พิธา : นโยบายเศรษฐกิจเอื้อแต่นายทุน ไม่ควรอยู่เป็นนายกฯ แม้แต่อีกวันเดียว

วันที่ 24 ก.พ. เวลา 18.10 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในเรื่องเศรษฐกิจ โดย กล่าวก่อนอภิปรายว่า เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ จากพรรคที่มีประชาชน 6.3 ล้านคนเลือกเข้ามาแต่ถูกศาลรัฐธรรมนูญ 7 ท่านยุบไป
.
นายพิธา กล่าวว่า นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล เป็นนโยบายนายทุน โดยนายทุน เพื่อนายทุน ตอนนี้ยังไม่ใช่ภาวะวิกฤติเพราะ GDP ยังไม่ติดลบ แต่ปัญหาเศรษฐกิจมีอยู่จริงไม่ใช่มายาคติ เผลอๆ จะแย่กว่าวิกฤติเศรษฐกิจที่เคยเกิดขึ้น

วิกฤตเศรษฐกิจตอนน้ำท่วม 2554 เรากลัวนักลงทุนต่างชาติจะหนีไป กลัวประเทศจะเป็นอัมพาต แต่เมื่อเทียบกับปี 2562 ยุครัฐบาลประยุทธ์ 2 พบว่าแย่พอๆ กัน
.
หรือหากเทียบกับวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ปี 2552 ที่สหรัฐอเมริกาและส่งผลไปทั่วโลก คนว่างงานขอใช้สิทธิ์ประกันสังคมของไทยตอนนี้แย่กว่าตอนนั้น หนี้สินครัวเรือนตอนนี้ 80% อันดับ 2 ของเอเชีย ขณะที่ ปี 2552 อยู่ที่ 50%

เทียบกับวิกฤติต้มยำกุ้ง 2540 ปัญหาบางมิติตอนนี้ก็ยังแย่กว่าตอนนั้น GDP ภาคการเกษตรยังโต 13% ยังมีที่ดินไร่นาให้กลับไปได้ แต่ตอนนี้ GDP ภาคเกษตรต่ำเตี้ย
.
คำว่ามั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน คำถามคือ ใครได้ประโยชน์กันแน่
.
ถ้าท่านไม่ใช่อภิสิทธิ์ชน 1% ของประเทศนี้คงไม่มีใครมั่นคง เรามาถึงจุดนี้เพราะมาตรการเศรษฐกิจของรัฐบาลประยุทธ์ 2 ที่เหมือนเอายาพารา ไปให้คนเป็นมะเร็ง บรรเทาความปวดจนกว่าจะหมดลมหายใจตายจากกันไป และยาพารา 5 แสนล้านมีประสิทธิภาพหรือไม่ ล้มเหลวหรือไม่ประชาชนจะตอบได้
.
มั่งคั่ง การบริหารงานเอื้อประโยชน์ให้เอกชน เช่น การรีบประมูลธุรกิจปลอดภาษีอากร จนเกิดการผูกขาด , เอื้อประโยชน์ธุรกิจเหล้าขาว ปรับภาษีสุราชุมชนให้แพงขึ้นจนแข่งขันไม่ได้โดยอ้างว่าเพื่อให้คนไทยดื่มสุราน้อยลง

ยั่งยืน เกิดปัญหาทั้งสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ เช่น เรื่องปัญหา PM2.5 มลพิษทางอากาศมาจากนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ ต้นตอมาจากการเผาอ้อยที่มากขึ้นเพราะนโยบายเกษตรประชารัฐ เปลี่ยนที่ดิน 6 ล้านไร่จากปลูกข้าวมาเป็นอ้อย ซึ่งทำไปแล้ว 3 ล้านไร่
.
คนไทยตายเพราะมลพิษ 5 หมื่นกว่าคน ความเสียหายทางเศรษฐกิจ 5-6 หมื่นล้านบาท อ้อยใช้สารเคมีมากกว่าข้าว 5 เท่า

.
ย้อนหลัง 5 ปีราคาอ้อยไม่ได้ดีกว่าข้าว ที่มาเรื่องอ้อยมาจากการเอื้อนายทุนหรือไม่ซึ่งตนหวังว่าไม่ใช่
.
นอกจากนั้นยังมีเรื่องเหมือง ที่ปัญหาเพิ่มขึ้นเพราะไม่ได้คำนึงถึงความยั่งยืน เอื้อนายทุน, EEC มีปัญหาขยะฝังกลบ ขยะรีไซเคิล เพราะนำเข้าขยะพลาสติกมากขึ้นจนเป็นถังขยะของโลกไปแล้ว ซึ่งเกิดจากคำสั่ง คสช.หรือไม่ที่ยกเว้นผังเมืองให้โรงงานขยะ และ EEC เอื้อประโยชน์ทุนจีนเจ้าพิเศษ ที่ไม่ได้สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพียงมาสร้างศูนย์กระจายสินค้าในไทยเท่านั้น

ตนเห็นว่า รัฐบาลนี้อยู่ต่อไปไม่ได้แม้อีก 1 วัน อยู่ต่อก็สร้างความเสียหายอีก 1 วัน ยิ่งอยู่นานสร้างความเสียหายไม่มีสิ้นสุด ตนจึงไว้วางใจให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ไม่ได้อีกแม้แต่วันเดียว
.
ไม่ว่าอัดฉีดอีกกี่แสนล้าน เงินก็หมุนเข้านายทุนใหญ่ หมุนไปให้นายทุนจีน เราต้องผ่าตัดเปลี่ยนแปลงโครงสร้างจึงจะมีชีวิตรอด และมีดต้องคมพอที่จะตัดก้อนมะเร็งร้าย ทลายทุนผูกขาดให้เกิดความเท่าเทียมกัน