วันที่ 21 ก.พ.นี้ เวลา 15.00 น.ศาลรัฐธรรมนูญ นัดอ่านคำวินิจฉัยในคดีที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ จากการกู้เงินนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค 191.2 ล้านบาท
Workpoint News เรียบเรียงข้อมูลแนวทางการพิจารณาคดีนี้ ทั้งจากการแถลงของนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และข้อมูลจากนักวิชาการได้ ดังนี้
ศาลรัฐธรรมนูญ อาจยกคำร้องยุบพรรคของ กกต. จากกรณี
1.1 ตามประเด็นที่พรรคอนาคตใหม่ยื่นคำแก้ข้อกล่าวหาว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจยุบพรรคและตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค โดยยก รัฐธรรมนูญ มาตรา 210 ว่าไม่ได้ระบุอำนาจหน้าที่เรื่องนี้ไว้ แต่ไปเขียนไว้ใน พ.ร.ป.พรรคการเมือง ม.92 ซึ่งเท่ากับ ตัว พ.ร.ป. ขัดกับตัวรัฐธรรมนูญเอง และไม่มีอำนาจนี้ อย่างไรก็ตามหากตัดสินตามแนวนี้จะทำให้การยุบพรรคไทยรักษาชาติ ก่อนหน้านั้นมีปัญหาไปด้วย
1.2 กระบวนการของ กกต.ไม่ถูกต้อง โดยอนาคตใหม่ยกเรื่อง พ.ร.ป. กกต. มาตรา 41 กำหนดว่า “ถ้าผลการสืบสวนหรือไต่สวนปรากฏว่าไม่มีมูลความผิดให้สั่งยุติเรื่อง” ซึ่งคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน เห็นควรยกคำร้องไปแล้ว แต่ กกต.ให้เดินเรื่องต่อ ทั้งนี้ ในอดีตในคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ 2553 ศาลรัฐธรรมนูญเคยยกคำร้องเพราะกระบวนการผิดขั้นตอนมาแล้ว
1.3 พิจารณาว่าพรรคการเมืองสามารถกู้เงินได้ เพราะ “เงินกู้” ไม่ใช่ “รายได้” ตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง ม.62 และเป็นคนละส่วนกับเงินบริจาค
แม้ กกต.จะยื่นต่อศาลยุบพรรคอนาคตใหม่ จากการฝ่าฝืน มาตรา 72 ห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดํารงตําแหน่งในพรรคการเมืองรับบริจาคเงินทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
แต่กระบวนการก่อนหน้าเริ่มต้นเรื่องมาจาก มีผู้ร้อง กกต. ตาม มาตรา 66 คือ การรับเงินบริจาคเกิน 10 ล้านบาท ซึ่งในขั้นตอนนี้ กกต.ได้เคยเรียก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, นายปิยบุตร แสงกนกกุล และเหรัญญิกพรรค ไปให้ปากคำในฐานะพยานแล้ว และกระบวนการสอบของ กกต.เดินตามมาตรานี้มาตลอด
ส่วนตอนที่มีการตั้งข้อหา ตามมาตรา 72 ถูกพรรคอนาคตใหม่โต้แย้งว่า ไม่เคยเปิดโอกาสให้ชี้แจงสู้คดี
หากตัดสินว่าการกู้เงินไปเข้าข่ายบริจาคเกิน 10 ล้านบาท ตาม ม.66 โทษจะไม่ถึงยุบพรรค แต่ผู้เกี่ยวข้องจะมีโทษ คือ
– นายธนาธร ผู้บริจาค โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี ( พ.ร.ป.พรรคการเมือง ม.124)
– นายปิยบุตร และกรรมการบริหารพรรค (รวมทั้งนายธนาธร) ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี พรรคถูกปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท (ม.125)
– ยึดเงินส่วนที่เกินวงเงินบริจาค 10 ล้านบาท (ม.125) กรณีนี้จะถูกยึดเต็มจำนวน 191.2 ล้านบาท เพราะนายธนาธร ได้บริจาคเงินต่างหากในวงเงินปีละ 10 ล้านบาทไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม นายปิยบุตร ระบุว่า แม้จะผิดตามมาตรานี้ โทษทางอาญาจะต้องไปเริ่มที่ศาลอาญาและสู้กัน 3 ศาล ไม่ใช่การตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ
หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่า มีความผิดตาม มาตรา 72 ที่ กกต.ร้องมา
– พรรคอนาคตใหม่จะถูกยุบ ตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง ม.92
– ส่วนกรรมการบริหารพรรค จะมีความผิดตาม ม.126 “ผู้ดํารงตําแหน่งในพรรคการเมืองผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 72 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น”
สำหรับโทษเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ไม่มีระบุจำนวนปีไว้ ซึ่งในกรณีพรรคไทยรักษาชาติ กรรมการบริหารพรรคถูกเพิกถอนสิทธิ 10 ปี
ขณะที่นอกจาก มาตรา 72 แล้ว หากพิจารณาว่ามีความผิดตาม มาตรา 66 ก็อาจจะมีโทษในส่วนนี้ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง