Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

เป็นเรื่องตื่นตะลึงเมื่อสภาผู้แทนราษฎร เชิญ “เสี่ยโป้ อานนท์” มาให้ความรู้ เพื่อศึกษาแนวทางของบ่อนพนันออนไลน์ คำถามที่คนในสังคมสนใจคือ เสี่ยโป้คือใครกันแน่ เขามีแบ็กกราวน์อย่างไร และทำไมรัฐบาลถึงต้องเชิญเขามาคำขอปรึกษา workpointTODAY จะพาไปรู้จักเขาให้ดีขึ้นใน 23 ข้อ

1) โป้ ชื่อจริงคืออภิรักษ์ ชัชชานนท์ เกิดวันที่ 6 พฤษภาคม 2535 ฐานะทางบ้านถือว่า “ดีมาก” พ่อแม่เป็นเจ้าของโรงงานผลิตเสื้อรายใหญ่ ส่งขายทั้งในประเทศ และต่างประเทศ สมบัติของครอบครัวแต่เดิมมีอยู่แล้วในระดับร้อยล้านบาท โดยครอบครัวนี้มีลูกชาย 3 คน โป้เป็นคนกลาง และเขาสนิทกับน้องชายคนเล็กที่ชื่อ “บุ๊ค” เป็นอย่างมาก

หนึ่งในสาเหตุที่คนเรียกเขาว่า “เสี่ยโป้” นั่นเพราะพื้นฐานทางบ้าน ฐานะดีอยู่แล้ว ดีก่อนที่จะเข้ามาในวงการนักเลงอีก

2) เสี่ยโป้ เผยว่าในสมัยเด็กเขาเป็นคนเรียบร้อย “ตอนเด็กๆผมเรียบร้อยนะ ก่อนเข้าบ้าน ถอดรองเท้าตลอด แต่มีครั้งหนึ่งผมทะเลาะกับเด็กคนอื่น แล้วกลับมาบ้าน พ่อก็ถามว่าทำไมไม่สู้ ถ้าสู้อย่างน้อยก็เจ็บทั้งคู่ จากวันนั้นมาผมก็เลยเปลี่ยนเป็นเด็กสู้คน”

3) โป้เริ่มตั้งแก๊งเล็กๆของตัวเองอยู่ในย่านเพชรเกษม ด้วยความที่มีฐานะดี ทำให้มีเด็กวัยรุ่นมารวมตัวกันเป็นลูกน้องของเขาจำนวนมาก และมีเรื่องทะเลาะวิวาทบ่อยครั้ง “ผมมีลูกน้องประมาณ 40-50 คน ในสมัยเด็กๆ คือผมมีชื่อเสียงแล้ว เด็กคนอื่นถ้ามาอยู่กับผม เขาจะได้มีคนคุ้มครองได้” เสี่ยโป้กล่าว

4) จากนั้นตอนอายุ 18 ปี โป้เปิดบ่อนพนันของตัวเองเป็นครั้งแรก ขณะที่ตัวเขาเองก็ติดการพนันอย่างหนัก หอบเอาเงินที่ได้จากบ่อนตัวเอง ไปเล่นที่บ่อนอื่น จนเป็นหนี้สินจำนวนมาก เมื่อเงินขาดมือจึงเริ่มเข้าสู่วงการยาเสพติด “ผมเคยยุ่งกับยาเสพติดพักหนึ่ง คนเป็นหัวหน้าก็ต้องมีเงินเลี้ยงลูกน้อง ก็เลยต้องขายยา หาเงิน การมียาเสพติด ทำให้ลูกน้องอยู่กับเรา เราก็เอายาให้เขาทั้งเสพ และขาย”

5) การอยู่ในธุรกิจสีเทา ทำให้เสี่ยโป้ ต้องมีเหตุกระทบกระทั่งกับคนตลอดเวลา และครั้งหนึ่งน้องชายแท้ๆของเสี่ยโป้ เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาท แล้วใช้มีดไปแทงวัยรุ่นรายหนึ่งเสียชีวิต “ตอนนั้นผมพาคนที่โดนแทงไปโรงพยาบาลพญาไท แล้วบอกหมอว่าช่วยชีวิตเขาที จะกี่ล้านก็ได้ แต่สุดท้ายหมอก็ยื้อไม่ไหว ผมก็จ่ายเงินชดเชยให้ที่บ้านของคนเสียชีวิต ส่วนน้องชายก็รับโทษตามกฎหมายไป”

