SHARE

คัดลอกแล้ว

การล็อกดาวน์ ปิดเมืองซีอาน ของประเทศจีน สร้างความโกลาหลครั้งใหญ่ และเกิดเหตุโศกนาฏกรรมหลายเคส ทั้งผู้คนแย่งชิงอาหาร และสาวท้องแก่ต้องแท้งเพราะไม่ได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างทันท่วงที ทั้งหมดเพื่อเป้าหมายของรัฐบาลในการ “ทำยอดผู้ติดเชื้อให้เป็นศูนย์”

เกิดเหตุอะไรขึ้นบ้างที่สำคัญ และในมุมของประเทศอื่น อยากจะล็อกดาวน์ตามซีอานไปหรือไม่ workpointTODAY จะสรุปสถานการณ์ล่าสุดให้เข้าใจง่ายใน 16 ข้อ

1) ในช่วงเดือนธันวาคม 2021 ประเทศจีน ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ควบคุมไวรัสได้ดีที่สุด มีการกลับมาติดเชื้อโควิด-19 อีกครั้งในบางเมือง โดยเมืองที่ได้รับการจับตามองที่สุดคือ “ซีอาน” เมืองเก่าแก่ของจีนที่มีอายุ 3 พันปี และเคยเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์ในอดีตด้วย
ซีอาน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ที่โด่งดัง แหล่งมรดกโลกอันลือชื่อ ก็ตั้งอยู่ในเขตบริเวณเมืองนั่นเอง โดยปัจจุบันซีอานมีประชากร 13 ล้านคน

2) นับจากวันที่ 9 ธันวาคม ถึง 22 ธันวาคม ซีอานมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นจำนวน 143 คน ซึ่งการติดเชื้อวันละสิบกว่าคน ถือว่าไม่ใช่จำนวนที่เยอะ ยิ่งหากเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก เป็นตัวเลขที่อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ อย่างไรก็ตาม ทางการจีนไม่ต้องการให้เกิดความเสี่ยงใดๆ ทั้งสิ้น เพราะซีอานเป็นเมืองใหญ่ หากควบคุมไม่ดีพอ อาจเกิดการแพร่กระจายไปทั่วประเทศได้

3) ดังนั้น ทำให้วันที่ 22 ธันวาคม รัฐบาลจีนประกาศ “ล็อกดาวน์” เต็มรูปแบบกับเมืองซีอาน รถบัส รถไฟ ห้ามวิ่งออกจากเมือง ขณะที่ทางหลวงจุดต่างๆ จะมีตำรวจคอยคุมอย่างเข้มงวด ไม่ให้คนเมืองซีอานออกไปไหนได้
ประชาชน 1 ครอบครัว จะออกจากบ้านได้แค่ 2 วันต่อครั้ง ครั้งละ 1 คนเท่านั้น เพื่อไปหาซื้อของใช้จำเป็น ขณะที่ประชาชนทั่วไป ถ้าไม่ได้มีอาชีพที่จำเป็นจริงๆ อย่าง ตำรวจ หมอ หรือพยาบาล ก็ห้ามออกจากบ้านเด็ดขาด

4) การล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ ทำให้ประชาชน 13 ล้านคน ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมาก ของใช้ต่างๆ ตามร้านค้า ก็หมดไปแล้ว คนในออกไม่ได้ คนนอกเข้าไม่ได้ ซึ่งก็รวมถึงการขนส่งสินค้าต่างๆ ทำได้ยากลำบากมากเช่นกัน จนประชาชนต้องใช้การแลกเปลี่ยนของระหว่างกันแทน เพื่อประคองให้ผ่านพ้นสถานการณ์ไปให้ได้
ภาครัฐมีการแจกอาหารให้ประชาชนด้วยการเข้าถึงบ้าน แต่ด้วยประชากรมากกว่าสิบล้าน ทำให้ไม่สามารถแจกจ่ายได้ทั่วถึง บางครัวเรือนรายงานว่า กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปติดต่อกัน 8 วัน เนื่องจากรัฐไม่ได้แจกจ่ายอาหารชนิดอื่น และในร้านค้าก็ไม่มีของขายเหลืออีกแล้ว จะเดินทางออกไปซื้อนอกเมืองก็ไม่สามารถทำได้

