เหตุผล กกต.ยื่นยุบพรรคอนาคตใหม่ กู้เงินขัด กม. – เปิดโอกาสให้ส่งเอกสารแล้ว

จากกรณี วันที่ 21 ก.พ. ศาลรัฐธรรมนูญ นัดอ่านคำวินิจฉัยในคดีที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ จากการกู้เงินนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค 191.2 ล้านบาท
.
Workpoint News เรียบเรียงข้อมูลฝั่ง กกต. ถึงเหตุผลที่ต้องร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคอนาคตใหม่

.
1. พรรคอนาคตใหม่กู้เงินนายธนาธร 191.2 ล้านบาท เป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.พรรคการเมือง ม.72 ห้ามรับบริจาคเงินทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ที่ประชุม กกต.เห็นว่ามีหลักฐานอันควรเชื่อว่าการกระทำของพรรคอนาคตใหม่ ฝาฝืน พ.ร.ป.พรรคการเมือง ทั้ง ม.62 (รายได้พรรคการเมือง) ม.66 (รับบริจาคจากบุคคลเกิน 10 ล้านบาทต่อปีไม่ได้) โดยระบุในเอกสารข่าวว่า ฝ่าฝืน ม.72
.
2. พ.ร.ป.พรรคฯ ม.92 กำหนดว่าถ้าฝ่าฝืน ม.72 ให้ยื่นศาล รธน.สั่งยุบพรรค

ดังนั้น กกต.มีมติด้วยคะแนนเสียงข้างมากให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณายุบพรรคอนาคตใหม่ ตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง ม.92 วรรคหนึ่ง (3) และมาตรา 93
.
3.กกต.เปิดโอกาสให้ส่งเอกสารหลักฐานแล้วแต่อนาคตใหม่ไม่ส่ง

คณะอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้องและปัญหาหรือข้อโต้แย้ง กกต.ระบุว่าได้ให้พรรคอนาคตใหม่ ส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาประกอบการพิจารณาเพิ่มเติม โดยจดหมายข่าว กกต. 27 พ.ย.62 ระบุว่า หลังมีมติให้ส่งเอกสารเมื่อ 19 พ.ย. 62 พรรคส่งเอกสารมาเพียงบางส่วน และขอขยายระยะเวลาส่งเอกสารไป 120 วัน ซึ่ง กกต.ประชุมแล้ว มีมติขยายเวลาให้ถึงแค่วันที่ 2 ธ.ค.62
.
– 2 ธ.ค. 62 เหรัญญิกพรรคอนาคตใหม่ ระบุไม่สามารถดำเนินการได้ทันตามเวลาในบางรายการเพราะเอกสารที่ กกต. ต้องการให้พรรคนำส่งมีจำนวนกว่าร้อยแฟ้มและทุกหน้าต้องลงนามรับรอง โดยได้แจ้ง กกต.ไปก่อนแล้ว แต่ยังได้รับการยืนยันต้องส่งภายใน 2 ธ.ค.

– 4 ธ.ค. 62 สำนักข่าวอิศรารายงานว่า สำนักงาน กกต.มีมติตัดพยานหลักฐานที่เหลือที่จะส่งให้ กกต.พิจารณา

จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.

4. กกต.เห็นต่างเรื่องข้อกฎหมายกับกรรมการสืบสวนไต่สวนที่เห็นว่ากู้เงินไม่ผิด

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ให้สัมภาษณ์เมื่อ 10 ม.ค. 63 ว่าแม้กรรมการสืบสวนไต่สวนเห็นควรยกคำร้อง แต่ที่ประชุม กกต.มีความเห็นประเด็นข้อกฎหมายที่ต่างไป
.
5.ขั้นตอนก่อนหน้าเป็นแต่ความเห็น ไม่ผูกพัน กกต.ที่มีอำนาจหน้าที่วินิจฉัย

