SHARE

คัดลอกแล้ว

อธิบาย Everything Everywhere All At Once ภาพยนตร์ 7 รางวัลออสการ์ แบบเข้าใจง่าย

ภาพจาก: IMDb โดย Allyson Riggs

Everything Everywhere All At Once ซือเจ๊ทะลุมัลติเวิร์ส เป็นภาพยนตร์ที่เข้าชิงรางวัลออสการ์มากที่สุดในปีนี้ ชิงไป 11 สาขา และชนะไปถึง 7 ทั้ง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นักแสดงนำหญิง สมทบชาย สบทบหญิง ผู้กำกับ บทภาพยนตร์  และตัดต่อยอดเยี่ยม ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่เป็นภาพยนตร์เรื่องเยี่ยมที่ไม่ควรพลาด แม้จะไม่ได้ยากแบบต้องปีนบันไดดู แต่สำหรับหลายคน ความบ้าคลั่งเหนือจินตนาการ และชีวิตที่แตกออกเป็นหลายเส้นทางของเอเวอลีนอาจจะทำให้คนดูหลายคนงงกับเรื่องและสารที่จะสื่อได้เหมือนกัน

เรื่องย่อ Everything Everywhere All At Once

เป็นเรื่องราวของ เอเวอลีน (รับบทโดย มิเชล โหย่ว) ที่ชีวิตกำลังอยู่ในช่วงวิกฤติ ทั้งร้านธุรกิจซักผ้า ที่เธอเปิดร่วมกับ เวย์มอนด์ (รับบทโดย โจนาธาน คี ควาน) สามีคนดีหัวอ่อนของเธอ ชีวิตแต่งงานที่ใกล้มาถึงทางตันจนเวย์มอนด์แอบเซ็นใบหย่าไว้ และความสัมพันธ์กับ จอย (รับบทโดย สเตฟานี ซู) ลูกสาวที่เป็นเลสเบี้ยน จนบางวันเธอก็แอบฝันถึงเส้นทางชีวิตที่ต่างออกไปถ้าเธอเชื่อ  กงกง (รับบทโดย เจมส์ ฮง) พ่อที่ห้ามไม่ให้เธอรักกับเวมอนด์

ระหว่างที่ปัญหาธุรกิจและปัญหาครอบครัวกำลังถาโถมกระหน่ำไปที่เอเวอลีน ขณะที่เธอกำลังจะไปชี้แจ้งกับสรรพากร เวย์มอน อัลฟ่า บุคคลจากอีกมิติหนึ่งที่หน้าตาเหมือนสามีเธอเป๊ะก็ปรากฏตัวขึ้น โดยบอกว่าเขาไม่ใช่สามีของเธอ และมอบภารกิจระดับจักรวาลให้ ซึ่งมีแต่เอเวอลีนนั้นที่จะทำได้ นั่นคือการปราบ โจบู ทูพากิ วายร้ายที่หน้าเหมือนจอยลูกสาวของเธอ 

โจบู กำลังจะทำลายล้างทุกอย่างบนโลก ในทุกจักรวาล และดูดกลืนทุกอย่างเข้าไปใน “เบกิล”  หลุมดำประหลาดที่รูปร่างคล้ายโดนัท   เอเวอรีนเริ่มค้นพบตัวเองในมิติจักรวาลต่าง ๆ ว่าตัวเธอมีชีวิต ความเป็นอยู่ หน้าที่การงานที่หลากหลาย  ตั้งแต่เป็นนักแสดงกังฟูชื่อดัง  นักร้องงิ้ว  ผู้ฝึกวิทยายุทธ์กำลังภายใน แม่บ้านทำความสะอาด แม่ครัวหัวป่าก์  รวมไปถึงตัวเธอในเวอร์ชันที่มีนิ้วเป็นไส้กรอก แต่เธอต้องผ่านอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อที่จะนำสกิลของจักรวาลอื่นมาใช้และเอากอบกู้ความสงบให้กลับคืนมา 

[บทความต่อจากนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของเรื่อง]

แม้เนื้อเรื่องจะค่อนข้างตรงไปตรงมา สำหรับบางคนอาจจะติดอยู่ที่มีบางจักรวาล ฉาก หรือตัวละคร ที่ดูแล้วไม่เข้าใจว่าที่จริงแล้วมันต้องการจะสื่ออะไร อาทิ 

