พระเอกดัง พังเพราะบุลลี่ หลังถูกแฉว่า เคยแกล้งเพื่อนและลวนลามเพื่อนผู้หญิงร่วมชั้นเรียน

explainer เกาหลีใต้เป็นประเทศที่ “เอาจริง” กับการบุลลี่ หรือการกลั่นแกล้งเพื่อนสมัยเรียนเป็นอย่างมาก ถ้าหากซูเปอร์สตาร์ไม่ว่าจะวงการใดๆ โดนจับได้ว่า มีนิสัยชอบแกล้งเพื่อน จะโดนประณามอย่างหนัก จนไม่มีที่ยืนทันที

ล่าสุด “คิม จี-ซู” พระเอกที่กำลังมาแรง โดนแฉยับว่า เคยแกล้งเพื่อน รวมถึงลวนลามเพื่อนผู้หญิงร่วมชั้นเรียน ซึ่งแน่นอนว่า สังคมเกาหลี ก็จะไม่ให้ที่ยืนกับเขาอีกต่อไป workpointTODAY สรุปเรื่องนี้ เพื่อเป็นข้อเตือนใจว่า การคิดแกล้งเพื่อสนุก แต่อาจต้องทุกข์ไปตลอดชีวิต

1) คิม จี-ซู เป็นนักแสดงหน้าตาดี ที่มาแรงขึ้นเรื่อยๆ เขาเคยแสดงภาพยนตร์ และละครหลายเรื่อง โดยเรื่องที่เขาเป็นที่รู้จัก ในวงกว้างคือ เรื่อง Moon Lovers : Scarlet Heart Ryeo หรือชื่อไทยคือ ข้ามมิติลิขิตสวรรค์ โดยรับบทเป็นองค์ชาย 14 รวมถึงซีรีส์ในเน็ตฟลิกซ์ ที่ชื่อ My First First Love

2) ชื่อเสียงของเขาสั่งสมมาพอสมควร ปีที่แล้ว ได้รับรางวัล “นักแสดงแห่งปี” จากงานปูซาน อินเตอร์เนชันแนล ฟิล์ม เฟสติวัล จากภาพยนตร์เรื่อง Our happy summer day จากนั้นในปี 2021 เขาได้เล่นละครฟอร์มยักษ์ เรื่อง River where the moon rises ละครที่เล่าจากนิทานพื้นบ้าน โดยรับบทเป็นเจ้าโง่อนดัล พระเอกของเรื่องที่จะสมหวังกับเจ้าหญิงพยองกัง

ละครเรื่องนี้ฮิตเปรี้ยงตั้งแต่ตอนที่ 1 ได้รับเรตติ้งมหาศาลถึง 9.4% ตอนนี้ชื่อเสียงของ คิม จี-ซู กำลังพุ่งทะยานจนถึงขีดสุด

3) เรตติ้ง ใน Ep.1-6 มีความสม่ำเสมอมากๆ รักษาระดับมากกว่า 9% เอาไว้ตลอด แต่พอจบ Ep.6 ก็เกิดเรื่องดราม่าสำคัญขึ้นเมื่อในเว็บไซต์ nate (อารมณ์เหมือนพันทิปบ้านเรา) มีชาวเน็ตรายหนึ่ง โพสต์ข้อความว่า

“ผมอยากจะพูดถึง จีซู นักแสดงจากช่อง KBS ผมเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกับเขาที่มัธยมอุยดง ระหว่างปี 2006-2008 คิม จี-ซู ที่ปรากฎหน้าทีวี กับรอยยิ้มที่ดูเหมือนเป็นคนดี ความจริงแล้วเขาคือพวกชอบบุลลี่ เป็นพวกชอบกลั่นแกล้งดีๆนี่เอง”