5) BBC เรียกนโยบายของจีนว่า Zero-Covid Strategy อธิบายคือจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ยอดผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ให้ได้ แม้จะทำให้ประชาชนบางส่วนจะต้องไม่พอใจ ก็จำเป็น โดยความเห็นของชาวจีนรายหนึ่งในโลกออนไลน์ โพสต์ว่า “ไม่มีใครสนใจหากคุณตายด้วยโรคอื่นที่ไม่ใช่โควิด-19”

6) การล็อกดาวน์เต็มรูปแบบในเมืองใหญ่ระดับสิบล้านคน ทำให้เกิดเหตุการณ์มากมาย ทั้งคลิป และเรื่องเล่า ถูกเผยแพร่ผ่านทางโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง ที่ทนความหิวไม่ไหว จึงออกมาจากบ้านเพื่อไปซื้อหมั่นโถว ปรากฏว่า เจอหน่วยรักษาความปลอดภัยของชุมชนไล่อัดจนเละ คลิปนี้มีคนดูมากถึง 230 ล้านครั้งในเว่ยป๋อ

7) รวมถึงอีกเรื่องใหญ่ คือหญิงท้องแก่ถูกปฏิเสธในการทำคลอด เนื่องจากเธอไม่มีผลตรวจเชื้อ PCR-TEST เธอไม่รู้จะทำอย่างไรจึงได้แต่ต้องนั่งรอหน้าโรงพยาบาลเพื่อขอความเห็นใจ แต่สุดท้ายไม่ได้รับการช่วยเหลือจนแท้งเด็ก เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นสะเทือนขวัญคนทั้งประเทศ จนรองนายกรัฐมนตรีจีน ซุน ชุน หลาน ต้องออกมาแสดงความเสียใจด้วยตนเอง

8) ขณะที่หญิงสาวอีกคนหนึ่ง โพสต์เรื่องลงในโซเชียลมีเดีย ว่าคุณพ่อของเธอป่วยหนัก มีอาการหัวใจวาย และรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที แต่โรงพยาบาลปฏิเสธไม่ยอมรักษา เนื่องจากบ้านของเธอตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ Medium-risk area พื้นที่เสี่ยงการติดเชื้อในระดับปานกลาง สุดท้ายพ่อของเธอเสียชีวิต เรื่องนี้มีคนแชร์มากกว่า 1 แสนคน โดยผู้หญิงคนดังกล่าวเขียนข้อความว่า “การช่วยเหลือที่ล้มเหลว ฉันไม่มีพ่ออีกต่อไปแล้ว”

9) อีกหนึ่งคลิปวีดีโอในออนไลน์ เป็นเหตุการณ์วันปีใหม่ 1 มกราคม หญิงสาวคนหนึ่งโดนกักตัวในโรงแรม เธอพยายามขอร้องเจ้าหน้าที่ ให้มอบผ้าอนามัยให้เธอ โดยเธอบอกว่าติดต่อไปหาหน่วยงานรัฐหลายที่ แต่ก็ไม่มีที่ไหนให้ผ้าอนามัยเธอเลย คือสิ่งพื้นฐานอย่างผ้าอนามัยยังหาไม่ได้ แสดงให้เห็นถึงความปั่นป่วนอย่างแท้จริง

10) มีการวิเคราะห์กันว่า สาเหตุที่ประเทศจีนต้องกดดันหนักขนาดนี้ เพราะวันตรุษจีนใกล้เข้ามาแล้ว เช่นเดียวกับโอลิมปิกฤดูหนาว ที่ปักกิ่งจะเป็นเจ้าภาพ ซึ่งทั้ง 2 อีเวนต์ คืออีเวนต์ใหญ่ของประเทศ ความต้องการของรัฐบาลจึงต้องการควบคุมโควิดให้ได้เบ็ดเสร็จก่อน ไม่อย่างนั้น อาจทำให้เชื้อแพร่กระจายได้อย่างมากในช่วงเทศกาลสำคัญ

11) นับจากวันที่ 9 ธันวาคม 2021 จนถึง 10 มกราคม 2022 ในระยะเวลา 1 เดือน ซีอาน มีผู้ติดเชื้อรวม 2,004 คน เป็นเมืองที่มีคนติดเชื้อมากที่สุดของจีน เป็นรองเพียงแค่อู่ฮั่น เมืองแรกที่มีการระบาดของไวรัสเท่านั้น
นั่นทำให้จนถึงปัจจุบัน (10 มกราคม) การล็อกดาวน์ยังคงอยู่ เป็นการล็อกดาวน์ที่ยาวนานที่สุดในประเทศจีน และยังไม่มีทีท่าว่าจะลดความเข้มงวดลงไปจากเดิม

