กสศ. และ Sea Thailand ชวนคนไทยร่วมต่อยอดทักษะอาชีพนักเรียนทุนเสมอภาค ชอปงานคราฟต์สุดชิค ในแคมเปญ “ให้โอกาสเป็นของขวัญ”

กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) Sea (ประเทศไทย) พร้อมด้วยเครือข่ายโรงเรียนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ชวนคนไทยร่วมต่อยอดทักษะอาชีพและบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 ให้นักเรียนทุนเสมอภาค ผ่านแคมเปญ “ให้โอกาสเป็นของขวัญ” ชอปปิ้งผลิตภัณฑ์จากตลาดวาดฝัน Equity Partnership Season 3 ซึ่งรายได้ทั้งหมดจะมอบให้นักเรียนทุนเสมอภาคที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 10 โรงเรียนโดยไม่หักค่าใช้จ่าย

ดร.ไกรยส ภัทราวาท รองผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เปิดเผยว่า กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ได้จับมือกับ Sea (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแพลตฟอร์มชั้นนำ อาทิ การีนา (Garena) ช้อปปี้ (Shopee) และซีมันนี่ (Sea Money) เปิดแคมเปญ “ให้โอกาสเป็นของขวัญ” เพื่อสานต่อแนวคิดของตลาดวาดฝันที่นำผลิตภัณฑ์ของนักเรียนทุนเสมอภาคมาเพิ่มมูลค่าทางการตลาด โดยในครั้งนี้ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และของที่ระลึกจากนักเรียนทุนเสมอภาค กสศ. จำนวน 10 โรงเรียน และนักเรียนจากโรงเรียนนานาชาติ 7 โรงเรียน ที่เข้าร่วมโครงการขยายผลและพัฒนาความร่วมมือสร้างเครือข่ายสถานศึกษาเพื่อความเสมอภาค (Equity Partnership’s School Network Season 3) ร่วมกันสานต่อภูมิปัญญาชุมชน และพัฒนางานหัตถกรรมต่าง ๆ ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบ

“โครงการนี้เกิดขึ้นจากแนวคิดส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนระหว่างสถานศึกษาในเขตเมือง และสถานศึกษาในเขตชนบท ครูผู้สอนแลกเปลี่ยนรูปแบบการจัดการเรียนการสอน นักเรียนได้พัฒนาจนเกิดกลไกการเรียนรู้และพัฒนาตามความถนัดและศักยภาพของกันและกัน ผ่านการร่วมกันดำเนินงานออกแบบระหว่างสถานศึกษา ทำงานอย่างช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จนได้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องเป็นซีซั่นที่ 3”

รองผู้จัดการกสศ. กล่าวเพิ่มเติมว่า กสศ. มีความตั้งใจสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพ เสริมทักษะชีวิตให้แก่นักเรียนทุนเสมอภาคที่มีความพร้อมและมีศักยภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าเข้าร่วมในโครงการ เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ร่วมกับนักเรียนเครือข่ายโรงเรียนนานาชาติ และนำมาจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ของ Shopee โดยรายได้จากการจำหน่ายทั้งหมดจะมอบให้กับนักเรียนทุนเสมอภาคจาก 10 โรงเรียน โดยไม่หักค่าใช้จ่าย เพื่อต่อยอดการพัฒนาทักษะอาชีพในอนาคตและบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19

ด้านนางสาวมณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Sea (ประเทศไทย) กล่าวว่า เศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีอีคอมเมิร์ซเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญ รวมถึงเป็นประตูสู่โอกาสในการสร้างรายได้และอาชีพในอนาคต ดังนั้นการเตรียมความพร้อมทักษะการเป็นผู้ประกอบการดิจิทัลสำหรับคนรุ่นใหม่จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการเตรียมความพร้อมให้ประเทศไทยในการคว้าโอกาสแห่งการเติบโตทางเศรษฐกิจดิจิทัล

“Sea (ประเทศไทย) มีความมุ่งมั่นในการสร้างทักษะดิจิทัลสำหรับเยาวชน และขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็น Digital Nation เรามีความตั้งใจที่จะสนับสนุนโครงการ Equity Partnership’s School Network เพื่อให้น้อง ๆ มีโอกาสใช้ความรู้นอกห้องเรียน เรียนรู้การเป็นผู้ประกอบการดิจิทัล และใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างแบรนด์ ผนวกกับการใช้เครื่องมือทางการตลาดของช้อปปี้ในการผลักดันสินค้าท้องถิ่นให้เข้าถึงฐานลูกค้ามากยิ่งขึ้น เราหวังว่าน้อง ๆ จะได้ใช้ศักยภาพของเทคโนโลยีในการสร้างรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับตนเอง ครอบครัว และชุมชน”

