SHARE

คัดลอกแล้ว

บ่ายวันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้โอกาสทีมข่าวเวิร์คพอยท์ได้สัมภาษณ์แบบเจาะลึก ถึงการก้าวเข้าสู่สนามการเลือกตั้ง จากอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาเป็นนักการเมืองเต็มตัว พร้อมการประกาศอยู่ฝ่ายตรงข้าม กับพรรคการเมืองที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปอย่างชัดเจน

ในการเลือกตั้ง 62 พรรคเสรีรวมไทย แม้จะเป็นพรรคการเมืองใหม่แกะกล่อง แต่ก็ส่งผู้สมัคร ส.ส. เขตครบทั้ง 350 เขต ยื่นใบสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 100 คน โดยส่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว นั่นคือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ หรือ “ตู่” เข้าชิงชัยกับแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคการเมืองอื่นๆ ซึ่งรวมถึง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จากพรรคพลังประชารัฐด้วย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แสดงความมั่นใจว่า จะได้คะแนนสนับสนุนจากประชาชนจนทำให้มี ส.ส. จากพรรคเสรีรวมไทยเข้าไปนั่งในสภาฯ อย่างน้อย 100 คน!!

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ระหว่างความเป็นตำรวจกับการเป็นนักการเมืองไม่แตกต่างอะไร เพราะไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง โดยตนปฏิบัติกับโจรแบบหนึ่ง แต่ปฏิบัติกับพี่น้องประชาชนอีกแบบหนึ่ง คนยากจนเพิ่มมากขึ้น เราต้องมาแก้ไข ทุ่มเท พัฒนาให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ไม่ใช่ปล่อยให้มีความเหลื่อมล้ำมากขึ้น ถ้าตนได้บริหารประเทศความเหลื่อมล้ำจะลดลง และจากการลงพื้นที่หาเสียง เรื่องแรกๆ ที่ประชาชนสะท้อนมาคือ “ปัญหาปากท้อง” ซึ่งส่วนตัวมองว่า ยึดกฎหมายหรือความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากกว่าความเป็นอยู่ของประชาชนไม่ได้ การบริหารประเทศต้องมี “ศิลป์”

“ผมจะยอมให้ประเทศชาติเป็นเผด็จการอย่างนี้ไม่ได้โดยเด็ดขาด และจะไม่ยอมให้ผู้เผด็จการคนนี้เข้ามาบริหารประเทศชาติอีกต่อไป” พล.ต.อ.เสรีิพิศุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งระหว่างการอธิบายถึงยุทธศาสตร์การต่อสู้ในสนามเลือกตั้ง 62

นโยบายโดดเด่นเรื่องแรกของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ คือ การปฏิรูปกองทัพ หยุดเผด็จการ โดยเจ้าตัว ยืนยันว่า ประเทศจำเป็นต้องมีทหาร แต่ถ้าจำนวนเกินความจำเป็นก็ต้องเอาออก เช่น การมีกองทัพไว้สำหรับศึกสงคราม มองว่า มี 3 เหล่าทัพทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศก็เพียงพอ ควรยุบ กองบัญชาการทหารสูงสุด  และยังทำให้จำนวนนายทหารลดลงด้วย นอกจากนี้ต้องแก้ไขกฎหมายให้อำนาจนายกรัฐมนตรี สามารถโยกย้าย ผู้บัญชาการเหล่าทัพได้เพื่อประสิทธิภาพในการปฏิรูปทหาร

“การแก้ปัญหาปากท้อง” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย บอกว่าไม่เน้นแจก แต่ต้องพัฒนาและดูแลคน เช่น การไปรักษาพยาบาล ทุกคนต้องสามารถใช้บัตรประชาชนใบเดียวเข้ารักษาได้ทุกโรงพยาบาล รวมทั้งต้องปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนใหม่ เพื่อพัฒนาคนให้มีความรู้ ความสามารถ มีอนาคต สร้างรายได้