“ตั้งแต่ ม.ต้นแล้ว เป็นที่รู้กันว่า คิม จี-ซู จะกลั่นแกล้งเพื่อนๆเสมอ ด้วยความชั่วร้ายทุกอย่างที่เป็นไปได้ เขากับพรรคพวกจะทำร้ายร่างกายคนอื่นอย่างเป็นปกติ ขณะที่เรื่องบุหรี่เป็นเรื่องธรรมดามาก หรือเวลาอยู่ในโรงอาหาร ถ้าอะไรที่เขาไม่ชอบกิน อย่างเช่นมะเขือเทศ ก็จะเขวี้ยงใส่นักเรียนที่นั่งใกล้ๆอย่างสนุกสนาน เขาจะหัวเราะเวลาเสื้อผ้าของคนอื่นเลอะเทอะ รอยยิ้มที่เขายิ้มในทีวี ก็คือรอยยิ้มเดียวกับเวลาแกล้งนักเรียนคนอื่นในโรงเรียน”

“ผมโดนเขาแกล้งอย่างหนักในปี 2008 แค่คำว่าบุลลี่ยังไม่พอ แต่การทำร้ายทุกอย่างเท่าที่คุณจะนึกออก ครั้งหนึ่งเขาจะแกล้งเพื่อนด้วยการยึดเอาของไว้กับตัว ผมเลยบอกว่า ถ้าเขาเอาไปแบบนั้น ผมจะแจ้งตำรวจ ซึ่งพอเขาได้ยิน จากนั้นก็เล่นงานผมอย่างหนักเลย”

“นอกจากคำด่าสารพัดแล้ว เขายังชักจูงให้คนอื่นรุมเกลียดผมด้วย ครั้งหนึ่งผมลงเล่นฟุตบอล คิม จี-ซู สั่งให้นักเรียนคนอื่นรุมโห่ใส่ผม ซึ่งเป็นความรู้สึกที่แย่มาก และไม่ใช่แค่ผมนะ คิม จี-ซู ชอบมากที่จะด่าทอคนอื่น และทำร้ายร่างกาย มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาไปนั่งแถวหลังในรถเมล์ แล้วเอาบีบีกัน ยิงปืนใส่เด็กนักเรียนที่เดินอยู่ตามท้องถนน พอคนอื่นเจ็บตัวก็หัวเราะอย่างสนุก”

“ที่ผมเขียนวันนี้ เพราะผมได้รับประสบการณ์ตรง บอกได้เลยว่ามีคนอีกมาก ที่ต้องเจ็บปวดเพราะคิม จี-ซู เวลาผมเห็นเขาไปสัมภาษณ์ที่ไหนก็ตาม เขาจะทำตัวเหมือนเป็นคนดีซะเต็มประดา ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะลืมเรื่องที่เคยทำไว้ในอดีต”

“ที่ผมต้องการจะบอกไม่ใช่คำขอโทษ แต่ผมอยากบอกคิม จี-ซูว่า ถ้าแกอยากแสดงละคร ก็แสดงไป แต่ขอให้แกโดนตราหน้าว่าเป็นนักแสดงที่ชอบใช้ความรุนแรงกับคนอื่น ความทรงจำของหลายๆคนที่โดนทำร้ายมันไม่จางหายง่ายๆหรอก อย่าแกล้งทำเป็นใสซื่อ เพราะมันไม่ใช่ตัวตนของแก”

4) คนโพสต์กระทู้ชื่อย่อ A โพสต์วันที่ 2 มีนาคม เวลา 18.19 น. จากนั้นเมื่อมันกลายเป็นไวรัล เวลา 18.48 น. ในกระทู้เดียวกัน ก็มีเหยื่อชื่อย่อ B มาโพสต์เช่นกันว่าเขาก็โดน

“คิม จี-ซู แกจำได้ไหมว่าเคยทำร้ายฉันแบบไม่มีเหตุผลที่โรงยิม จากนั้นวันต่อมาที่แมคโดนัลด์ แกต่อยฉัน แค่เพราะฉันไม่เห็นด้วยที่แกแอบไปกดเครื่องดื่มฟรีที่ร้านเขา แล้วแกจำได้ไหม ที่แข่งบาสเกตบอลกันแล้วพอแกแพ้ แกก็มาทำร้ายร่างกายฉันแทน ฉันอยากบอกว่า แกไม่มีวันล้างมลทินตัวเองได้หรอก”

