SHARE

คัดลอกแล้ว

นักวิเคราะห์จากนิตยสาร Forbes เผยว่า แอพ FaceApp สามารถเอาข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ซึ่งเก็บรวบรวมไว้ นำไปใช้งานต่อที่ไม่ดีได้ ขณะที่เจ้าของแอพดังกล่าวออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว 

โดยกล่าวว่า FaceApp แอพพลิเคชันที่มอบโอกาสให้พวกเราสามารถปรับแต่งหน้าตา การแสดงออกทางหน้า ตลอดจนใบหน้าของเราในช่วงวันต่างๆ แต่ในเวลาเดียวกันนั้น ผู้ใช้งานก็ได้มอบโอกาสให้กับ FaceApp เองเช่นกัน ให้สามารถนำรูปภาพและชื่อของเราไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใดๆ ก็ตามที่ต้องการ ซึ่งคล้ายกับในกรณีของบริษัทเคมบริดจ์ อนาลิติกา (Cambridge Analytica) ที่ถูกตรวจสอบพบว่านำข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้เฟซบุ๊กกว่า 50 ล้านรายชื่อ ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

โดยความฮิตของแอพดังกล่าวเห็นได้จาก ยอดการดาวโหลดแอพ FaceApp จากกูเกิลเพลย์ (Google Play) ที่มีมากกว่า 100 ล้านคน และแอพนี้ยังติดอันดับหนึ่งในแอพที่มีคนโหลดมากที่สุดบนแอปเปิลสโตร์ (Apple store) ของระบบ iOS ใน121 ประเทศทั่วโลก 

ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขการใช้งานของแอพ FaceApp ซึ่งระบุไว้ว่า ผู้ใช้ยังคงเป็นเจ้าของคอนเทนท์ หรือรูปภาพของตนเองอยู่ แต่บริษัทจะได้รับอนุญาตให้เป็นเจ้าของรูปภาพนั้นด้วย และสามารถนำรูปภาพที่ไม่ว่าจะเป็นของใครก็ตาม เอาไปใช้ทำอะไรต่อมิอะไรได้เท่าที่ต้องการ โดยเงื่อนไขมีดังนี้ 

“คุณยิมยอมให้ FaceApp ได้รับการอนุญาตให้สามารถนำเนื้อหาและชื่อใดๆ ก็ตามของผู้ใช้งาน ไปใช้ผลิตใหม่ ปรับเปลี่ยน ดัดแปลง เผยแพร่ แปล นำไปสร้างผลงานชิ้นใหม่ เผยแพร่และนำไปใช้อย่างเปิดเผย ตลอดจนสามารถนำเนื้อหาของผู้ใช้ไปใช้ในสื่อและช่องทางการเผยแพร่รูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะในปัจจุบันหรืออนาคต โดยไม่ต้องชดเชยค่าใช้จ่ายใดๆ ให้กับผู้ใช้งาน และเมื่อใดก็ตามที่ผู้ใช้งานโพสหรือแชร์เนื้อหาของคุณบนบริการของเรา ขอให้คุณเข้าใจได้ว่า เนื้อหาของคุณและข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวข้อง (ไม่ว่าจะเป็นชื่อ สถานที่ และรูปโปรไฟล์) จะแสดงให้สาธารณชนเห็น”

ในบทความของ Forbes ยังกล่าวต่อไปว่า ไม่ว่าคุณจะเห็นเรื่องนี้สำคัญหรือไม่ แต่สิ่งที่เราเรียนรู้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเกี่ยวกับไวรัลแอพพลิเคชันทางเฟซบุ๊ก ก็คือ พวกเขาไม่ได้เอาข้อมูลที่เก็บรวบรวมไว้ไปใช้ในวัตถุประสงค์อย่างที่เราอาจเข้าใจกัน และข้อมูลเหล่านั้นไม่ได้ถูกเก็บอย่างปลอดภัยและเป็นส่วนตัวด้วย นอกจากนี้ เมื่อไหร่ก็ตามที่บางสิ่งถูกอัพโหลดขึ้นบนคราวด์แล้ว คุณไม่สามารถควบคุมสิ่งนั้นได้อีกต่อไป ไม่ว่าจะยินยอมและอนุญาตหรือไม่ก็ตาม นี่เองจึงเป็นเหตุผลที่ดีที่ผู้ใช้งานควรจะระวังไม่ให้แอพใดๆ มาขออนุญาตจากคุณให้สามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาใดๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับคุณได้

นายร็อบ ลา กีส (Rob La Gesse) อดีตผู้จัดการของบริษัท Rackspace ที่ดูเรื่องการให้บริการการเก็บข้อมูลบนคราวด์ กล่าวว่า “เพื่อให้แอพ FaceApp ใช้งานได้ คุณต้องอนุญาตให้แอพนี้เข้าถึงรูปภาพทั้งหมดที่คุณมีในมือถือ ผมขอย้ำว่าทั้งหมด และนั้นยังสามารถทำให้แอพนี้เข้าไปฝังอยู่ในมือถือคุณ สามารถเข้าถึง Siri และการค้นหาข้อมูลใดๆ และเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณไม่ได้ใช้งานแอพอยู่ แอพนี้จะใช้งานจากข้อมูลของคุณอย่างต่อเนื่อง”

ขณะที่นายปีเตอร์ โคสตาดินอฟ (Peter Kostadinov) จากเว็บที่ให้ข้อมูลข่าวสารเรื่องมือถืออย่าง PhoneArena’s พูดถึงการนำข้อมูลของผู้ใช้ไปทำสิ่งที่เราไม่อาจรู้ได้ของแอพ FaceApp ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทสัญชาติรัสเซียอย่าง Wireless Labs ว่า 

“วันหนึ่งคุณอาจพบว่ารูปภาพของตัวคุณอาจไปโผล่บนป้ายบิลบอร์ดในมอสโก หรืออาจเอาไปใช้ทดสอบระบบจดจำใบหน้าของปัญญาประดิษฐ์ก็ได้”

อย่างไรก็ตาม ทางด้าน FaceApp ได้ออกมาปฎิเสธต่อข่าวดังกล่าวแล้ว โดยยืนยันว่าแอพของพวกเขาไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลและรูปภาพบนมือถือโดยไม่ได้รับอนุญาตใดๆ จากผู้ใช้งานได้ รวมทั้งไม่ได้มีการส่งข้อมูลของผู้ใช้ไปให้กับรัสเซียด้วย  

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า