6) ครั้งหนึ่งผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมเป็นนักเลงต้องมีเรื่องกัน โป้อธิบายว่า “เป็นนักเลงต้องมีเรื่อง มันต้องใหญ่ ให้คนเขากลัว และเป้าหมายของผมถ้าจะเข้าวงการนี้มาแล้ว ก็ต้องเป็นจ่าฝูง ต้องใหญ่ที่สุด”

7) เสี่ยโป้ สร้างชื่อในวงการนักเลงอยู่แถวฝั่งธน แต่สาเหตุที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักมากขึ้นในประเทศ คือการทะเลาะกับนักเลงคนอื่น ซึ่งได้แก่ แอล โอรส กับ เน วัดดาว

ในปี 2556 แอล โอรส เคยโพสต์แขวะเสี่ยโป้ ว่าจะไปจีบแฟนของตัวเองที่ชื่ออุ้ม ซึ่งเสี่ยโป้จึงอัดคลิปมาตอบโต้ว่า “กูไม่เคยคิดจะไปเดินข้างมันเลย ไอ้เ-ดเป็ด นี่ แม้แต่เศษเล็บ…กูไม่อยากจะให้ไปโดนมันเลย มึงจำไว้นะแอล ส่วน…อุ้ม กูยกนิ้วให้ความตอแหลของมึงเลยนะ…” ขณะที่กับกรณีของเน วัดดาว ก็ทะเลาะกันไปมา ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กเช่นกัน แต่สุดท้ายก็เป็นความเข้าใจผิด และทั้งคู่จึงกลายมาเป็นเพื่อนกันในภายหลัง

8) เสี่ยโป้ กลายเป็นไอดอลของกลุ่มเด็กๆที่อยากเป็นนักเลง ครั้งหนึ่งเขาเอาเงิน 1 ล้านบาท เอาแบงค์พันมาวางเรียงกันแล้วถ่ายรูป จนสร้างความตื่นตะลึงได้ไม่น้อยทีเดียว “มีคนเข้ามาขอแอดเพื่อนเยอะครับ แต่ผมรับไม่ได้ เพราะมันเต็ม 5 พันคนแล้ว ผมไม่ได้หยิ่งอะไรนะ ถ้าคนที่อยากให้ผมรับเพื่อนเพิ่ม ก็คงต้องไปบอกเจ้าของ facebook ให้รับเพื่อนเพิ่มให้ได้มากกว่า 5 พันคนนะครับ”

9) เมื่อเริ่มมีชื่อเสียงดังในวงกว้าง เสี่ยโป้ยืนยันว่าเขาเลิกขายยาเสพติดแล้ว แต่ยังอยู่ในวงการพนันอยู่ โดยเฉพาะพนันออนไลน์ นอกจากนั้นก็ขายของออนไลน์ไปด้วยทำรายได้ไปพร้อมกัน

ของที่เสี่ยโป้ขาย ตัวอย่างเช่น ครีมยี่ห้อไฮโดรเซลล์ “ซื้อครีมกู นี่คือยี่ห้อที่ดาราชอบใช้ มึงดูหน้ากูดิ หน้ากูใสมั้ย เดี๋ยวกูใช้ให้ดู 1,690 บาท” เสี่ยโป้โฆษณา และอีกอย่างคืออาหารเสริมยี่ห้อ OMG สำหรับใช้เพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย กล่องละ 2,200 บาท “ใน 4-5 เดือน ไม่ใหญ่ ไม่ยาวมาเหยียบกู” เสียโป้กล่าว โดยระหว่างที่โฆษณาเสี่ยโป้ถอดเสื้อผ้าหมด เหลือแต่กางเกงใน และใช้มือจับอวัยวะเพศของตัวเองด้วย เพื่อโชว์ให้เห็นว่าใหญ่จริง

