สรุป 3 ประเด็นสำคัญ Facebook เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta

ในที่สุดก็เป็นไปตามข่าวลือ ที่บอกว่า Facebook จะรีแบรนด์ วางแผนเปลี่ยนชื่อบริษัท มุ่งหน้าสู่โลก Metaverse โลกที่เทคโนโลยีผสมผสานกับชีวิตความเป็นจริง และเป็นโลกที่มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก เชื่อว่าคืออนาคต

TODAY Bizview สรุป 3 ประเด็นสำคัญจากโพสต์ของมาร์ค ซักเคอร์เบิร์กที่เขียนขึ้นหลังจากประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัท มาให้อ่านกันแบบเข้าใจง่าย

1) Facebook เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta 

Meta คือชื่อบริษัทใหม่ของ Facebook ทำหน้าที่เป็นยานแม่ ส่วนบริการอื่นๆ ในเครืออย่าง Facebook, Instagram และ WhatsApp ยังอยู่เหมือนเดิม

เหตุผลที่ต้องเป็นคำว่า Meta อย่างแรกคือคำนี้สะท้อนแนวทางของ Metaverse ที่บริษัทจะเดินหน้าต่อจากนี้ 

ส่วนอีกเหตุผล มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก เขียนบอกไว้ว่า คำว่า Meta ในภาษากรีกหมายถึง Beyond ที่แปลว่า “เหนือไปกว่า, ไกลไปกว่า” แสดงให้เห็นว่า บริษัทของเขายังมีอะไรให้ทำอีกมาก ไม่ใช่แค่โซเชียลมีเดียที่อยู่บนหน้าจอมือถือหรือหน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่ง Meta คือความเป็นไปได้ที่มากกว่าสิ่งที่ Facebook เคยทำมา โลกในอนาคตจะไปไกลกว่าหน้าจอ เหนือกว่าเดิม เทคโนโลยีใหม่ๆ และบริการหลังจากนี้ของ Meta จะทลายข้อจำกัดด้านระยะทาง เพื่อให้ผู้ใช้บริการเชื่อมต่อถึงกันมากขึ้น

2) เปลี่ยนชื่อบริษัท หลายอย่างก็เปลี่ยน

มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก จะมีชื่อตำแหน่งใหม่ เป็นซีอีโอและประธานของ Meta 

นี่เป็นการเปลี่ยนครั้งใหญ่ และเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปีที่ มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก จะมีตำแหน่งใหม่ ตั้งแต่ก่อตั้ง Facebook ขึ้นมา

ชื่อหุ้นจะเปลี่ยนไป จากแต่เดิมที่ใช้คำว่า FB จะเปลี่ยนเป็น MVRS มีผลวันที่ 1 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป

ส่วนนโยบายหลักของบริษัทจะเปลี่ยนไป จากแต่เดิมที่บอกว่า “Facebook-first” มาเป็น “Metaverse-first” โฟกัสหลักของบริษัทจากนี้จะไม่ใช่โซเชียลมีเดียอย่าง Facebook อีกต่อไป แต่จะเป็นการมุ่งหน้าผลักดันเทคโนโลยีเพื่อสร้าง Metaverse 

3) มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก เชื่อว่า Metaverse คือยุคถัดไปของอินเทอร์เน็ต

จากยุคคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ สู่มือถือ
จากยุคข้อความ สู่รูปภาพ สู่วิดีโอ
แต่นี่ไม่ใช่จุดจบของเรื่องราวทั้งหมด

หลังจากนี้โลกของ Metaverse จะสร้างประสบการณ์ใหม่ ทำให้ผู้คนแม้ว่าจะอยู่คนละที่ แต่ใกล้กันได้มากขึ้นกว่าเดิม เช่น ในอนาคตคุณจะสามารถเทเลพอร์ต (teleport) ไปนั่งทำงานในออฟฟิศ หรือไปเที่ยวคอนเสิร์ตกับเพื่อนในรูปแบบโฮโลแกรม (hologram) โดยไม่ต้องเดินทาง

อย่างไรก็ตาม เรื่องการเปลี่ยนชื่อบริษัท ไม่ใช่เรื่องใหม่ ในอดีตมีหลายบริษัทที่ทำด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป เช่น

-ในปี 2003 Philip Morris เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Altria Group เนื่องจากในช่วงนั้นมีกระแสต่อต้านบริษัทผลิตผู้ผลิตบุหรี่ว่าเป็นตัวการในการทำลายสุขภาพของผู้คน

-ในปี 2007 Apple Computer เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Apple เพื่อมุ่งหน้าสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ นอกเหนือจากคอมพิวเตอร์ ในยุคนั้นมี iPod และ iPhone ที่บริษัทกำลังปลุกปั้น

-ในปี 2015 Google เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Alphabet ตั้งยานแม่ขึ้นมาเพื่อขยายธุรกิจให้หลากหลายมากขึ้น ไปไกลกว่าแค่เว็บเสิร์ชเอนจิ้น

ส่วนในปี 2021 เมื่อมองไปที่ข่าว Facebook ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta นอกเหนือจากวิสัยทัศน์แห่งอนาคตเรื่อง Metaverse ข่าวคราวของของมาร์ค ซักเคอร์เบิร์กในช่วงนี้คือการเผชิญปัญหารุมเร้าจากประเด็นฉาวจากบริการโซเชียลมีเดีย และข้อกล่าวหาเรื่องการ “เลือกผลกำไร มากกว่า ความปลอดภัยของผู้ใช้งาน”

ที่มา – Facebook, YouTube, WSJ