัฐผ่านโครงการต่างๆ

และการที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง ทำให้มีการจัดกิจกรรมการตลาดเพิ่มขึ้นอย่างมาก

เช่นเดียวกับการกลับมาให้บริการอีกครั้งของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างประเทศ รวมไปถึงภาคการผลิตของไทยก็ยังใช้ระบบซัพพลายเชนภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ก็เริ่มคลี่คลาย ซึ่งตัวอย่างเหล่านี้ล้วนส่งผลให้ตลาดไอทีในประเทศมีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้น

[ เครื่องพิมพ์อุตสาหกรรมโตแรง ]

‘คณิน ธรรมภิบาลอุดม’ หัวหน้าฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาด เอปสัน ประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับธุรกิจของเอปสันประเทศไทยในปีที่ผ่านมา กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด มีดังต่อไปนี้

1.กลุ่มสินค้าเครื่องพิมพ์อุตสาหกรรม เติบโตสูงที่สุดถึง 170% เนื่องจากเอปสันมีการทำกิจกรรมการตลาดเพื่อแนะนำสินค้าอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งผู้บริโภคยังมั่นใจในแบรนด์เอปสัน ทำให้ได้รับการตอบรับอย่างดี

2.กลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมโปรเจคเตอร์ เติบโตอยู่ที่ 64% ผลจากจำนวนลูกค้าติดตั้งโฮมเธียเตอร์ระดับไฮเอนด์ภายในบ้านเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากกระแสความสนใจชมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคในการดูภาพยนตร์แบบส่วนตัวภายในบ้านมากขึ้น

3.กลุ่มเครื่องพิมพ์สิ่งทอระบบดิจิทัล เติบโต 52% โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคธุรกิจโดยรวม มีการจัดกิจกรรมกลางแจ้งมากขึ้น ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ทำให้มีความต้องการพิมพ์ลายลงบนผ้าหรืออุปกรณ์ต่างๆ

ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มีการเติบโตได้ดี ได้แก่

-กลุ่มผลิตภัณฑ์โปรเจคเตอร์ความสว่างสูง เติบโต 43%

-กลุ่มเครื่องพิมพ์มินิแล็บ เติบโต 29%

-เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทขนาดใหญ่ ที่ตั้งใจแข่งกับกลุ่มเครื่องถ่ายเอกสาร ก็มียอดขายเพิ่มขึ้น 23%

[ ขายเครื่องพิมพ์อย่างเดียวไม่ได้ ต้องขายบริการเพิ่มรายได้ ]

คุณยรรยง เผยว่า สำหรับภาพรวมตลาดในปีนี้ เอปสันคาดการณ์ว่าจะไม่เติบโตมากนัก บวกลบประมาณ 2-3% จากสัญญาณของ 2 เดือนแรกปีนี้ที่ไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ กำลังซื้อยังอ่อนตัวต่อเนื่อง บวกกับการเริ่มกลับมาท่องเที่ยวได้ ผู้บริโภคใช้เงินไปกับการท่องเที่ยวมากกว่าการซื้อฮาร์ดแวร์หรือแม้แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ

“อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นภาพรวมในฝั่ง B2C แต่เรามองว่า B2B ยังมีศักยภาพ จากกลุ่มธุรกิจ B2B ของเราเองก็เติบโตในระดับ 2 ดิจิตทุกปี แสดงให้เห็นถึงดีมานด์การพิมพ์ในภาคธุรกิจนั้นยังมีอยู่

อีกทั้งในปีนี้ยังมีปัจจัยบวกจากการเลือกตั้ง ทำให้เอปสันตั้งเป้าที่จะสร้างการเติบโตให้ได้มากกว่า 10% เป็นปีที่สามติดต่อกัน โดยได้วางกลยุทธ์ ‘New 5’ ดังต่อไปนี้

1.New S-curve มีเทคโนโลยี Heat-Free เป็นแกนหลัก ที่จะสร้างการเติบโตต่อไปในอนาคตให้กับเอปสัน ร่วมด้วยเทคโนโลยีอื่นๆ เพื่อสร้างความความยั่งยืนให้กับผู้ใช้งาน

โดยที่เห็นได้ชัดเจนคือการที่เอปสันประกาศยุติการจำหน่ายเครื่องพิมพ์เลเซอร์ พร้อมเปิดตัวเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่นอิงค์เจ็ทในกลุ่ม WorkForce Enterprise รุ่น AM-Series ที่ใช้หัวพิมพ์ PrecisionCore Heat-Free Technology ที่กินไฟน้อย ปล่อยคาร์บอนน้อยกว่า มีชิ้นส่วนประกอบที่ต้องดูแลรักษาน้อย ทำให้บำรุงรักษาง่าย

2.New Target โดยจะใช้ความได้เปรียบในด้านผลิตภัณฑ์ที่มีจำนวนรุ่นที่หลากหลายที่สุดในตลาด ในการเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ ทำการตลาดได้ครอบคลุม และสร้างการเติบโตโดยเฉพาะในกลุ่มสินค้า B2B

3.New Business Model เอปสันได้เริ่มทำธุรกิจเชิงการบริการ อย่างเช่นการ บริการการพิมพ์แบบจ่ายรายเดือนอย่าง EasyCare ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถควบคุมต้นทุนการพิมพ์ของตัวเองได้ ไม่ต้องสต๊อกหมึก เพราะบริษัทจะส่งหมึกให้โดยคำนวณค่าใช้จ่ายจากจำนวนพิมพ์รายแผ่น ทั้งยังมีบริการ On-site service ส่งช่างซ่อมไปถึงออฟฟิศ

และในครึ่งปีหลังของปี 2566 ยังมีแผนที่จะเปิดการให้บริการการพิมพ์ภายใต้คอนเซ็ป Epson iPrint AnyWhere เพื่อสนับสนุนพฤติกรรมผู้บริโภคที่ปรับตัวหลังโควิด-19 ที่มีรูปแบบการทำงานเป็นแบบ Hybrid มากขึ้น ทำให้เกิดความต้องการในการพิมพ์งานเอกสารตามสถานที่ต่างๆ

โดยบริการนี้ จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้และองค์กรในการพิมพ์เอกสารได้จากหลายสถานที่ ผ่านเครื่องพิมพ์เอปสันในสถานที่ต่างๆ ที่อยู่ในเครือข่าย

“การขายเครื่องพิมพ์อย่างเดียวจะไม่สร้างรายได้ให้เติบโต เลยมีธุรกิจนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ต่อเนื่อง (recurring business) ให้กับบริษัท โดยการจ่ายเงินนั้นจะมีหลายรูปแบบ เช่น ใช้บัตรพนักงานสแกนแล้วไปเก็บเงินกับบริษัท โดยเรากำลังอยู่ในช่วงศึกษาราคาและพูดคุยกับพาร์ทเนอร์”

4.New Experience เอปสัน ประเทศไทย ได้มีการลงทุนในการสร้างโซลูชั่นเซ็นเตอร์แห่งใหม่ ซึ่งจะเปิดให้บริการภายในไตรมาส 3 ของปี 2566 นี้ โดยจะรวบรวมผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่มาจัดแสดง พร้อมกับทำการสาธิตและจัดอบรมให้กับตัวแทนจำหน่ายและลูกค้าที่สนใจ

5.New Service เอปสันได้เสริมศักยภาพการให้บริการทั้งก่อนและหลังการขาย ไม่ว่าจะเป็น เพิ่มทีมงาน Pre-sales เพิ่มประสิทธิภาพในการสนับสนุนข้อมูลผ่านทาง digital platform ต่างๆ

รวมถึงมีแผนขยายเครือข่ายการให้บริการหลังการขายของสินค้ากลุ่ม B2B จาก 122 แห่ง เป็น 130 แห่ง เพื่อตอบสนองการขยายตัวของสินค้าเอปสันกลุ่ม B2B ที่ออกไปยังภูมิภาคมากขึ้น รองรับการขยายตัวของตลาด และลดระยะเวลาในการส่งเครื่องซ่อม

‘ยรรยง’ กล่าวเสริมว่า กลยุทธ์ที่กล่าวมานั้นแสดงถึงความมุ่งมั่นและความต่อเนื่องของเอปสัน ประเทศไทยในการทำตลาดเชิงรุกและมีพลวัต มุ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ด้วยโซลูชั่นด้านผลิตภัณฑ์และบริการ

เพื่อนำเสนอ “คุณค่าที่แตกต่าง” (Value) ที่ผสมผสานแนวคิดด้านความยั่งยืน (Sustainability) ทั้งในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดต้นทุน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นำพาธุรกิจของผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์เอปสันเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า