Exclusive: ธนาธร อนาคตใหม่ ย้ำไม่จับมือกับ คสช. “ไม่เอาแล้วรัฐประหารซ้ำซาก”

ครบ 10 เดือนเต็มหลังจากที่ทำการก่อตั้งพรรค “อนาคตใหม่” ยืนยันเข้าสู่สนามเลือกตั้ง มีชื่อ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” เป็นหัวหน้าพรรคและอันดับหนึ่งในบัญชีรายชื่อ 10 เดือนเต็มที่ผ่านช่วงเวลาทั้งความตื่นเต้น กระแสในด้านบวก ข่าวคราวปัญหาภายในพรรค ในการสัมภาษณ์กับทีมข่าวเวิร์คพอยท์ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ยังคงยืนยัน “ไม่จับมือทำงานกับ คสช. ในทุกกรณี” และ “พอแล้วกับรัฐประหารซ้ำซาก” ชูนโยบาย “สร้างงาน” แก้ปัญหาเศรษฐกิจ 76 จังหวัด

นายธนากร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ บอกว่า หากเข้าไปเป็นรัฐบาลจะจัดเรื่องคน โดยใช้ “รัฐสวัสดิการ” ที่ดีกว่าปัจจุบันและไม่ใช่ประชานิยม โดยจะจัดสรรทรัพยากรใหม่ ยกตัวอย่างเรื่อง เบี้ยคนชราที่ปัจจุบันได้รับเดือนละ 600 บาทต่อเดือน พรรคอนาคตใหม่เสนอเป็น 1,800 บาทต่อเดือน ส่วนเงินที่นำมาจัดการใหม่จะมาจาก เช่น การปฏิรูปกองทัพตามที่พรรคเสนอ นายพล 1,600 คน เราลดเหลือ 400 คน พลทหารจาก 330,000 นาย ลดเหลือ 170,000 นาย ตรงนี้เงินจะกลับมา 50,000 ล้านบาท ลดงบประมาณกองทัพเอามาช่วยเหลือชาวบ้าน

ประสบการเมืองน้อยกว่าพรรคอื่น ไม่มีฐานเสียง คิดว่าจะได้เก้าอี้ ส.ส.กี่ที่นั่ง?

ธนาธร : ในรอบหลายเดือนมีการสำรวจความคิดเห็นประชาชน หลายความนิยมบอกว่า พรรคอนาคตจะได้ 10-15 เปอร์เซนต์ และพรรคก็ทำโพลภายในด้วยตัวเลขตรงกัน เราอยากเห็นตัวเลขที่ 20 ที่นั่ง รัฐธรรมนูญฉบับนี้อนุญาตให้เสนอกฎหมายได้ โดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากพรรคอื่น ต้องประนีประนอม หรือ Hoss Trading  จะได้เสนอร่างพรบ.ที่ก้าวหน้า พรรคเราเริ่มศูนย์ เรารู้ว่าถ้าอยากชนะเร็ว ผมเอาเงินไปซื้อ ส.ส. ที่มีโอกาสเข้ามา ซื้อแบบนี้ จะมีอุดมการณ์เดียวกันหรือไม่และมีสิทธิ์ถูกซื้อต่อไปได้ เพราะไม่ได้รัดรวมด้วยอุดมการณ์เดียวกัน 350 คนของเราไม่มีคนไหนที่ผมไม่ซื้อมาเลยนะครับ

อนาคตยืนยันว่า ไม่จับมือกับพรรคที่มาจากคสช.?

ธนาธร : ใช่ คงไม่ต้องเอ่ยว่าพรรคไหน พรรคที่สนับสนุนให้คสช.สืบทอดอำนาจได้เราไม่ร่วมมือ เราคิดว่าจะเปลี่ยนประเทศไปข้างหน้าได้ ทำให้การเปลี่ยนผ่านระหว่างเผด็จการไปสู่ประชาธิปไตยต่อเนื่องและสร้างประชาธิปไตยจริงๆ ที่ยั่งยืนในประเทศไทยได้ก้าวแรก คือการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของคสช. ดังนั้นการร่วมกับเค้าในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ผิดเป้าหมายของเราอยู่แล้ว

ถ้าเขามาเชิญ? เสนอตำแหน่งให้…

ธนาธร : ไม่ๆ แทบจะไม่มีทางเลย เป็นไปไม่ได้ ต้องบอกว่าเราตั้งขึ้นมาเพื่อจัดการกับมรดกของคสช. สิ่งที่ไม่เป็นธรรม ดังนั้นถ้าผมสัญญากับพี่น้องประชาชนได้อย่างนึงก็ต้องสัญญากันว่า จะต่อสู้กับความไม่เป็นธรรม ในสังคมไทยถึงที่สุด ดังนั้นการเข้าร่วมกับพรรคที่ต้องการให้คุณประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ ไม่ทำแน่ๆ ครับ

แม้ว่าจะต้องไปเป็นฝ่ายค้านก็ตาม?

ธนาธร : ไม่มีปัญหา นี่คือการเดินทางยาว การเปลี่ยนแปลงประเทศอย่างที่เราฝัน การสร้างสังคมที่น่าอยู่ให้กับลูกหลานของเรา ไม่ได้เกิดขึ้นในการเลือกตั้งครั้งนี้ การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเพียงแค่ก้าวแรก

อย่างนั้นมีโอกาสที่พรรคอนาคตใหม่ ถึงเวลาจะไปจับมือกับพรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักษาชาติ?