มัลติเวิร์ส 

ในเรื่อง มัลติเวิร์สที่แตกออกทุกครั้งที่เอเวอลีนเลือกไปในอีกเส้นทางชีวิต สื่อได้อย่างชัดเจนว่า multiverse คือจินตนาการของสิ่งที่อาจจะเป็นไปได้ถ้าเราเลือกอีกทางในวันนั้น หลายครั้งที่ชีวิตของเอเวลีนในมัสติเวอร์สดูสวยงามกว่าชีวิตจริงของเธออย่างยิ่ง หรือแปลกสุด ๆ ไปเลย สื่อถึงการที่จิตนาการถึงชีวิตที่เราไม่ได้เลือกมักจะสวยงามกว่าความเป็นจริงตอนนี้เสมอ อย่างเช่น หนึ่งในมิติจักรวาลที่เอเวอลีนเป็นนักแสดงชื่อดังที่ได้รับรางวัลระดับนานาชาติ เพราะเธอไม่ได้เลือกใช้ชีวิตคู่กับเวย์มอนด์ในวันนั้น แต่เลือกที่จะเชื่อฟังพ่อ 

ภาพจาก: IMDb โดย Allyson Riggs

แดเนียล กวาน หนึ่งในผู้เขียนบทและผู้กำกับ เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “คำถามว่า ‘จะเกิดอะไรขึ้นถ้า’ เราต้องเปลี่ยนชีวิตตัวเองและย้ายไปอยู่ที่อื่น  มัลติเวอร์สเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบที่เราจะสำรวจสิ่งนี้ โดยเฉพาะเมื่อให้ตัวละครต่างด้าววัยกลางคนที่ใช้ชีวิตมายาวนานย้อนกลับไปมองความเสียใจทั้งหมดในชีวิตที่ผ่านมา” ซึ่งใจความสำคัญนี้ปรากฏชัดเจนในคำพูดของ เวย์มอน แอลฟ่า ที่ว่า

“ทุกความล้มเหลว แตกแขนงไปสู่ความสำเร็จในชีวิตของเอเวอลีนอีกคน
คนส่วนใหญ่มีทางเลือกสำคัญในชีวิตไม่กี่เส้นทางที่ใกล้เคียงกับพวกเขา
แต่คุณที่โลกนี้ คุณจะทำอะไรก็ได้”  – เวย์มอน แอลฟ่า

ข้อคิดหนึ่งที่ผู้ชมได้จากการทะลุมิติในเรื่อง คือการไม่นั่งเสียดายโอกาส หรือเวลาที่ย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้ การที่เอเวอลีนได้ลองย้ายไปจักรวาลอื่น ๆ และใช้ชีวิตในแต่ละบทบาทที่แตกต่างกันออกไป เปรียบได้กับ “การลองผิดลองถูก”  หรือการค้นหาประสบการณ์เพื่อที่จะแก้ไข พัฒนา ปรับปรุงตัวเองในเวอร์ชันปัจจุบันให้ดีขึ้น การเดินทางไปสู่เส้นทางความสำเร็จที่เอเวอลีนอยากได้ อาจไม่ได้มาจากทำภารกิจระดับจักรวาลอย่างการปราบโจบูทูพากิ แต่เป็นการรับรู้ตัวเองว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิต หันมาเปิดใจคุยกับคนในครอบครัว และสะสางปัญหาการจ่ายภาษีให้ถูกต้อง

นิ้วไส้กรอก

จักรวาลที่ตัวละครมีนิ้วเป็นไส้กรอกอาจจะสื่อถึงการปรับตัวของมนุษย์  เพราะเมื่อมีมือไม่สามารถใช้การได้เต็มที่ การใช้เท้าของคนเราก็ดีขึ้นไปเอง อย่างที่ เอเวอลีน และ คุณป้าเจ้าหน้าที่สรรพากร ใช้เท้าในการเล่นเปียโน ซับน้ำตาให้แก่กัน 

นอกจากนี้นิ้วไส้กรอกยังชวนให้นึกถึงจักรวาลที่เอเวอลีนเป็นสาวกังฟูที่ล้มคู่ต่อสู้โดยใช้นิ้วก้อยเพียงนิ้วเดียว แม้นิ้วก้อยดูเป็นนิ้วเล็กที่ไม่ได้ทรงพลัง แต่ในจักรวาลหนึ่งมันกลายเป็นนิ้วที่เปรียบเสมือนดาบเพชฌฆาตจัดการคู่ต่อสู้ให้ล้มได้ หนึ่งในข้อความที่เรื่องกระซิบบอกเราอาจจะสื่อถึงการไม่ให้ร่างกายเป็นข้อจำกัดในการไขว่คว้าความสำเร็จและความสุขนั่นเอง