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายสนับสนุน “เสรีกัญชา” ที่มากกว่าพรรคอื่นๆ โดยมองว่า จากการวิจัยที่พบว่า กัญชาที่ปลูกในประเทศไทยมีคุณภาพดีที่สุดในโลก จึงเป็นช่องทางที่ต้องสนับสนุนให้ประชาชนมีรายได้ตรงนี้ และการเสพกัญชาก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงเท่ากับยาเสพติด

“เดี๋ยวเราแก้กฎหมายสิ หรือแม้กระทั่งเสพยังไม่เท่าไหร่เลย ถ้าเสพกัญชาผมว่าปัญหายาบ้าจะลดลง เมื่อก่อนสมัยจอมพลสฤษดิ์ (ธนะรัชต์)ให้คนสูบฝิ่นได้ แต่ต้องเป็นที่โรงยาฝิ่น ใครอยากจะสูบฝิ่นก็มาที่โรงยาฝิ่นเพื่อป้องกัน” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าว

แม้จะประกาศตัวว่าอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับพรรคการเมืองที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเรียกว่า ฝ่ายเผด็จการ และพร้อมจับมือกับทุกพรรคการเมืองที่เป็นฝ่ายประชาธิปไตย แต่พล.ต.อ.เสรีิพิศุทธ์ ได้กล่าวว่า แต่ถ้าต้องการไม่ต้องการให้มีการปฏิวัติรัฐประหารขึ้นอีกในประเทศไทย ต้องเลือก ผู้สมัครของพรรคเสรีรวมไทยเพื่อให้ตนได้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะตนคือคนที่กล้าสู้กับเผด็จการ

ที่นำเสนอนโยบายมาดูเหมือนตรงข้ามกับเผด็จการ ตรงข้ามกับคุณประยุทธ์ มีนโยบายปฏิรูปกองทัพ คิดว่า หลังการเลือกตั้งถ้าขึ้นมาเป็นรัฐบาล จะมีความขัดแย้งรอบใหม่ในประเทศไทย?

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ : ไม่มีหรอกครับ ที่ไม่มีเพราะอะไร ถ้าผมเข้ามามีอำนาจ ผมเป็นนักเรียนเตรียมทหาร ผมมีเพื่อนร่วมรุ่นเป็นนายทหาร ระดับสูงเยอะแยะ รุ่นพี่รุ่นน้องเป็นทหารระดับสูงเยอะแยะ ทหารก็ไม่ใช่จิตใจเป็นเผด็จการไปทั้งหมด ทหารประชาธิปไตยทหารดีๆ ทหารที่ถูกกลุ่มเผด็จการเอาเปรียบมีเยอะแยะเลย ไม่เช่นนั้นทหารไม่มาสมัครเป็นลูกพรรคหรอก ลูกพรรคผมมีทหารเยอะแยะ เพราะฉะนั้นถ้าพี่น้องประชาชนตัดสินใจที่ต้องการเอาประชาธิปไตยกลับคืนมา และไม่ต้องการให้เผด็จการมีอำนาจต่อไปอีกแล้วเลือกผมจะมีการปฏิวัติเด็ดขาด

นโยบาย 6 หยุดของพรรคเสรีรวมไทย ประกอบด้วย

  1. หยุดความยากจน แก้ปัญหาปากท้อง สร้างความกินดีอยู่ดี
  2. หยุดคอรัปชั่น ฉ้อราษฎร์บังหลวง
  3. หยุดยาเสพติด ขจัดผู้มีอิทธิพล
  4. หยุดเผด็จการและปฏิรูปทหาร
  5. หยุดไฟใต้สร้างสังคมสันติสุข
  6. หยุดสงครามสีเสื้อสร้างความปรองดองก้าวสู่อนาคต

นับถอยหลังยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง 24 มีนาคม  ความดุเดือดของสนามการเมืองยิ่งเผ็ดร้อน สุดท้ายปลายปากกาของประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินชี้ขาด แต่ก่อนถึงวันเข้าคูหา…ติดตามการแสดงวิสัยทัศน์ การนำเสนอนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ ที่ทีมข่าวเวิร์คพอยท์คัดมานำเสนอเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจครั้งสำคัญด้วยอำนาจในมือของคุณเอง

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า