ธนาธร : เอาชื่อพรรควางไว้ก่อน สิ่งที่เราต้องการชัดเจน คือ1. ยุติการสืบทอดอำนาจของคสช. 2. แก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ 3. ล้มล้างผลพวงรัฐประหาร นี่คือจุดยืนทางการเมืองที่ใครก็ล่วงละเมิดไม่ได้ ถ้าใครล่วงละเมิดจุดยืนนี้ ไม่ร่วมงาน ถ้าใครบอกว่า เอาด้วยสามอันนี้ เราพร้อมทำงานด้วย

กับประชาธิปัตย์ จะมีโอกาสร่วมงานกันไหม?

เค้าเอาหรือเปล่า 3 อันนี้ อย่างที่บอกเอาชื่อพรรคเก็บไว้ใส่กระเป๋า เอาหลักการ 3 ข้อ ถ้าคุณเชื่อแบบผม เชื่อว่าจะเปลี่ยนผ่านจากสังคมแบบปัจจุบัน แบบที่มีการทำรัฐประหารซ้ำซาก ไปสู่สังคมที่ประชาธิปไตยยั่งยืน 3 อย่างนี้คือเงื่อนไขของการเปลี่ยนผ่าน ถ้าคุณเชื่อเหมือนผมเราร่วมงานกัน

อะไรคือจุดขายเรื่องเศรษฐกิจของพรรคอนาคตใหม่?

ธนาธร : สร้างงาน  ผมลงพื้นที่ไปทุกจังหวัดพบว่า ไม่มีงานในต่างจังหวัด คนเรียนจบปริญญาตรีไม่มีงาน มีงานเฉพาะในกทม. สมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง แต่ไม่ใช่กาลดตัวเลขคนตกงาน นอกจากนี้จะสร้างรถไฟ รถบัสในประเทศ เพราะเป็นตัวที่ทำให้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะของประเทศไทยมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ คนไม่ต้องใช้รถส่วนตัว คนไม่ได้ต้องการรถแต่คนต้องการการเดินทาง การเดินทางเป็นการเข้าถึงโอกาส เป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตไม่ใช่รถยนต์ แต่การตัดถนนโดยไม่ลงทุนในระบบสาธารณะเป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำ ไม่ยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่จะเอามาจัดสรรใหม่ พรรคอนาคตใหม่เชื่อว่า คนที่เอาศักยภาพของตัวเองมาใช้ได้ดีที่สุดคือคนที่ท้องอิ่ม ไม่ใช่ท้องหิว แต่ผลประโยชน์การพัฒนาในประเทศไทยอยู่ที่ข้างบน ไม่ใช่คนข้างล่าง

ถ้าได้เข้าไปเป็นรัฐบาล สิ่งแรกจะทำอะไร?

ธนาธร : เราอยากจะผลักดันให้ประเทศกลับเข้าสู่การเป็นประชาธิปไตย ใน 12-13 ปีที่ผ่านมา เราเห็นแล้วว่า ความเสียหายจากการไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง ทำให้เกิดอะไรกับประเทศไทยขึ้น เรามองไม่เห็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ ที่จะทำให้ภาคเอกชนไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันได้ดีขึ้น เราเจอรัฐธรรมนูญมา 5 ฉบับ ประชามติ 2 ครั้ง รัฐประหาร 2 ครั้ง การชุมนุมบนถนนอีกนับไม่ถ้วนในช่วง 13 ปีที่ผ่าน เราอยากมีส่วนยุติตรงนี้ ต้องแก้รัฐธรรมนูญ ต้องหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของคสช. และนำคนที่ทำผิดทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้

ไม่กลัวว่าจะมีความขัดแย้งรอบใหม่ ?

ธนาธร : ผมมีคำถามให้กับคนที่คิดว่า สิ่งที่ผมเสนอจะนำไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่ ถ้าคุณถามแบบนี้แสดงว่า ใครทำผิดในอดีตที่ผ่านมาเราควรจะหยวนๆ กับใครใช่ไหม เพราะเราหยวนๆ มาแบบนี้ใช่ไหมสังคมไทยจึงเป็นแบบนี้ เพราะคนที่มีเงิน มีอำนาจไม่เคยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะเราหยวนๆ มามากเกินไปแล้ว เราบอกว่า อย่าไปทำพวกเค้าเพราะจะเกิดความขัดแย้ง ตกลงเรายอมให้คนกลุ่มนึงในสังคมทำผิด โดยไม่ต้องรับผิดชอบอะไรกับการกระทำของเค้าเองหรือเปล่า คนที่มีส่วนร่วมในการทำให้ มีผู้บาดเจ็บล้มตายเยอะแยะไปหมด ปล่อยให้เค้าลอยนวลใช่ไหม ผมบอกว่าไม่ใช่ จะเดินหน้าไปข้างหน้าจำเป็นจะต้องจัดการ ความขัดแย้งที่ผ่านมา ด้วยการคืนความยุติธรรมให้กับคนทุกคนในสังคม นี่เป็นวิธีเดียวที่เราจะออกความขัดแย้งได้ ถ้าคนรู้สึกว่าเขาถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ไม่มีหรอกครับความปรองดอง

ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคการเมืองหน้าใหม่แกะกล่อง ที่บอกว่าตัวเองเริ่มจากศูนย์ และดูเหมือนจะได้แรงหนุนจากคนรุ่นใหม่จะได้รับการตอบรับมีคะแนนเสียงเข้าไปนั่งในสภาได้อย่างที่หวังเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศหรือไม่ การไม่มีฐานเสียงเลยจะเป็นจุดอ่อน หรือจะพลิกกลับเป็นจุดแข็งด้วยนโยบายนอกกรอบ คงต้องติดตามจากผลการเลือกตั้ง