ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ถูกจัดการโดยแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอีกครั้ง หลังจากให้สัมภาษณ์ว่าเด็กๆ แทบจะมีภูมิคุ้มกันต่อโควิด-19 อยู่แล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในความพยายามของทรัมป์ที่จะกดดันให้โรงเรียนทั่วประเทศกลับมาเปิดเรียนตามปกติอีกครั้ง
สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า ผู้ให้บริการโซเชียลมีเดีย 3 รายได้แก่ เฟซบุ๊ก ยูทูบ และทวิตเตอร์ ได้นำโพสต์คลิปวิดีโอของปธน.ทรัมป์และทีมหาเสียงของเขาออกจากแพลตฟอร์ม ในข้อหาทำผิดนโยบายด้านการให้ข้อมูลโควิด-19 เป็นเท็จ
ระหว่างการให้สัมภาษณ์ในรายการ Fox & Friends เมื่อคืนนี้ ปธน.ทรัมป์ได้แสดงความเห็นว่าโรงเรียนควรจะกลับมาเปิดการเรียนการสอน เพราะเด็กๆ แทบจะมีภูมิคุ้มกันต่อโรคอยู่แล้ว พวกเขามีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งกว่าผู้ใหญ่และไม่มีปัญหาใดๆ
และหากมีคนตายเป็นพันเป็นหมื่นคน ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์บอกกับเขาว่าจะมีเพียง 1 คนเท่านั้นที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี และเขาคิดว่าคนคนนั้นน่าจะเป็นโรคเบาหวาน และจะยิ่งไม่มีผลกระทบเข้าไปใหญ่ในกรณีที่อายุน้อยกว่านั้น อีกทั้งยังได้มีการใช้คำว่า เสมือนมีภูมิคุ้มกัน (virtually immune) เมื่อพูดถึงเด็กๆ อีกรอบ
เมื่อมีการนำคลิปช่วงที่ปธน.ทรัมป์ให้สัมภาษณ์ในประเด็นนี้ไปโพสต์ลงบนโซเชียลมีเดีย ทำให้เฟซบุ๊กตัดสินใจนำโพสต์ดังกล่าวออกเป็นเจ้าแรก โดยให้เหตุผลว่าวิดีโอนี้มีส่วนที่เป็นข้ออ้างผิดๆ เกี่ยวกับกลุ่มคนที่มีภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด-19 ซึ่งผิดต่อนโยบายเรื่องการให้ข้อมูลเป็นเท็จเกี่ยวกับโควิดที่อาจก่อให้เกิดอันตราย
นับเป็นครั้งแรกที่ทางเฟซบุ๊กทำการลบโพสต์ของปธน.ทรัมป์ หลังจากก่อนหน้านี้เคยถูกวิจารณ์ทั้งจากบุคคลภายนอกและพนักงานเรื่องปล่อยให้ปธน.ทรัมป์ใช้พื้นที่ในการสร้างความเกลียดชัง
ส่วนทางยูทูบและทวิตเตอร์ก็ได้นำวิดีโอออกและให้เหตุผลในลักษณะเดียวกัน แต่คลิปสัมภาษณ์ฉบับเต็มของช่อง Fox News บนยูทูบยังสามารถรับชมได้อยู่ตามปกติ
หลังจากถูกลบโพสต์ คอร์ทนีย์ พาเรลลา โฆษกประจำทีมหาเสียงของทรัมป์แย้งว่าสิ่งที่ปธน.สหรัฐฯ กล่าวในวิดีโอเป็นความจริง และผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียไม่ใช่คนที่มีหน้าที่ตัดสินความจริง
ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า จากผู้ติดเชื้อ 6 ล้านราย มีเด็กอายุระหว่าง 5-14 ปีเป็นสัดส่วนผู้ติดเชื้อที่ราวๆ 4.6%