พนักงาน Facebook ส่งจดหมายเปิดผนึกโวยบริษัท เรียกเข้าออฟฟิศขณะโควิด-19 ระบาด

กลุ่มของพนักงานตรวจสอบเนื้อหาเปิดข้อเรียกร้องผ่านสื่อ หลังไม่ได้รับการเหลียวแลจากเฟซบุ๊กและบริษัทเอาท์ซอส พร้อมชี้ถึงปัญหาในด้านระบบการทำงานและประสิทธิภาพของ AI

วันที่ 18 พ.ย. 2563 เว็บไซต์เอ็นแกดเจ็ต (Engadget) รายงานว่า ผู้ที่ทำงานด้านการตรวจสอบเนื้อหาของ เฟซบุ๊ก (Facebook) จำนวน 234 ราย ได้รวมตัวกันยื่นจดหมายเปิดผนึกแก่สาธารณชน เพื่อเรียกร้องให้เฟซบุ๊กและบริษัทเอาท์ซอร์ส พิจารณานโยบายเรื่องสถานที่ทำงานในช่วงภาวะการระบาดของโรคโควิด-19 อีกครั้ง หลังบริษัทบังคับให้กลับเข้าไปทำงานในออฟฟิศ ท่ามกลางการระบาดของโรคโควิด-19 ที่กำลังเข้าขั้นวิกฤตในสหรัฐ

พนักงานกลุ่มนี้เผยว่า ในช่วงก่อนเกิดโรคระบาด งานด้านการตรวจสอบเนื้อหาถือเป็นงานที่โหดร้ายที่สุดของเฟซบุ๊กอยู่แล้ว จากการที่ต้องตรวจสอบโพสต์ประเภทความรุนแรงและการละเมิดเด็กเป็นเวลาหลายชั่วโมงติดต่อกัน

และตอนนี้การเข้าไปทำงานในออฟฟิศก็ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด-19 มีการยืนยันผู้ติดเชื้อหลายกรณีเกิดขึ้นในสถานที่ดังกล่าว ซึ่งทางกลุ่มได้พยายามยื่นข้อเรียกร้องกับเฟซบุ๊กและบริษัทเอาท์ซอร์สเป็นการภายใน แต่กลับได้รับการปฏิเสธ จึงจำเป็นต้องออกมาเรียกร้องผ่านสื่อเพราะไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

ก่อนหน้านี้เฟซบุ๊กยกเหตุผลด้านความปลอดภัยมาเป็นข้ออ้างว่าไม่สามารถให้ทำงานจากที่บ้านได้ แต่พนักงานกลุ่มนี้เห็นว่าควรต้องมีการจัดระเบียบการทำงานใหม่ หากเนื้อหาส่วนใดต้องการความปลอดภัยเนื่องจากเกี่ยวข้องกับคดีความ ก็ให้คงการตรวจสอบไว้ที่ออฟฟิศ แต่ส่วนอื่นๆ ควรจัดให้ตรวจสอบในการทำงานจากที่บ้านได้

นอกจากนี้ยังได้โจมตีว่าการที่เฟซบุ๊กยังต้องพึ่งพนักงานจำนวนมากในการทำงานด้านนี้ เป็นผลมาจากความล้มเหลวของระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ไม่มีประสิทธิภาพพอที่จะนำมาทดแทนการทำงานของคนได้

ทางด้านโฆษกของเฟซบุ๊กออกมาชี้แจงว่า พนักงานด้านการตรวจสอบเนื้อหาของเฟซบุ๊กมีจำนวน 15,000 คนทั่วโลก และส่วนใหญ่ก็ได้รับอนุญาตให้ทำงานจากที่บ้าน และยืนยันว่าสำนักงานของเฟซบุ๊กปลอดภัยสำหรับการทำงาน