องค์การเภสัชกรรม เผย แผนขยายการผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ ได้มากกว่า 40 ล้านเม็ดต่อเดือนตั้งแต่เดือน ต.ค. 2564 พร้อมเตรียมเปิดสายการผลิตที่ 5 โรงงานผลิตยาขององค์การเภสัชกรรม ผลิตได้ถึง 2,000 ล้านเม็ดต่อปี หรือเดือนละไม่น้อยกว่า 160 ล้านเม็ด
วันที่ 2 ส.ค. 2564 นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เปิดเผยว่า องค์การเภสัชกรรม ได้เริ่มผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ ที่มาจากการวิจัย พัฒนา และผลิตเอง ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2564 ภายใต้ชื่อ ฟาเวียร์ (200 มิลลิกรัมต่อเม็ด) และได้มีการปรับแผนขยายการผลิตเพิ่มเพื่อลดการจัดหาจากต่างประเทศ โดยในเดือน ส.ค. 2564 จะดำเนินการผลิตแบบบรรจุแผง จำนวน 2.5 ล้านเม็ด และจะเพิ่มการผลิตแบบบรรจุใส่ขวด คาดว่า จะได้รับอนุมัติแบบบรรจุขวด จาก อย. ภายในเดือน ส.ค. นี้ ในเดือน ก.ย. 2564 จะผลิตยาได้ จำนวน 23 ล้านเม็ด และตั้งแต่เดือน ต.ค. 2564 เป็นต้น ไปจะสามารถผลิตได้ไม่น้อยกว่า 40 ล้านเม็ดต่อเดือน
นพ.วิฑูรย์ กล่าวต่อว่า องค์การเภสัชกรรม ได้มีการบริหารจัดการและปรับการสำรองยาฟาวิพิราเวียร์ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ความรุนแรงของการระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศอยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ ยาฟาวิพิราเวียร์ทั้งหมดจะมีการจัดสรรให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ตามการบริหารจัดการของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข โดยกลุ่มภารกิจสำรองเวชภัณฑ์และส่งกำลังบำรุง และองค์การฯเป็นผู้ดำเนินการจัดส่งกระจายให้โรงพยาบาลต่อไป
ด้าน ดร.ภญ.มุกดาวรรณ ประกอบไวทยกิจ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (ด้านการผลิตยา) กล่าวว่า องค์การเภสัชกรรม มีแผนการผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ที่โรงงานทั้ง 2 แห่ง โดยผลิตได้แล้วในโรงงานที่ถนนพระรามที่ 6 และโรงงานผลิตยาขององค์การเภสัชกรรม ที่คลอง 10 อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี คาดว่า จะเปิดสายการผลิตที่ 5 ในเดือน ก.ย. 2564 มีศักยภาพสามารถผลิตยาได้ถึง 2,000 ล้านเม็ดต่อปี หรือเดือนละไม่น้อยกว่า 160 ล้านเม็ดต่อเดือน พร้อมนำมาปรับใช้สำหรับขยายกำลังการผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ได้ถ้ามีความต้องการเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ในส่วนการผลิตยาที่ใช้รักษาโรคเรื้อรังอื่นๆ เช่น ยารักษาโรคเบาหวาน ยารักษาความดันโลหิต ยาลดไขมัน ที่องค์การเภสัชกรรม ได้ดำเนินการผลิตอยู่นั้นปัจจุบันมีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นด้วย และกำลังการผลิตบางส่วนนำมาปรับใช้สำหรับการผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ องค์การเภสัชกรรม จะได้ทำการประสานกับ อย. และผู้ผลิตในประเทศเพื่อร่วมมือผลิต เพื่อให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรังมียาใช้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ในส่วนของการจัดหาจากต่างประเทศนั้น ในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ได้มีการจัดหาเข้ามาแล้วจำนวน 13 ล้านเม็ด และในเดือน ส.ค. นี้ จะเข้ามาเพิ่มอีก 43.1 ล้านเม็ด