12) CNN วิจารณ์ว่า What Xi’an’s chaotic lockdown reveals about China’s uncompromising top-down bureaucracy แปลว่า “ความโกลาหลในการล็อกดาวน์ที่ซีอาน เปิดเผยให้เห็นระบบการปกครองจากเบื้องบนที่ไม่ยอมประนีประนอมใดๆ ทั้งสิ้น” กล่าวคือเป็นความเด็ดขาดของรัฐบาล ที่ไม่ยอมโอนอ่อนใดๆ แม้จะมีผู้ได้รับความลำบากอย่างมากก็ตามที

13) สถานการณ์ล่าสุด รัฐบาลจีนยังไม่ประกาศว่า จะหยุดล็อกดาวน์เมื่อไหร่ ทำให้สถานการณ์ในเมืองยังคงมีความตึงเครียดต่อไป บางความเห็นระบุว่า ถ้าหากถึงวันตรุษจีนแล้วคนเมืองอื่นเดินทางกลับบ้านเกิดไปเยี่ยมครอบครัวกันได้ แต่ซีอาน ยังต้องอยู่ในสภาพนี้ต่อไป คงเป็นเรื่องที่น่าหดหู่เป็นอย่างมาก

14) ประเด็นการล็อกดาวน์ถือเป็นเรื่องที่ถูกหยิบมาพูดถึงอีกครั้ง ไม่ใช่แค่ที่จีน แต่เป็นทั่วทั้งโลก เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของไวรัสรอบใหม่ นั่นคือโอมิครอน รวมถึงในอนาคตอาจมีเชื้อสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาอีก เช่น เดลตาครอน ดังนั้นรัฐบาลหลายประเทศจึงหยิบประเด็นว่าควรนำการล็อกดาวน์กลับมาใช้อีกครั้งหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ประชาชนหลายชาติไม่ยอม ตัวอย่างเช่นที่สกอตแลนด์ มีประชาชนมากกว่า 1,000 คน เดินประท้วงที่กลาสโกว์ พร้อมกับชูป้ายว่า “สู้เพื่ออิสระของคุณ” กล่าวคือจะไม่ยอมกลับไปใช้ชีวิตแบบล็อกดาวน์อย่างเดิมอีกแล้ว

15) เช่นเดียวกับที่เนเธอร์แลนด์ ประชาชนหลายพันคน ประท้วงในอัมสเตอร์ดัม โดยระบุว่า “นี่มันไม่ใช่เรื่องของไวรัส แต่เป็นเรื่องการควบคุม” กล่าวคือ ตอนนี้ประเทศเดินหน้าไปแล้ว ในเรื่องเศรษฐกิจ ถ้าให้กลับมาล็อกดาวน์อีกรอบ แล้วประชาชนจะอยู่อย่างไร ในเมื่อมีวัคซีนครอบคลุมแล้ว ทุกคนก็ฉีดวัคซีนกันไป และหาวิธีป้องกันตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องทำการล็อกดาวน์

16) ประเด็นการล็อกดาวน์ ถือเป็นมุมที่น่าสนใจ เพราะฝั่งรัฐบาล ต้องการให้มียอดผู้ติดเชื้อน้อยลง อย่างในจีนต้องการให้เป็นศูนย์ ส่วนในประเทศอื่นๆ ต้องการให้ Flatten Curve ไม่อยากให้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากพร้อมกัน เพื่อลดภาระของแพทย์-พยาบาล แต่ในมุมของประชาชนจะไม่พร้อมกับการโดนล็อกดาวน์อีกแล้ว

สุดท้ายเรื่องนี้จึงยังไม่ได้ข้อสรุปว่า ระหว่างโดนล็อกดาวน์ จนชีวิตประชาชนลำบาก แต่ก็ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อลดลงอย่างเห็นได้ชัดอย่างซีอาน กับการไม่ยอมโดนล็อกดาวน์ แต่ละคนหาทางป้องกัน และถ้าติดเชื้อก็รักษากันตามอาการแบบในชาติยุโรป วิธีไหนจะเป็นคำตอบที่ถูกต้องที่สุดในสถานการณ์นี้

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า