10) เสี่ยโป้ สร้างชื่อมากขึ้น ในอีกเส้นทางหนึ่ง ด้วยการไปท้าทายคนอื่นให้มาต่อสู้กันจริงๆ ตัวอย่างเช่นกับ เน โฮฟาทูร่า เน็ตไอดอลอีกคนที่ชอบแต่งตัวคอสเพลย์ ก็มีการขึ้นสังเวียนสู้กันจริงๆมาแล้ว

มีครั้งหนึ่ง เสี่ยโป้ ทะเลาะใน facebook กับนักเลงอีกราย ชื่อ “กง เมืองมีน” ทั้งคู่ท้ากันไป ท้ากันมา สุดท้ายประกาศชกกันจริงๆ ด้วยกฎของมวยไทยที่สนามมวยลุมพินี ท้าชิงเงินรางวัล 4 ล้านบาท ซึ่งในวันที่เสี่ยโป้ กับ กง เมืองมีน ชกกัน มียอดคนดูไลฟ์รวมกันมากกว่า 1 แสนคนทีเดียว และหลังจากไฟต์นั้นก็มีการท้าทายนักมวยอีกบางรายเช่น อิ๊คคิวซัง แต่สุดท้ายไม่ได้ขึ้นชกกันจริงๆ

11) ความนิยมของเสี่ยโป้ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนใน facebook มีผู้ติดตามระดับหลักล้าน นั่นทำให้ยอดขายสินค้าของเขาทั้งครีมทาหน้า และอาหารเสริม ขายดีตามไปด้วย นอกจากนั้นเขายังรับรายได้อีกหลายๆทาง ทั้งจากโต๊ะพนันบอล โดยเคยเป็นคนให้ทีเด็ดฟันธงบอลแต่ละคู่มาแล้ว รวมถึงเขายังไปเปิดบ่อนพนันในต่างประเทศ แล้วเชิญชวนคนไทยให้ไปเล่นในบ่อนของเขาทางรูปแบบออนไลน์

12) เสี่ยโป้กล่าวว่า เขามีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 40-50 ล้านบาท โดยครั้งหนึ่ง มีลูกเพจไปแซวเสี่ยโป้ใน facebook ว่าเป็นเศรษฐีกำมะลอ ทำให้เสี่ยโป้โมโห หยิบเงินหลายล้านมากองบนโต๊ะ แล้วพูดว่า “เงินกูนี่ถมบ้านมึงได้เลย เงินกูทับพ่อมึงตายได้เลย”

13) จุดที่ทำให้เสี่ยโป้เป็นที่ชื่นชอบของคนกลุ่มหนึ่ง เพราะความรวยของเขานั่นเอง เสี่ยโป้จะมีกิจกรรมแจกเงินจริงในโลกออนไลน์อยู่เสมอ อยู่ๆก็แจกเงิน 500 หรือ 1000 บาท ให้กับคนที่มาฟังไลฟ์สด ซึ่งทำให้เวลาที่เขาไลฟ์เมื่อไหร่ จะมีคนมาดูไลฟ์พร้อมกันระดับหลักหมื่น

นอกจากนั้น เขาเอาเงินของตัวเองมาบริจาคให้กับการกุศลอยู่บ่อยครั้ง ตัวอย่างเช่น บริจาคให้บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ในเหตุการณ์น้ำท่วมที่อุบลราชธานี 1 ล้านบาท หรือบริจาค 2 ล้านบาท ช่วยเหลือโรงพยาบาลในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งทำให้แฟนคลับเสี่ยโป้ชื่นชมในความใจบุญ

14) ดราม่าที่ทำให้เสี่ยโป้เป็นที่รู้จักในระดับประเทศมีอยู่ 3 เรื่อง เรื่องแรกคือ คดีเปรี้ยวหั่นศพ โดยเสี่ยโป้กับเปรี้ยวนั้นแอบกิ๊กกันในช่วงสั้นๆ ประมาณ 1 เดือน โดยทั้งคู่ส่งภาพโป๊แลกกันไปมา จนถึงวันที่เปรี้ยวทำการฆาตกรรม ณ วันนั้น ยังแชทคุยกับเสี่ยโป้อยู่เลย แต่จากการสืบสวนของตำรวจพบว่า เสี่ยโป้ไม่เกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม แค่แชทกับผู้ต้องหาเฉยๆ