ทั้งนี้ Equity – Partnership Season 3 มีโรงเรียนในเครือข่าย กสศ. เข้าร่วมจำนวน 10 โรงเรียน ได้แก่ 1. โรงเรียนบ้านรักแผ่นดิน จ.เชียงราย 2. โรงเรียนบ้านใหม่ปางค่า จ.พะเยา 3. โรงเรียนบ้านป่าเลา จ.ลำพูน 4. โรงเรียนภูเวียงวิทยาคม จ.ขอนแก่น 5. โรงเรียนอนุบาลหนองวัวซอ จ.อุดรธานี 6. โรงเรียนบ้านบางแก้ว จ.เพชรบุรี 7. โรงเรียนวัดโพธิ์เรียง จ.กระบี่ 8. โรงเรียนบ้านห้วยไร่สามัคคี จ.เชียงราย 9. โรงเรียนสมาคมพยาบาลไทย จ.น่าน และ 10. โรงเรียนบ้านห้วยต้มชัยยะวงศาอุปถัมภ์ จ.ลำพูน

โดยร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์งานตราฟต์ที่หลายหลายกับเครือข่ายโรงเรียนนานาชาติที่เข้าร่วมโครงการอีกจำนวน 7 โรงเรียน ได้แก่ 1. โรงเรียนสาธิตประสานมิตร หลักสูตรนานาชาติ 2. โรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา 3. โรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรูส์กรุงเทพ 4. โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี 5. โรงเรียนนานาชาติบางกอกเพรพ 6. โรงเรียนนานาชาติเด่นหล้า และ 7. โรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์กรุงเทพ

สำหรับผลิตภัณฑ์ในแคมเปญ “ให้โอกาสเป็นของขวัญ” มีทั้งสิ้น 10 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่

• ปลอกหมอนปักผ้าจากกล่องใส่กระดาษทิชชู่ ที่ถ่ายทอดรูปแบบดั้งเดิมของงานหัตถกรรมตามวิถีชีวิตของชาวม้งไว้อย่างครบถ้วน จากฝีมือของนักเรียนโรงเรียนบ้านรักแผ่นดิน อ.เทิง จ.เชียงราย และโรงเรียนสาธิตประสานมิตร หลักสูตรนานาชาติ
• กระเป๋า Mien Made งานแปรรูปหัตถกรรมปักผ้าของชาวเมี่ยนที่สืบต่อกันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ผสมผสานกับดีไซน์สมัยใหม่รูปแบบเฉพาะตัวที่เน้นความเรียบง่าย โดยโรงเรียนบ้านใหม่ปางค่า อ.ปง จ.พะเยา และโรงเรียนบางกอกพัฒนา
• เสื้อผ้าแบรนด์ TACAYVA ของโรงเรียนบ้านป่าเลา อ.แม่ทา จ.ลำพูน และโรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรูส์ ที่พัฒนาจากเสื้อเช ผ้าฝ้ายทอมือ โดยนำผ้าทอกะเหรี่ยงบ้านป่าเลาด้วยมาประยุกต์เป็นรูปแบบและลวดลายเสื้อผ้าร่วมสมัย ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์เฉพาะตัวของผ้าทอดั้งเดิมเอาไว้
• MUD JAI ผ้าฝ้ายทอมือลายลูกแก้ว 4 ตะกอ ย้อมสีธรรมชาติ จากการพัฒนาร่วมกันของโรงเรียนอนุบาลหนองวัวซอ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธาน และโรงเรียนนานาชาติบางกอกเพรพ
• สครับสูตรสาหร่ายพวงองุ่น ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากวัตถุดิบธรรมชาติ 100% โรงเรียนบ้านบางแก้ว อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี และโรงเรียนนานาชาติเด่นหล้า
• ผ้าบาติก ลวดลายแปลกใหม่ไม่ซ้ำใครที่มีทะเลอันดามันเป็นแรงบันดาลใจ ด้วยความร่วมมือจากโรงเรียนวัดโพธิ์เรียง กับโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์
• กระเป๋ารุ่นทอฝัน กระเป๋าทรง Bucket Bag จากเสื่อกก โดยโรงเรียนภูเวียงวิทยาคม อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น และโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพฯ
• กระเป๋าอเนกประสงค์ (ทรงกล่อง) กระเป๋างานคราฟต์ที่ใส่สิ่งของได้เยอะจุใจ จากโรงเรียนสมาคมพยาบาลไทย อ.สองแคว จ.น่าน
• กระเป๋าอเนกประสงค์ (ทรงคลัทช์) โดดเด่นด้วยดีไซน์เรียบง่ายและขนาดไม่ใหญ่ สามารถพกพาไปได้ทุกที่ พัฒนาโดยโรงเรียนบ้านห้วยไร่สามัคคี อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย และ
• เสื้อคุลมผ้าฝ้ายทอมือ ลายลูกแก้ว ผ้าฝ้ายทอมือที่ถักทอด้วยความประณีตและคุณภาพดี ด้วยฝีมือของนักเรียนโรงเรียนบ้านห้วยตัมชัยยะวงศาอุปถัมภ์ อ.ลี้ จ.ลำพูน

ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจะจัดจำหน่ายแบบพิเศษสุด (Exclusive) ผลิตภัณฑ์ละ 50 ชิ้นเท่านั้น บนแพลตฟอร์ม Shopee โดยสามารถเข้าไปเลือกซื้อสินค้าได้ที่ https://bit.ly/EP3eefxShopee หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Shopee ได้จากทั้ง Play Store และ Apple Store พร้อมรับโค้ดส่วนลดเพิ่ม 10% ตั้งแต่วันนี้ – 20 กุมภาพันธ์ 2565