SHARE

คัดลอกแล้ว

สหภาพยุโรป (EU) ชี้ยังไม่มีหลักฐานยืนยันหน้ากากอนามัยเสี่ยงก่อมะเร็ง พร้อมเรียกร้องประชาชนสวมหน้ากากอนามัยต่อไปเพื่อสกัดโควิด-19 ระบาด 

วันที่ 9 พ.ย. 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานการเปิดเผยของสหภาพยุโรป (EU) ที่ออกมาระบุว่า ยังไม่พบหลักฐานแน่ชัดที่สามารถยืนยันได้ว่า หน้ากากอนามัยสังเคราะห์มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคมะเร็ง หลังจากมีคำเตือนจากผลการศึกษาบางฉบับของเบลเยี่ยมให้ระมัดระวังสารก่อมะเร็งในหน้ากากอนามัย

EU ยังเรียกร้องให้ผู้คนสวมหน้ากากอนามัยต่อไป โดยปัจจุบันหน้ากากอนามัยถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายว่าสามารถช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อไวรัส และได้กลายมาเป็นของใช้ในชีวิตประจำวันของคนทั่วโลกในช่วงที่โควิด-19 กำลังแพร่ระบาด 

คณะกรรมการธิการยุโรป ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของ EU เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าไททาเนียมไดออกไซด์ในหน้ากากอนามัยมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ 

“เมื่อพิจารณาองค์ประกอบต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน เรายังไม่สามารถสรุปว่าหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากทางการแพทย์ที่อาจมีส่วนผสมของไททาเนียมไดออกไซด์ อาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ” โฆษกคณะกรรมการธิการยุโรปกล่าวกับรอยเตอร์ส

การเปิดเผยล่าสุดนี้มีขึ้น หลังจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขของเบลเยี่ยม Sciensano ได้เปิดเผยรายงานฉบับหนึ่งเมื่อเดือนต.ค. ที่ผ่านมาว่า พบสารไททาเนียมไดออกไซด์ (TiO2) ซึ่งเป็นสารอันตรายในหน้ากากอนามัยสังเคราะห์รุ่นที่นำมาตรวจสอบ รวมถึงรุ่นที่ใช้กันอยู่ทั่วไป 

โยริส แวน โลโค หนึ่งในผู้เขียนรายงานดังกล่าวระบุว่า มีการตรวจพบอนุภาคนาโนของไททาเนียมไดออกไซด์อยู่ในหน้ากากอนามัยส่วนใหญ่ที่ใช้กันอยู่ทั่วไป รวมถึงแบบจำลองของสิ่งทอทั้งแบบใช้ครั้งเดียว และสามารถนำมาใช้ซ้ำได้ หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ และหน้ากากป้องกันก๊าซพิษ 

อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาเบื้องต้นในรายงานฉบับนี้ชี้ว่า แม้จะมีความเป็นไปได้ถึงความเสี่ยงต่อสุขภาพในหน้ากากอนามัยที่นำมาตรวจสอบ แต่ก็ยังมีความจำเป็นที่จะต้องทำการศึกษาเพิ่มเติม โดยแนะนำให้ผู้ผลิตใช้ไททาเนียมไดออกไซด์ในหน้ากากอนามัยอย่างระมัดระวัง จนกว่าจะมีหลักฐานแน่ชัดถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น 

ทั้งนี้ องค์กรวิจัยโรคมะเร็งนานาชาติ (IARC) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาระบุให้ สารไททาเนียมไดออกไซด์ ซึ่งถูกใช้เป็นสารแต่งสีและสารเคลือบสีขาวในหน้ากากอนามัยและผลิตภัณฑ์สิ่งทอ รวมถึงครีมกันแดด สี และผลิตภัณฑ์อาหาร เช่น ซุป และหมากฝรั่ง เป็นสารก่อมะเร็ง

ขณะที่คณะกรรมการธิการยุโรปมีแผนจะห้ามใช้ไททาเนียมไดออกไซด์ในอาหารตั้งแต่กลางปี 2565 เป็นต้นไป หลังจากที่หน่วยงานตรวจสอบความปลอดภัยด้านอาหารแห่งสหภาพยุโรประบุว่า สารดังกล่าวไม่มีความปลอดภัยสำหรับการบริโภค

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า