ผู้เชี่ยวชาญห่วงสหรัฐฯ ฉลองวันชาติ อาจทำโควิดระบาดรอบใหม่ 

ผู้เชี่ยวชาญสหรัฐฯ กังวลชาวอเมริกันจำนวนมากเตรียมฉลองวันชาติอาจทำให้จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 พุ่งขึ้นอีกครั้ง

วันที่ 3 ก.ค. 2564 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คณะผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่รัฐของสหรัฐฯ ได้ออกมาเตือนเกี่ยวกับยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่อาจพุ่งจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา ซึ่งมีอัตราการติดเชื้อสูง ขณะที่ชาวอเมริกันจำนวนมากเตรียมออกเดินทางช่วงวันหยุดวันชาติสหรัฐฯ

คณะผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกล่าวว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา ซึ่งพบเป็นครั้งแรกในอินเดียนั้นมีอัตราการติดเชื้อสูงกว่าสายพันธุ์อื่นมาก โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) ระบุว่า ปัจจุบันราว 25% ของผู้ป่วยรายใหม่ในสหรัฐฯ มีความเกี่ยวข้องกับสายพันธุ์นี้ สูงขึ้นจาก 6% เมื่อช่วงต้นเดือนมิ.ย.

“เมื่อพิจารณาสถานการณ์ทั่วประเทศจะเห็นว่าเรามีความก้าวหน้าที่ยอดเยี่ยมมาก แต่ถ้าดูสถานการณ์ของแต่ละรัฐและเทศมณฑล จะเห็นได้ชัดว่าชุมชนที่ประชาชนยังไม่ฉีดวัคซีนนั้นยังมีความสุ่มเสี่ยง” โรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการของศูนย์ฯ กล่าวในวันพฤหัสบดี (1 ก.ค.) “และฉันคาดว่าในช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้านี้ เชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาจะระบาดแซงหน้าสายพันธุ์อัลฟา”

หน่วยงานด้านสุขภาพท้องถิ่นรัฐอาร์คันซอซึ่งเป็นหนึ่งในรัฐที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำที่สุดในประเทศ ระบุว่ายอดผู้ป่วยในรัฐพุ่งสูง

ส่วนเทศมณฑลลอสแอนเจลิสที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศนั้น  เจ้าหน้าที่รัฐได้กล่าวเตือนถึงโอกาสการเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ โดยเฉพาะเมื่อเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว

เมื่อวันพฤหัสบดี (1 ก.ค.) ลอสแอนเจลิสตรวจพบผู้ป่วยเพิ่ม 506 ราย ซึ่งเป็นยอดสูงสุดตั้งแต่ช่วงกลางเดือน เม.ย. เป็นต้นมา ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยรายวันของช่วงกลางเดือน มิ.ย. ถึง 2 เท่า

“เราแนะนำให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่ร่มที่ไม่สามารถตรวจสอบสถานะการฉีดวัคซีนของผู้คนได้ ซึ่งจะช่วยระงับการแพร่ระบาด ขณะที่เราศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม” บาร์บารา เฟอร์เรอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายสาธารณสุขของเทศมณฑลกล่าว “เรายังมีความเสี่ยงและจำนวนผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนมากพอจะทำให้เชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาทำอันตรายต่อกระบวนการฟื้นฟูของเราได้ การสวมหน้ากากอนามัยจะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดครั้งใหม่”

เมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา โจ ไบเดน ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ได้ตั้งเป้าฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างน้อย 1 โดสให้ร้อยละ 70 ของประชากรวัยผู้ใหญ่ของประเทศ ภายในวันที่ 4 ก.ค. ซึ่งเป็นวันชาติสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม เมื่อสัปดาห์ก่อนทำเนียบขาวได้ยืนยันแล้วว่าสหรัฐฯ ไม่สามารถทำตามเป้าหมายนี้ได้

ทั้งนี้ ข้อมูลของศูนย์ฯ ระบุว่า ล่าสุดมีประชาชนชาวอเมริกันฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้วราว 47.1% ขณะที่มีผู้ฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดสแล้ว 54.7%