สหภาพยุโรปมีมติระงับนำเข้าน้ำมันรัสเซียกว่า 2 ใน 3 สิ้นปีนี้ ยกเว้นฮังการี และบางประเทศ

ผู้นำสหภาพยุโรปเห็นพ้องแบนน้ำมันรัสเซียในสัดส่วนกว่า 2 ใน 3 ช่วงสิ้นปีนี้ หลังที่ประชุมตกลงให้ยกเว้นฮังการีและบางประเทศสามารถนำเข้าต่อไป เพื่อเลี่ยงผลกระทบต่อเศรษฐกิจ 

วันที่ 31 พ.ค. 2565 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้นำสหภาพยุโรป (EU) มีมติระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย 90% ภายในสิ้นปีนี้ หลังจากที่ประชุมสามารถตกลงได้โดยมีเงื่อนไขให้ข้อยกเว้นการซื้อน้ำมันผ่านท่อส่ง Druzhba ซึ่งเป็นท่อส่งน้ำมันให้กับฮังการี, สาธารณรัฐเช็ก และสโลวาเกีย 

นายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรปเปิดเผยว่า “ข้อตกลงห้ามส่งออกน้ำมันไปยังสหภาพยุโรป ซึ่งครอบคลุมการนำเข้าน้ำมันมากกว่า 2 ใน 3 จากรัสเซีย จะมีผลบังคับใช้ในทันที และจะทำให้รัสเซียขาดแหล่งเงินทุนจำนวนมาก เพื่อเป็นแรงกดดันสูงสุดให้ยุติการทำสงครามกับยูเครน”  

มติดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่การเจรจาเพื่อระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียดำเนินล่าช้ามานานกว่า 1 เดือน เนื่องจากเผชิญเสียงคัดค้านจากสมาชิกบางประเทศ โดยฮังการีได้แสดงความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ เช่นเดียวกับสโลวาเกียและสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งเป็นประเทศที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียเป็นหลัก

ที่ประชุมผู้นำสหภาพยุโรปเมื่อวันจันทร์ (30 พ.ค.) ได้ข้อสรุปว่าฮังการี ซึ่งเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลและต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซีย รวมถึงสาธารณรัฐเช็ก และสโลวาเกีย ที่อาศัยน้ำมันจากท่อส่งน้ำมัน Druzhba จะได้รับข้อยกเว้นจากมาตรการคว่ำบาตรครั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับทั้งสามประเทศ จากการที่ไม่สามารถหาน้ำมันทดแทนได้อย่างง่ายดาย

นอกจากการระงับนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียแล้ว สหภาพยุโรปยังมีมติเห็นชอบให้ตัดการเชื่อมต่อธนาคารสเบอร์แบงก์ (Sberbank) ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของรัสเซียในระบบธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศ (SWIFT) รวมถึงระงับการดำเนินการของสถานีวิทยุและโทรทัศน์ของรัฐบาลรัสเซีย 3 แห่ง และขึ้นบัญชีดำบุคคลที่เชื่อมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำสงครามในยูเครน