SHARE

คัดลอกแล้ว

#explainer ซง จี-อา เซเล็บสุดฮอตจากซีรีส์ดัง โดนประณามอย่างดุเดือดที่ใช้ของเลียนแบบ จนกลายเป็นเรื่องใหญ่มากที่เกาหลีใต้

เธอโดนชาวเน็ตส่วนหนึ่งต่อว่าและขุดเรื่องในอดีตมาถล่ม แต่ก็มีอีกฝ่ายเช่นกันตั้งคำถามว่า ถ้าเป็นแค่ผู้ใช้ของเลียนแบบ สมควรโดนเหยียบจมดินขนาดนั้นหรือไม่ เรื่องราวเป็นอย่างไร  workpointTODAY จะอธิบายให้เข้าใจง่ายที่สุดใน 15 ข้อ

1) ซง จี-อา เป็นยูทูบเบอร์สายบิวตี้ ชาวเกาหลีใต้ ที่เปิดแชนแนลมาตั้งแต่ปี 2019 แต่เธอมาโด่งดังเป็นพลุแตกจริงๆ เมื่อเข้าร่วมเรียลลิตี้ โชว์ รายการ Single’s Inferno ที่ฉายลงเน็ตฟลิกซ์

โดยผู้ชายในรายการต่างหลงใหลไปกับสเน่ห์ของเธอ มีบางคนชื่นชมว่าเธอแต่งตัวเก่ง ดูเลิศหรู  ขณะที่คนดูทางบ้าน พอรู้จักเธอผ่านซีรีส์ ก็ไปตามดูในอินสตาแกรม หรือในแชนแนลยูทูบ ก่อนจะได้เห็นไลฟ์สไตล์ของเธอ ว่ามีความหรูอย่างมากและใช้ของแบรนด์เนมมากมายเป็นปกติ

2) ก่อนซีรีส์จะถูกฉาย อินสตาแกรมของ ซง จี-อา มีผู้ติดตาม 450,000 คน แต่เมื่อซีรีส์ฉายแล้ว คนติดตามของเธอเพิ่มเป็น 3.4 ล้านคน ผู้คนชื่นชอบเธอจากบุคลิกไฮโซดูแต่ใช้ของแพง แบรนด์เนมคุณภาพดีทั้งนั้น ขณะที่ประวัติการศึกษาก็เลิศหรู เธอเรียนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยฮานยาง ซึ่งมีแรงค์กิ้งติดอันดับท็อป 10 ของเกาหลีใต้

3) อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงนำมาซึ่งการโดนจับจ้องมากขึ้น ชาวเนติเซ็นเกาหลี มีการย้อนไปดูซีรีส์ รวมถึงรูปเก่าๆ ในไอจี แล้วตั้งข้อสังเกตว่า ของแบรนด์เนมที่ ซง จี-อาใส่ บางอย่างอาจเป็นของปลอม ตัวอย่างเช่น สร้อยคอยี่ห้อ Van Cleef & Arpels ที่เธอใส่ ตำแหน่งของโซ่กับจี้ ดูจะผิดเพี้ยนจากของออริจินอล โดยมูลค่าสร้อยของแท้ ราคา 5.7 ล้านวอน (158,217 บาท) แต่ถ้าหากเป็นของปลอมก็จะมีราคาถูกกว่านั้น อาจอยู่ระดับหลักพันบาทเท่านั้น

4) ตามด้วยเสื้อที่ลวดลายคล้ายกับ Dior ที่เธอใส่ ถูกยืนยันว่า ไม่มีเสื้อสไตล์นี้ถูกผลิต และวางขายที่เกาหลีใต้ จึงเกิดคำถามขึ้นมาว่า เธอไปเอามาจากไหน แล้วเป็นของจริงหรือไม่ สุดท้ายมีคนไปสืบเจอว่า แบรนด์ชื่อ Sweetglam ทำเสื้อให้คล้ายกับ Dior แล้ว ขายในร้านค้าออนไลน์ด้วยราคาเพียง 16,000 วอน (444 บาท)

5) เช่นเดียวกับเสื้อยืดยี่ห้อ Chanel ที่เธอใส่ลงในอินสตาแกรม ที่เป็นตัวเดียวกับที่เจนนี่ จากวง Blackpink เคยใส่ จริงๆ เสื้อรุ่นนี้ Chanel เลิกผลิตไปแล้วตั้งแต่ปี 1999 แต่ที่เจนนี่ใส่เป็นของแท้ที่ได้มาต่อจากคุณแม่ ขณะที่ ซง จี-อา ไม่มีใครรู้ว่าเธอไปหาเสื้อมาจากไหน ไปหาของ Retro หรือว่า ไปหาซื้อของปลอมทำเหมือนมากันแน่

6) สุดท้ายเมื่อโดนจับผิดหลายๆ จุด ซง จี-อา จึงออกมายอมรับ ด้วยการแถลงลงในอินสตาแกรมว่า “สวัสดี ฉัน ซง จี-อา ก่อนอื่นเลยฉันอยากจะขอโทษทุกคนที่ต้องผิดหวัง และเจ็บปวดเพราะฉัน เรื่องสินค้าที่ฉันใส่ในโซเชียลมีเดีย และในซีรีส์ Single’s Inferno คำวิจารณ์เหล่านั้นมีบางส่วนที่เป็นจริง ฉันรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง”

“ฉันอยากจะขอโทษสินค้าหลายๆ ยี่ห้อ ที่ไม่ให้ความสำคัญต่อความคิดสร้างสรรค์ของดีไซนเนอร์ และละเลยเรื่องลิขสิทธิ์ ในฐานะคนที่มีความฝันว่าสักวันจะผลิตแบรนด์สินค้าของตัวเองออกมา ฉันเข้าใจถึงความเสียหายในการกระทำนี้เป็นอย่างดี และต่อไปฉันจะระวัง และรอบคอบมากขึ้นเพื่อไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นซ้ำสอง”

“ทุกคอนเทนต์ที่ฉันโพสต์แล้วมีสินค้าปลอม ได้ถูกลบทิ้งไปหมดแล้ว ฉันอยากจะขอโทษทุกแบรนด์ ที่ต้องเสียภาพลักษณ์เพราะการกระทำของฉัน ฉันอยากขอโทษอย่างจริงใจต่อทุกคน รวมถึงแฟนๆ และผู้ติดตามของฉันด้วย ฉันจะมีชีวิตต่อไปด้วยความรับผิดชอบมากขึ้นในอนาคต”

7) ในเชิงกฎหมาย ซง จี-อา ไม่ได้ทำผิด กฎหมายลิขสิทธิ์การค้า มาตรา 108 วรรค 1 ระบุว่า ผู้ใดผลิต นำเข้า หรือขาย ของปลอม หรือของเลียนแบบลิขสิทธิ์จะมีโทษ แต่ผู้ใช้ปกติ ที่ครอบครองของผิดลิขสิทธิ์ไม่ได้มีโทษทางกฎหมายแต่อย่างใด

จริงอยู่ในทางกฎหมาย ซง จี-อา อาจไม่ได้เสียหาย แต่ในแง่ภาพลักษณ์ของคนที่กำลังจะโด่งดังในวงการบันเทิง ถือว่าเธอเจ็บตัวพอสมควรทีเดียว และเธอกลายเป็นข้อถกเถียง และข้อวิจารณ์ของโลกออนไลน์

8 ) ชาวเนติเซ็นรายหนึ่ง คอมเมนต์ว่า “เธอคนนี้เป็นของปลอมไปทุกอย่าง แม้แต่ชื่อก็ยังเปลี่ยนเลย เธอสร้างชื่อในยูทูบด้วยคอนเซ็ปต์ สาวสวยที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด เธอเคยบอกว่าพ่อของเธอเป็นหมอฟัน อันนั้นก็โกหก”

ประเด็นที่คนตั้งคำถามกันเยอะ คือด้วยคอนเทนต์ในยูทูบ ทำให้หลายคนเข้าใจว่า ซง จี-อา มีอพาร์ทเมนต์หรู อยู่ที่ Seoul Forest Trimage ที่มีราคาสูงมาก (ราว 3,200 ล้านวอน หรือ 88 ล้านบาท ต่อห้อง) ซึ่งในอพาร์ทเมนต์นี้ มีแต่คนรวยๆ หรือเซเล็บที่โด่งดังมากๆ จะอยู่กัน เช่น Jungkook และ J-Hope จากวง BTS จะมีห้องอยู่ที่นี่ แต่ชาวเน็ตก็ออกมาตั้งคำถามว่า ห้องที่ Seoul Forest Trimage ใช่ของเธอจริงๆ หรือเปล่า