ภาพจาก: IMDb โดย Allyson Riggs

โจบูทูพากิ

โจบูทูพากิคือจอยในอีกจักรวาลหนึ่งซึ่งถูกทดลองให้เดินทางทะลุมิติจนเกินที่เธอจะรับไหว และสุดท้ายเธอได้เข้าถึงตัวตน และพลังที่มากมายเกินกว่าจะควบคุมได้  ทุกจักรวาลที่เธอเดินทางไป โจบูไม่รับรู้ถึงตัวตนและความหมายของการมีชีวิตอยู่แม้แต่จักรวาลเดียว ทำให้เธอรู้สึกว่าชีวิตตัวเองว่างเปล่า ไม่มีจุดหมาย จนเธอได้สร้าง โดนัท “เบกิล” หรือหลุมดำที่พร้อมจะดูดกลืนกินทุกอย่างในจักรวาล  

ตัวโจบูอาจจะเป็นตัวแทนของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่พ่อแม่พยายามเตรีมความพร้อมให้เผชิญกับโลกในทุกสถานการณ์ หรือทำบางอย่างเพื่อชดเชยความต้องการของพ่อแม่ เหมือนโจบูที่ถูกทดลอง จนสุดท้ายความต้องการของตัวเองหายไป แม้เธอจะมีความเก่งกาจและพลังอำนาจมากมาย แต่กลับเชื่อว่าทุกอย่างนั้นไร้ความหมาย

ภาพจาก: IMDb โดย Allyson Riggs

คือสัญลักษณ์แทนตัวจอยในจักรวาลปกติที่คล้ายจะเป็นโรคซึมเศร้า ขาดความอบอุ่นจากครอบครัว ถูกแม่คาดหวังในตัวให้เป็นจอยในเวอร์ชันที่แม่อยากให้เป็น  จนเธอรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง  แม้จะมีคนรักเป็นสาวฝรั่ง แต่ก็ไม่รับการยอมรับจากปู่และแม่ แน่นอนว่าชีวิตเธอจึงโดดเดี่ยว และเริ่มรู้สึกไม่เห็นคุณค่าของชีวิต  ฉากสุดท้ายของเรื่อง เอเวอลีนเข้ากอดทั้งตัวโจบูและจอย ไม่ให้โจบูถูกเบเกิล โดนัทหลุมดำดูดเข้าไป และรั้งไม่ให้จอยหนีออกจากบ้าน เป็นการปลดล็อคคลายปมในใจว่าเธอได้รับการยอมรับจากแม่ในที่สุด 

เบเกิลหลุมดำ สะท้อนถึงแนวคิด Nihilism

เบกิลหลุมดำเป็นสิ่งที่โจบู วายร้ายของเรื่องสร้างขึ้น โดยมีปณิธานว่าจะทำลายทุกอย่างในทุก ๆ จักรวาลด้วยการดูดกลืนให้ทุกสิ่งหายไป รวมถึงตัวเธอเอง สอดคล้องกับ Nihilism หรือปรัชญาแขนงหนึ่งที่มองว่าทุกสรรพสิ่งไม่มีอยู่จริง และถูกประกอบสร้างขึ้นมาเพื่อผลประโยชน์ใดผลประโยชน์หนึ่ง

แนวคิดนี้สื่อถึงความว่างเปล่า ไม่มีความหมายของสิ่งตาง ๆ บนโลก สิ่งที่มนุษย์รับรู้และมีประสบการณ์ไม่ได้มีความหมายในตัวเอง แต่เกิดจากตัวมนุษย์เองเป็นผู้กำหนดคุณค่าและให้ความหมาย เมื่อเชื่อมโยงแนวคิดดังกล่าวเข้ากับการดำรงชีวิตของมนุษย์ จะพบว่าบางครั้งชีวิตมนุษย์ก็ไม่ได้มีความหมาย อยู่ในสภาวะว่างเปล่า เปรียบได้กับตัวโจบูที่ไม่รับรู้ถึงตัวตนของตัวเอง และไม่อยากมีตัวตนบนโลกใบนี้ หรือเอเวอลีนที่กำลังค้นหาความหมายของชีวิต ในช่วงที่ตัวเองกำลังประสบปัญหาหรือเคว้งคว้าง

ภาพจาก: IMDb โดย Allyson Riggs

สัญลักษณ์ของ Nihilism  คือรูปวงกลมธรรมดา คล้ายกับวงกลม enso ในศาสนา Zen สิ่งนี้ปรากฏหลายครั้งในภาพยนตร์  (motif) คล้ายกำลังจะย้ำเตือนให้ผู้ชมตีความ เกิดความหมายบางอย่าง ตั้งแต่วงกลมที่เจ้าหน้าที่สรรพากรวงในใบเสร็จร้านซักรีดของเอเวอลีน  เครื่องหัววงกลมโดนัทที่โจบูใส่ในจักรวาลหนึ่ง