15) เรื่องที่ 2 คือ ดราม่ากับกานต์ วิภากร ภรรยาของเสก-โลโซ โดยในช่วงหนึ่งที่กานต์กับเสกเลิกกัน ได้ไปคบหากับเสี่ยโป้ โดยทางฝั่งกานต์ อายุมากกว่าเสี่ยโป้ถึง 19 ปี

16) เสี่ยโป้ขอกู้เงินกานต์ 50 ล้านบาท เพื่อเอาไปเล่นพนัน โดยบอกกานต์ว่า ถ้าได้กำไร จะเอามาแบ่งให้กานต์ แต่ปรากฎว่า เงินก้อน 50 ล้านเสี่ยโป้เล่นเสียทั้งหมด และขอไกล่เกลี่ยหนี้ แต่สุดท้ายกานต์ไม่ยอม แถมยังด่าเสี่ยโป้ว่าเล่นเสียแบบจัดฉากไว้แล้ว และส่งฟ้องศาลให้เสี่ยโป้ใช้หนี้ พร้อมดอกเบี้ยอีก 10 ล้าน รวมเป็น 60 ล้านบาท พร้อมออกสื่อประจานเสี่ยโป้ทุกรูปแบบ

17) และเรื่องที่ 3 คือวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 คณะก้าวหน้าจัดกิจกรรมคอนเสิร์ตระดมทุนในชื่องาน #MAYDAYMAYDAY เพื่อหาเงินช่วยเหลือประชาชนที่ลำบากจากโควิด-19 ปรากฏว่า มีแฟนคลับจำนวนมาก แชทไปหาเสี่ยโป้ ว่าให้ร่วมบริจาคด้วย ซึ่งเสี่ยโป้ด้วยความรำคาญจึงบริจาคไปแบบประชดด้วยจำนวนเงิน 1 บาท

คณะก้าวหน้าได้เงินบริจาค 7.2 ล้านบาท แจกเงินให้ประชาชน 2.4 พันคน คนละ 3 พันบาท ซึ่งเสี่ยโป้ได้เกทับ โดยบริจาคคนเดียวแบบไม่ระดมทุนเป็นจำนวน 5 ล้านบาท ให้กับ 10,000 ครอบครัว พร้อมกับโพสต์โจมตีธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจว่า “ธนาธรมีเงินมากกว่าผมเป็นร้อยเท่า การรับบริจาคแบบนี้ ธนาธรเคยลั่นวาจาไว้ว่าการแจกเงินเป็นการส่งเสริมให้คนไม่เห็นคุณค่าของเงิน แล้วมาทำแบบนี้ก็เหมือนถ่มน้ำลายใส่หน้าตัวเองครับ”

18) สำหรับในชีวิตของเสี่ยโป้ เขายอมรับว่าในสมัยอายุยังไม่ 18 เคยเข้าคุกเยาวชนอยู่บ้าง แต่กับคุกผู้ใหญ่ยังไม่เคย อย่างไรก็ตาม ก็มีเหตุทำเรื่องผิดกฎหมายมาแล้วหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการ วันที่ 24 เมษายน 2018 พกพาอาวุธปืนไปที่สาธารณะ จากนั้นในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน โดยข้อหาร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ และร่วมกันฟอกเงิน

ณ เวลานี้ เสี่ยโป้ กับ เน วัดดาว มีคดีกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ หลังจากเชิญชวนประชาชนให้เล่นพนันมากกว่า 100 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ยังอยู่ในระหว่างการสู้คดีกันอยู่ และยังไม่ได้ข้อยุติ

