SHARE

คัดลอกแล้ว

หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับการรับชมวิดีโอผ่านมือถือในระหว่างการเดินทางไปไหนมาไหน หรือในวันที่อยู่บ้านนิ่งๆ ก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูวิดีโอหลายอย่างไปด้วย และเชื่อว่าทุกคนน่าจะคุ้นเคยกับการกับดูวิดีโอผ่านแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์อย่าง Facebook ไม่ใช่น้อย

แต่วิดีโอบน Facebook นั้นมีความแตกต่างออกไปจากแพลตฟอร์มอื่นๆ และเป็นที่รู้จักกันในชื่อจำง่ายๆ ว่า Facebook Watch เราจะมาทำความเข้าใจกันว่า Facebook Watch คืออะไรและมีจุความโดดเด่นต่างจากแพลตฟอร์มอื่นอย่างไร

Facebook Watch และพัฒนาการของการรับชมวิดีโอ

ในปี 2015 Facebook ได้ปล่อยฟีเจอร์ Facebook Live ที่อนุญาตให้ผู้คนถ่ายวิดีโอในลักษณะของการถ่ายทอดสดได้ และกลายเป็นจุดเริ่มต้นอื่นๆ อย่างเช่น วิดีโอ 360 องศา การเล่นวิดีโออัตโนมัติ รวมไปถึงคุณสมบัติอย่าง Stories หรือการถ่ายคลิปวิดีโอขนาดสั้นที่อยู่ชั่วคราว เป็นต้น

ความเปลี่ยนแปลงนี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ Facebook ที่มองว่าการสื่อสารของคนเปลี่ยนไปจากเดิม ผู้คนเริ่มติดตามเนื้อหาในรูปแบบของภาพเคลื่อนไหวหรือวิดีโอมากขึ้น และถือเป็นอนาคตใหม่นอกเหนือจากการแชร์รูปและข้อความ วิสัยทัศน์นี้สอดคล้องกับการเข้าซื้อกิจการอย่าง Oculus ที่ในเวลานั้นมีมูลค่าสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์ และ Instagram มูลค่ากว่าพันล้านดอลลาร์ ทำให้ Facebook มีเครื่องมือที่จะนำการสื่อสารไปยังรูปภาพและภาพเคลื่อนไหว อันเป็นอนาคตนั่นเอง

Facebook Watch ออกแบบมาเพื่อการวิดีโออย่างต่อเนื่อง สนุกสนาน

ทิศทางนี้สอดคล้องกับรายงานของ Bond ในปีนี้ โดยระบุว่าผู้ใช้อินเทอร์เน็ต จะรับชมวิดีโอและรูปภาพเคลื่อนไหวมากขึ้น เพราะเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ แทนที่จะเป็นข้อความหรือการใช้ภาษา ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกคิดค้นขึ้นมาใหม่ ภายใต้ความจำเป็นนี้ย่อมแปลว่า Facebook เห็นโอกาสบางอย่าง เลยเปลี่ยนแนวทางจากการติดต่อสื่อสารผ่านสื่อสังคมออนไลน์ธรรมดา กลายมาเป็นภาพเคลื่อนไหวอย่างที่เห็น

แนวโน้มนี้ถูกตอกย้ำอีกครั้งเมื่อ Facebook ตัดสินใจปล่อยแพลตฟอร์ใหม่อีกอันที่เชื่อมเข้ากับ Facebook อย่างแนบแน่นในปี 2017 โดยให้ชื่อว่า Facebook Watch ซึ่งมีทั้งบนโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ รวมถึงหน้าจอโทรทัศน์ในฐานะเป็นศูนย์กลางของความบันเทิงและภาพเคลื่อนไหว ผู้ใช้จะสามารถรับชมวิดีโอหรือรายการต่างๆ ได้ทันที และจะเห็นความเห็น (comments) รวมถึงการกดไลก์วิดีโอต่างๆ ไปพร้อมกัน

Watch Party เปิดตัวตาม Facebook Watch

 

จุดแตกต่างของ Watch เมื่อเทียบกับ Live ที่เห็นได้ชัดเจน อยู่ที่การจัดระบบของ Watch มีความแตกต่างกันอย่างมาก ใน Watch มีการจัดเรียงวิดีโอเป็นตอน เป็นช่วง และสามารถเลือกหัวข้อที่สน หรือวิดีโอที่มีประเด็น (theme) เดียวกันได้ ทั้งหมดนี้สามารถกำหนดให้เป็นการถ่ายทอดสดก็ได้ หรือไม่เป็นการถ่ายทอดสดก็ได้เช่นกัน รวมถึงในกรณีของการถ่ายทอดสด สามารถเห็นความเห็นของผู้ชมและการกดไลก์ได้ทันที