หิน

เป็นรูปลักษณ์ บทบาทหนึ่งในจักรวาลที่เอเวอลีนเดินทางไป แล้วพบว่าตัวเองกำลังอยู่กับหินอีกก้อน ซึ่งก็คือโจบูทูพากิ หรือจอยลูกสาวของเธอ  ณ เวลานั้นจิตใจของโจบูทูพากิต้องการค้นพบ “ความสงบ” หรือ “นิพพาน” ในชีวิต กล่าวคือ ไม่อยากทุกข์ ไม่อยากเศร้า ไม่อยากเจ็บ  ซึ่งสภาะเดียวที่จะรู้สึกเช่นนั้นคือการกลายเป็นหิน แต่สิ่งที่ไม่สมเหตุสมผล หรือเป็นเสน่ห์ความ absurd ของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ ถึงแม้ตัวละครจะเป็นหิน แต่ก็ยังมีความรู้สึกนึกคิด เกิดกิเลสเช่นเดียวกับมนุษย์ เห็นได้จากก้อนหินที่มีจิตใต้สำนึกของโจบูหรือจอยไม่ได้ปลงตก และปล่อยวาง แต่ดิ้นรน หาเส้นทางให้ตัวเองอย่างการขยับตัวเองและกลิ้งตกหน้าผาไป

Googly eyes (ลูกตากลิ้ง) อุณาโลม และ หยินหยาง

เราจะได้เห็นเอเวอลีนนำลูกตากลิ้งมาแปะบนหน้าผากในช่วง climax ของเรื่อง ในฉากเธอได้ปลดล็อคพลังขั้นสูงสุด สามารถต่อกรกับลูกสมุนของโจบูจากจักรวาลต่าง ๆ ได้ทุกบทบาทอาชีพ  ผู้ชมบางคนเปรียบว่าลูกตากลิ้งนี้เหมือนดวงตาที่สามของพระพุทธเจ้าหรือ “อุณาโลม” บนหน้าพระ ดวงตาที่สาม ถือเป็น 1 ใน 32 มหาบุรุษลักษณะที่ทำให้พระพุทธเจ้าเห็นสรรพสิ่งทั้งปวง ซึ่งในเวลานั้นเอเวอลีนเหมือนจะได้ค้นพบความหมายของชีวิต และเลือกที่อยู่กับปัญหา จัดการความสัมพันธ์กับคนในครอบครัว โดยเฉพาะการเปิดใจคุยกับสามี และไม่ปล่อยมือลูกสาวเธออีกต่อไป  ในขณะที่ผู้ชมอีกส่วนหนึ่งเปรียบว่าลูกตากลิ้งที่มีสีดำกับขาวนั้น คือ “หยิน-หยาง” ปรัชญาที่แสดงถึงความสมดุลของธรรมชาติ จำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยกัน ดังในฉากที่โจบูกำลังจะถูกดูดเข้าไปในหลุมดำ ผู้ที่ช่วยเหลือดึงเธอออกมาไม่ได้มีเพียงแต่เอเวอลีน แต่ยังมีเวย์มอน และกงกง สมาชิกครอบครัวที่พร้อมจะเติมเต็มความว่างเปล่าในใจของโจบูหรือจอย

ดังนั้นหากมองให้ลึกลงไป Everything Everywhere All At Once จึงเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการกอบกู้ชีวิตตัวเองมากกว่าอย่างอื่น ที่บอกเล่าผ่านเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่ชีวิตการเป็นผู้ใหญ่ถาโถมเข้าใส่ ต้องดีลกับภาษี การทำธุรกิจเลี้ยงชีพ สามีไม่ได้ดั่งใจ ลูกที่ต่างทั้งวัยและค่านิยม ต่อสู้กับความเบื่อหน่ายในชีวิตอันจำเจซำ้วนไปมาเหมือนผ้าที่หมุนอยู่ในเครื่องไม่ไปไหน แต่สิ่งที่จะทำให้รอดชีวิตและกอบกู้ทุกอย่างให้กลับมาเป็นปรกติได้ คือการทำอะไรนอกกรอบเดิม ๆ บ้างเพื่ออันล็อคสกิลที่ซ่อนอยู่ เรียนรู้ว่าเราเป็นอะไรได้อีกหลายอย่าง แต่ไม่หลงไปกับความเป็นไปได้จนละทิ้งทุกสิ่งที่สร้างมาจนปัจจุบัน และเรียนรู้ว่าการเพิกเฉย ยอมแพ้ต่างหาก เป็นสิ่งที่ทำลายทุกจักรวาลและความเป็นไปได้อย่างแท้จริง

อ้างอิง : https://movieweb.com/everything-everywhere-all-at-once-nihilism-absurdism/

https://the-take.com/watch/everything-everywhere-all-at-once-every-symbol-explained

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า