5) จากนั้นเหยื่อ C ก็มาโพสต์อีกคนโดยบอกว่า “ฉันช็อกไปเลยนะ ตอนเห็นแกแอบเยี่ยวใส่ในถังขยะที่ห้องเรียน และที่ช็อกมากกว่าคือแกบอกว่าจะไม่ทำความสะอาดด้วยน่ะ จำได้ไหม”

6) จากนั้นเหยื่อคนต่อไป D E F ก็เพิ่มมาเรื่อยๆ แต่ละคนมีภาพถ่ายสมัยเรียน ของคิม จี-ซู ยืนยันชัดเจนว่าอยู่โรงเรียนเดียวกัน ซึ่งตอนนี้สังคมออกมากดดันให้ จี-ซู ออกมาอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น ในที่สุดวันที่ 4 มีนาคม เวลา 8.00 น. สองวันหลังเกิดเหตุแฉ เขาออกมาเขียนคำขอโทษผ่านทางอินสตาแกรมโดยยืนยันว่าเรื่องเกิดขึ้นจริง

“ผมอยากขอโทษจากใจกับผู้คนที่เจ็บปวดเพราะผม ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ ถึงพฤติกรรมที่ผมเคยทำในอดีต ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถให้อภัยได้ อย่างไรก็ตามมีส่วนหนึ่งในใจของผมที่รู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นเสมอ ผมเสียใจ และคงช้าเกินไปที่ผมจะแก้ไขอะไรได้ ผมอยู่กับเรื่องนี้ด้วยความไม่สบายใจมาตลอด และรู้สึกว่าตัวเองจะต้องเสียใจเพราะอดีตที่ผมเคยทำเอาไว้”

“ผมต้องการแสดงความสำนึกผิดจริงๆ ให้กับคนที่เจ็บปวดมาอย่างยาวนานเพราะผม เวลาที่แต่ละคนเห็นผมในฐานะนักแสดง ก็อาจไปย้ำเตือนความรู้สึกของเขาขึ้นมาอีก นี่เป็นเหมือนตราบาปที่ผมจะติดตัวผมไปทั้งชีวิต”

“ตอนนี้ผมรู้สึกเจ็บปวด และรู้สึกผิดมาก เพราะสิ่งที่ผมทำ มันได้รับผลกระทบกับสถานี กับโปรดิวเซอร์ นักแสดงคนอื่นๆ และสตาฟฟ์ทั้งหมดที่ร่วมงานกันในซีรีส์เรื่อง River Where the Moon Rises และผมหวังว่าละครจะดำเนินต่อไปได้ โดยไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องของผมมากนัก”

“ให้ผมคุกเข่าขอโทษเลยก็ได้ ผมต้องการขอโทษจากใจจริง กับผู้คนที่ต้องเจ็บปวดเพราะผม”

7) คำขอโทษของคิม จี-ซู ไม่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีนัก เพราะชาวเน็ตยังมองว่าเขาจนแต้มมากกว่า เพราะโดนแฉรัวๆขนาดนั้น ถ้าหากสำนึกเสียใจจริง ก็คงไปขอโทษคนที่เขาเคยกระทำไว้ตั้งแต่ยังไม่เป็นข่าวด้วยซ้ำ

8) ความยังไม่ทันสงบ คิม จี-ซู โดนแฉซ้ำอีกว่า เคยบังคับผู้หญิงในโรงเรียนให้มีอะไรกับเขาในห้องน้ำโรงเรียน แล้วถ่ายคลิปเอาไว้ ส่วนบางคนก็บอกว่า คิม จี-ซู เคยด่าผู้หญิงลับหลังด้วยคำหยาบคาย และบังคับให้เด็กผู้ชายในแก๊งไปรุมลวนลาม เด็กผู้หญิงที่เขามองไว้เป็นเป้าหมายด้วย