แต่สิ่งที่มากกว่านั้นคือการที่ Facebook ตัดสินใจนำเอาอัลกอริทึม (กระบวนการตัดสินใจทางคอมพิวเตอร์) เข้ามามีส่วนช่วยทำให้รับชมวิดีโอได้ดีขึ้น ผลที่เกิดขึ้นคือวิดีโอที่ถูกนำเสนอนั้น จะมีทั้งจากการเรียนรู้การรับชมวิดีโอของผู้ใช้ การดูแนวโน้ม (เทรนด์) ของการรับชม รวมถึงนำเสนอสิ่งที่ผู้คนกำลังพูดถึงอยู่บนสื่อสังคมออนไลน์ไปในเวลาเดียวกันด้วย จุดแข็งของ Facebook Watch ที่มีเหนือกว่าแพลตฟอร์มอื่นซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกัน อยู่ที่การผนวกรวมเข้ากับแพลตฟอร์ม Facebook เดิมที่มีฐานผู้ใช้มหาศาลทั่วโลก ซึ่งในเมืองไทยปัจจุบันมีผู้เข้าใช้เป็นประจำทุกเดือนสูงถึง 54 ล้านคน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเมื่อดูตัวเลขการเติบโตของ Facebook Watch ล่าสุดเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Facebook รายงานสถิติการใช้ Watch ในทุกเดือนว่ามีคนมากกว่า 720 ล้านคนทั่วโลกที่เข้ามาใช้ และแต่ละวันมีคนจํานวนมากกว่า 140 ล้านคนทั่วโลก ใช้เวลาอย่างน้อย 1 นาทีใน Watch หากดูเป็นช่วงเวลาที่รับชม ผู้ชมที่เข้ามาชม Facebook Watch เป็นประจำทุกวันจะใช้เวลาในการรับชมวิดีโอบน Watch ไม่น้อยกว่า 26 นาทีต่อวัน

นอกจากนั้นแล้วยังพยายามทำให้แพลตฟอร์มนั้น ง่ายสำหรับคนที่สร้างวิดีโอเพื่อนำมาฉายบน Facebook ด้วย อย่างเช่นการเตรียมเครื่องมือต่างๆ เพื่อให้ผู้สร้างวิดีโอสามารถทำวิดีโอได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม จนกระทั่งมี Facebook Watch Originals หรือรายการที่สร้างและฉายบนแพลตฟอร์มนี้เป็นที่แรก

เนื่องจาก Facebook Watch เชื่อมกันอย่างแนบแน่นกับ Facebook สิ่งที่ผู้ใช้ต้องทำ คือแค่กดเลือกแถบวิดีโอในแอพ หรือถ้าเข้าไปที่เพจ ก็แค่กดแถบ Video เท่านั้น ก็สามารถเข้าสู่แพลตฟอร์ม Watch และรับชมรายการได้ทันที

สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการสร้างวิดีโอเพื่ออัพโหลดขึ้น Facebook Watch นั้น ยังทำไม่ได้ทันที เพราะแพลตฟอร์มนี้เปิดให้เฉพาะเพจ (Page) ที่อยู่บนหน้าจอ Facebook เท่านั้น และต้องมีคุณภาพ รวมถึงเนื้อหาที่ดีด้วย แพลตฟอร์มจึงจะเลือกเนื้อหาขึ้นไปนำเสนอให้

pastedGraphic_2.png

ความร่วมมือระหว่าง Facebook Watch และ Workpoint Entertainment

ความร่วมมือระหว่าง Facebook Watch และ Workpoint

ช่วงที่ผ่านมา Workpoint มีความร่วมมือที่ใกล้ชิดกับ Facebook ในฐานะที่เป็นผู้สร้างเนื้อหา (content creator) บนแพลตฟอร์มของ Facebook Watch ซึ่งมีทั้งรายการที่ออกอากาศคู่ขนานไปกับทั้งทางโทรทัศน์ และรายการที่ออกอากาศไปแล้วแต่ถูกอัพโหลดขึ้นมาบนแพลตฟอร์ม Facebook Watch อีกครั้งหนึ่งด้วย

แต่ความสำเร็จสูงสุดอยู่ที่รายการ The Mask Singer ซึ่งสามารถดึงผู้ใช้มาได้ถึง 2 แสนคนในเวลาเดียวกัน (simultaneous) และเมื่อจบรายการมีผู้ชมสูงถึง 3.8 ล้านราย นับว่าเป็นความสำเร็จที่ไม่ธรรมดาสำหรับความร่วมมือระหว่างบริษัทต่างประเทศและไทย ในการทำงานร่วมกัน

และในปีนี้ ทั้งสองบริษัทได้ร่วมมือกันเพื่อสร้างรายการ The Social Icon รายการใหม่ที่จะทำให้ผู้ชมโทรทัศน์มีความเข้าใจในการสร้างวิดีโอบนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Facebook Watch มากขึ้น โดยมีทั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากทั้งโทรทัศน์และโลกออนไลน์ รวมไปถึงผู้ชมในห้องส่ง ซึ่งจำลองโลกของการเป็นนักสร้างสรรค์หรือ วิดีโอ ครีเอเตอร์ที่โลดแล่นอยู่บนแพลทฟอร์มออนไลน์ เพื่อให้ผู้ชมเข้าใจถึงวิธีการสร้างคอนเทนท์ที่ดีที่สุดและสามารถดึงดูดผู้ชมได้มากสุดบนแพลทฟอร์มออนไลน์ด้วย

รายการ The Social Icon จะออกอากาศครั้งแรกในวันที่ 19 สิงหาคม 2562 เวลา 20.05 น. ทางช่อง Workpoint 23 และบนหน้าเพจ Facebook ของทาง Workpoint รวมถึงแพลตฟอร์ม Facebook Watch ด้วย

อ่าน Social Icon รายการที่เป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างโลกออนไลน์กับออฟไลน์

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า