19) ดราม่าของเสี่ยโป้ กับธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจเกิดขึ้นอีกครั้ง ในวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยในคืนนั้นตำรวจได้ควบคุมหนึ่งในผู้ร่วมม็อบเยาวชนปลดแอก ทำให้ธนาธรไปที่ สน.สำราญราษฎร์ เพื่อติดตามสถานการณ์ ปรากฎว่าเสี่ยโป้ เดินตรงมาหาธนาธร แล้วขอคุยด้วย โดยบอกว่า ถ้ามีม็อบต่อ ประชาชน และนักศึกษาจะโดนเข่นฆ่า แล้วทำไมธนาธรไม่ยอมนำหน้าด้วยตัวเอง กลัวอะไรหรือเปล่า

อย่างไรก็ตาม ธนาธรไม่ยอมคุยด้วย และถามทีมงานว่า “คนนี้ใคร?”

20) สำหรับเสี่ยโป้ ในปัจจุบันไม่ได้ข้องเกี่ยวกับยาเสพติดแล้ว แต่ยังเล่นการพนันอยู่อย่างสม่ำเสมอ และทำธุรกิจที่เชื่อมโยงกับการพนันเป็นจำนวนมาก มีการเปิดไลน์กลุ่มให้ทีเด็ด เล่นบาคาร่าออนไลน์ และระหว่างการเล่นพนันก็เชิญชวนให้คนแชร์ไลฟ์ของเขาให้เยอะที่สุด โดยจะมีการแจกเงินให้ลูกเพจเป็นระยะ

21) ในวันที่ 26 สิงหาคม 2563 สภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญเสี่ยโป้ในฐานะผู้เชี่ยวชาญเรืองการพนันออนไลน์มาเป็นที่ปรึกษาของคณะทำงาน โดยเสี่ยโป้เปิดเผยในเรื่องนี้ พร้อมพาดพิงธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจอีกครั้งว่า “อย่าอิจฉากัน รัฐบาลเชิญพี่มาแก้ปัญหาการพนันออนไลน์ หาเงินเข้าประเทศควรทำอย่างไร เขาขอให้พี่รับตำแหน่ง เป็นที่ปรึกษาแต่พี่ไม่เอา พี่นักเลง มีสัจจะพอ ไม่เล่นการเมือง ไม่ถ่มน้ำลายใส่หน้าเหมือนไอดอลน้องๆ โง่แล้วอวดฉลาด อยากมีอำนาจในประเทศเพื่อผลประโยชน์ของบริษัทตัวเอง”

22) เสี่ยโป้มาให้ความรู้กับบรรดานักการเมือง ว่าถ้าจะแก้ปัญหาการพนันออนไลน์ต้องทำอย่างไร โดยเสี่ยโป้แนะนำว่า “รัฐบาลต้องมีเอี่ยวกับเว็บพนันโดยตรง และคนเล่นต้องเสียภาษี เรื่องการพนันออนไลน์ให้รัฐเป็นเจ้าของเว็บไปเลย ทุกอย่างจบ ประเทศมีรายได้”

ในทางกฎหมายแล้ว ผู้ที่รัฐสภาเชิญให้มาเป็นที่ปรึกษาอย่างเป็นทางการ จะได้รับเงินเดือน แต่กับกรณีของเสี่ยโป้นั้น ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี ประธานคณะทำงานแก้ปัญหาพนันออนไลน์ยืนยันว่า ไม่ได้เชิญเสี่ยโป้มาเป็นที่ปรึกษาอย่างเป็นทางการ แต่ถ้ามีปัญหาอะไรก็จะโทรไปปรึกษาเท่านั้น ในฐานะที่เสี่ยโป้เป็นผู้เชี่ยวชาญการพนันออนไลน์

23) สำหรับบทสรุปของเสี่ยโป้ อานนท์ ปัจจุบันอายุ 28 ปี เขายังคงอยู่ในแวดวงของการพนันออนไลน์ และประกอบธุรกิจส่วนตัว ขายเครื่องสำอางนำเข้าจากเกาหลีเช่นเดิม ขณะที่ยอดผู้ติดตามใน facebook เพิ่มสูงขึ้นเป็น 1.6 ล้านคนแล้ว

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า