9) ในโลกอินเตอร์เน็ต บางเรื่องก็จริง บางเรื่องก็ไม่จริง แต่จากที่จี-ซู ออกมาขอโทษ ก็พอคาดการณ์ได้ว่า มันเป็นข้อเท็จจริงแน่นอนในบางส่วน ขณะที่คนโพสต์คนแรกสุด ได้โพสต์กระทู้ที่ 2 ของตัวเอง โดยยืนยันว่า เขาจะไม่รับเงินใดๆเป็นคำขอโทษเท่านั้น แต่ต้องการทำให้โลกรู้ว่า คิม จี-ซู ไม่ใช่คนดี

10) วันที่ 4 มีนาคม เวลา 19.00 น. สถานี KBS และโปรดิวเซอร์ของซีรีส์เรื่อง River Where the Moon Rises ยืนยันว่าจะถอน คิม จี-ซู ออกจากซีรีส์กลางคัน โดยจะให้นา อิน-วู นักแสดงอีกคนมารับบทบาทเป็นเจ้าโง่อนดัลแทน ตั้งแต่ ep.7 เป็นต้นไป ในขณะที่สื่อต่างๆ ที่คิม จี-ซู เคยไปออก ก็ทยอยลบรูปและคลิปของเขาออกจากระบบ

11) รายงานเผยว่า การถ่ายทำซีรีส์เรื่อง River Where the Moon Rises ถ่ายทำไปแล้ว 90% แต่ต้องโละทิ้งและถ่ายทำใหม่ ซึ่งใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลมาก แต่เพื่อภาพลักษณ์ที่สะอาด ช่อง KBS จึงไม่มีทางเลือก จำเป็นต้องถ่ายทำใหม่แบบนี้

12) สำหรับอนาคตในวงการบันเทิงของ คิม จี-ซู เชื่อว่าโอกาสคัมแบ็กกลับมาแทบเป็นไปไม่ได้เลย เพราะเขาจะเจอกระแสการต่อต้านอย่างรุนแรงจากแฟนๆ และอาจส่งผลกระทบต่อสปอนเซอร์ด้วย ดังนั้นในวัย 27 ชีวิตนักแสดงที่กำลังรุ่งโรจน์ก็ต้องพังพินาศไม่เป็นท่า จากเรื่องที่เคยทำในอดีต ชาวเน็ตบอกว่า ไม่ใช่แค่กำจัดจากซีรีส์ แต่ควรกำจัดออกไปจากสารบบของวงการบันเทิงเลย

13) ในเรื่องประเด็นการบุลลี่ ที่เกาหลีใต้ ถือเป็นวาระจริงจังมาก ถ้าหากคนดังไม่ว่าจะวงการใดๆ โดนจับได้ว่าสมัยเรียนเคยกลั่นแกล้งเพื่อน ก็จะโดนกดดันจากสังคม จนแทบจะหมดอนาคต ตัวอย่างเช่น ฝาแฝด อี แจ-ยอง และ อี ดา-ยอง สองนักวอลเลย์บอลทีมชาติ ที่โดนจับได้ว่าเคยแกล้งเพื่อนสมัยเรียน ล่าสุดก็โดนแบนจากการเล่นทีมชาติแบบไม่มีกำหนด

14) ดังนั้นนี่เป็นกรณีศึกษาที่สำคัญของเกาหลีใต้ในเชิง “บทลงโทษทางสังคม” ที่มีกับคนที่ชอบกลั่นแกล้งคนอื่น ถ้าหากไม่มีจิตสำนึกที่จะเห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน อย่างน้อยคิดถึงอนาคตของตัวเองก็ยังดี เพราะในยามที่ตัวเองรุ่งโรจน์ และกำลังจะประสบความสำเร็จ เมื่อไหร่ก็ตามที่เรื่องกลั่นแกล้งโดนเปิดเผยขึ้นมา เส้นทางที่สดใสนั้นก็จะจบสิ้นได้ในพริบตาเดียว เพราะการกลั่นแกล้งผู้อื่นเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง

ขอคุณภาพจาก @kdramasdiary