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา ยืนยันด้วยว่า เป็นอำนาจของ กกต.จะวินิจฉัย ซึ่งกรณีนี้ต่างไปจากที่พรรคอนาคตใหม่ ยก พ.ร.ป. กกต. มาตรา 41 ที่กำหนดว่า “ถ้าผลการสืบสวนหรือไต่สวนปรากฏว่าไม่มีมูลความผิดให้สั่งยุติเรื่อง”

.
6.พรรคแจ้งว่ากู้เงิน 161.2 ล้าน และชดใช้คืนบางส่วนแล้ว เหตุใดต้องกู้เพิ่ม 30 ล้าน

จากข้อมูลที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เปิดเผยว่าเป็นเอกสารลับของ กกต. ระบุว่า คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน 2 ชุดแรกที่ทำคดีเรื่องกู้เงินมีความเห็นให้ยกคำร้อง แต่ กกต.ยังเดินหน้าให้ คณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้ง พิจารณาเรื่องนี้ต่อ ก่อนจะมีมติ 3-2 ให้ดำเนินคดี และส่งเรื่องต่อให้ กกต.ชุดใหญ่
.
หนึ่งในความเห็นของอนุกรรมการ ใน 3 เสียงที่ให้เอาผิดพรรคอนาคตใหม่ตั้งข้อสังเกตคำชี้แจงของพรรคว่ากู้เงินก้อนแรก 161.2 ล้านบาท และทยอยใช้คืนไปบางส่วนพร้อมดอกเบี้ยแล้ว ทำไมยังต้องกู้เงินก้อนที่ 2 อีก 30 ล้านบาท

“จึงมีพิรุธกับการให้การของนายธนาธรและนายปิยบุตร ที่ว่าได้นำส่งคืนเงินกู้ไปแล้วบางส่วน”

นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตว่าการให้กู้โดยไม่มีหลักประกันสัญญาใดๆ ถือเป็นการให้ประโยชน์แก่พรรคเกิน 10 ล้านบาทต่อปี และการขอเอกสารไปแล้วไม่ส่งให้จึงมีเหตุอันควรสงสัยในพฤติการณ์
.
7.เงินกู้ถือเป็นรายได้ จัดอยู่ใน พ.ร.ป.พรรคฯ ม.62 (5) เงิน ทรัพย์สิน และประโยชน์อื่นใดที่ได้จากการรับบริจาค ดังนั้นจะรับบริจาคจากบุคคลเกิน 10 ล้านบาทต่อปีไม่ได้ ตาม ม.66

อนุกรรมการเสียงข้างมากอีกคนหนึ่งระบุว่า พ.ร.ป.พรรคการเมือง ปี 2550 มีระบุเรื่องรายได้อื่นไว้ ส่วนปี 2560 ไม่มี ซึ่งการกู้ยืมถือเป็นรายได้ (โดยยกว่ารายได้ต้องยึดตามพจนานุกรม หมายถึงเงินหรือผลประโยชน์ที่ได้รับ ไม่อาจนำมาตรฐานทางบัญชีมาใช้ตีความทางกฎหมายได้)

เมื่อเป็นรายได้ ต้องมาดูว่าเข้าข้อใดใน พ.ร.ป. พรรคการเมือง 2560 ซึ่งไปเข้าใน (5) เงิน ทรัพย์สิน และประโยชน์อื่นใดที่ได้จากการรับบริจาค ซึ่งเมื่อบริจาคเกิน 10 ล้านบาทจึงฝ่าฝืน ม.66

8. เงินกู้ต่างกับเงินทดรองจ่าย เงินกู้มีดอกเบี้ย ส่วนเงินทดรองจ่าย ไม่มีดอกเบี้ยหรือระยะเวลาในการจ่าย

การให้สัมภาษณ์ของนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.เมื่อ 14 ก.พ. น่าตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการแยกกรณีของพรรคอนาคตใหม่ ที่ระบุว่า “กู้เงิน” ชัดเจน กับ พรรคอื่นๆ อีก 16 พรรค ที่อนาคตใหม่ ยกว่ากู้เงินเช่นเดียวกัน แต่พบว่ามีการลงในบัญชีว่า เงินยืม/เงินทดรองจ่าย/เงินยืมทดรองจ่าย หรือไม่