9) เว็บไซต์ Koreaboo อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “ตามจริงเรื่องการใส่ของปลอมอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่มาก แต่ที่มันเป็นปัญหา เพราะซง จี-อา สร้างภาพลักษณ์เป็น สาวสวย และรวยตั้งแต่อายุยังน้อย ภาพลักษณ์ความรวยส่งเสริมให้เธอได้รับความนิยมในโลกออนไลน์ ดังนั้นหลายคนจึงรู้สึกว่าถูกหลอก”

10) หลังมีข่าวเรื่องนี้ออกไป คิม ฮยอน-จุง ผู้ชายในรายการ Single’s Inferno ที่ซีรีส์ก็ดูเหมือนจะปลูกต้นรักกับ ซง จี-อา เป็นอย่างดี ตัดสินใจอันฟอลโลว์ ซง จี-อา แต่ยังฟอลโลว์คนอื่นๆ ในซีรีส์อยู่

11) สำหรับประเด็นเรื่องการใช้ของผิดลิขสิทธิ์นี้ แตกออกเป็น 2 ความเห็น ชาวเน็ตส่วนหนึ่งตำหนิจี-อา อย่างเผ็ดร้อน ว่าจากนี้ไปจะเชื่ออะไรได้บ้างว่าอะไรของเธอที่เป็นเรื่องจริงบ้าง ถ้าหากเธอไม่รวยจริง ทำไมไม่สร้างคอนเทนต์ตามฐานะที่มี ใช้ของแบรนด์ Local ก็ได้ที่เป็นของแท้ ไม่เห็นต้องเอาแบรนด์เนมปลอมมาโชว์แบบนี้

นอกจากนั้นซีรีส์  Single’s Inferno ถูกฉายผ่านทางเน็ตฟลิกซ์ไปทั่วทั้งโลก อาจส่งผลให้คนต่างชาติมองว่าที่เกาหลียังสนับสนุนให้คนใช้ของปลอมกันอยู่เลย เพราะโปรดิวเซอร์รายการ ก็น่าจะเห็นแล้วว่าจี-อา ใช้ของปลอม แต่ยังสนับสนุนให้เธอโด่งดังเป็นสตาร์ได้

คนวิจารณ์ว่าความเป็นเซเล็บของเธอ อาจจะก่อให้เกิดการ Influence People ชี้นำให้แฟนๆ ไม่เห็นความสำคัญของการใช้ของแท้ ซึ่งแค่นี้เกาหลีก็โดนแซะว่ามี ผู้คนแอบใช้ของปลอมเยอะอยู่แล้ว แทนที่เซเล็บจะทำตัวให้น่าเชื่อถือ คุณจะชักจูงแฟนๆ ร่วมใช้ของปลอมไปด้วยกันไม่ได้

ยิ่งไปกว่านั้น หนึ่งในคลิปทางยูทูบของซง จี-อา เธอเคยรีวิวรองเท้า Chanel ของปลอมอย่างหน้าชื่นตาบานอีกด้วย มันแสดงให้เห็นเลยว่า คุณไม่ได้สนใจในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาเลยหรือเปล่า

ขณะที่สื่อดัง SNS ประเมินว่า ปัจจุบัน ซง จี-อา ทำรายได้มากกว่าเดือนละ 300 ล้านวอน (8 ล้านบาท) จากการใช้ภาพลักษณ์รวย หรู ใช้ของแพง ดังนั้นอาจทำให้เด็กวัยรุ่น มองว่าการอวดสินค้าแบรนด์เนมสำคัญที่สุด ก่อให้เกิดปัญหาสังคมไปอีก

12) คำตำหนิมีเยอะ แต่ความเห็นของแฟนๆ อีกส่วนหนึ่งก็บอกว่า แค่ใช้ของปลอมแล้วจะทำไม เธอก็ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายสักหน่อย โดยเฉพาะจากแฟนๆ นอกประเทศเกาหลี โดยหนึ่งในความเห็นจาก Reddit ระบุว่า “ถ้าเธอไม่ได้เอาของปลอมมาขาย และเจ้าของแบรนด์ไม่ได้เดือดร้อน ฉันก็ไม่ได้เห็นว่ามันจะเป็นปัญหาอะไร เธอจะใส่ของจริงหรือของเลียนแบบ ก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องที่คนอื่นต้องมายุ่งด้วย”

ชาวเน็ตรายหนึ่งอธิบายว่า สินค้าทำเหมือน (Knockoff) กับ สินค้าปลอม (Counterfeit) มีความแตกต่างกัน ถ้าเป็นสินค้าปลอมจะต้องมีของยี่ห้อนั้นๆ  Trademark คือจงใจจะก็อปกันเลย

แต่กับเคสของจี-อา เธอไม่ได้ซื้อของ Counterfeit ทุกครั้ง เสื้อหลายตัวของเธอเป็นแนว Knockoff จึงมีความเป็นไปได้ที่เธอ อาจไปซื้อหรือได้รับเสื้อจากเว็บ Sweetglam แล้วเข้าใจว่าเป็นดีไซน์ออริจินอล จนสร้างความสับสน เพราะไม่ใช่ทุกคนแน่ๆ ที่รู้ว่า เสื้อผ้าที่เจอไปหยิบเอาไอเดียจากแบรนด์ไหนมาใช้หรือเปล่า (อย่างไรก็ตามมีคนตอบโต้กลับมาเช่นกันว่า คนที่ทำงาน Content Creator สายบิวตี้ มีหรือจะไม่รู้)

13) สำหรับประเด็นเรื่องเซเล็บกับการใช้ของปลอม ไม่ใช่เรื่องใหม่ ในอดีตเคยมีสตาร์หลายคน ที่เคยใช้มาแล้ว ตัวอย่างเช่น จัสติน บีเบอร์ ที่เคยใส่เสื้อแจ๊กเกตของหลุยส์ วิตต็อง ที่เป็น Knockoff จนโดนโฆษกของหลุยส์ วิตต็อง ออกมาชี้แจงว่า เสื้อที่บีเบอร์ใส่ทางแบรนด์ไม่เคยผลิตจริง เป็นแค่ของทำเหมือนเฉยๆ

หรืออย่างที่ไทย มีประเด็นของแก้ว จากวง BNK48 ที่โดนจับผิดว่าใช้ของก็อป ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า นาฬิกา จนแฮชแท็ก #แก้วชอบใช้ของแบรนด์เนมค่ะ ติดเทรนด์อันดับ 1 ในทวิตเตอร์ของประเทศไทย จนสุดท้ายต้นสังกัดต้องพักงานแก้ว 1 เดือน

กล่าวคือถ้าหากเป็นประชาชนทั่วไปใช้ของเลียนแบบ หรือของก็อป อาจจะไม่ถูกหยิบยกเป็นประเด็นนัก แต่เมื่อเป็นเซเลบริตี้ จะมีอิมแพ็กต์ตามมาเสมอ

14) สำหรับกระแสของจี-อา ตอนนี้ถือว่าเธอต้องเจ็บตัวพอสมควร เพราะโลกออนไลน์มีการขุดคุ้ยในทุกๆ สิ่งที่เธอทำมาในอดีต ทำให้เธอจำเป็นต้องตอบคำถามมากขึ้น และเธออาจจำเป็นต้องใช้เวลาเรียกศรัทธาคืนมาจากแฟนๆ ให้ได้อีกครั้ง

15) ขณะที่ประเด็นเรื่องการใช้ของเลียนแบบ ยังคงเป็นดีเบทกันอยู่ในโลกออนไลน์ว่า มีความผิดถึงขั้นไหนกันแน่ ถ้า Counterfeit แบบนี้ผิดแน่ แต่ถ้าเป็นเสื้อผ้าที่ทำลวดลายใกล้เคียงกับแบรนด์ดังแบบนี้ถือว่าผิดหรือไม่

ในเพจของ Allkpop มีชาวต่างชาติรายหนึ่ง ตั้งข้อสังเกตว่า “ฉันใส่เสื้อผ้าแนวเลียนแบบแบรนด์ดังตลอดนะ เพราะฉันไม่มีเงินซื้อของแบรนด์ดังๆไง ดังนั้นเมื่อมองสิ่งที่ประชาชนเกาหลีปฏิบัติกับเธอแล้ว จึงทำให้เห็นเลยว่า มาตรฐานของสังคมเกาหลีมันสูงมากแค่ไหน”

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า