Ascend Money เจ้าของ TrueMoney รับเงินลงทุนรอบซีรีส์ C กว่า 5 พันล้านบาท ประกาศเป็นยูนิคอร์นอีกตัวของไทย
วันที่ 27 ก.ย. 2564 Ascend Money สตาร์ทอัพฟินเทคของไทยที่อยู่เบื้องหลังบริการอีวอลเล็ตที่หลายคนรู้จักอย่าง TrueMoney ได้ประกาศรับเงินลงทุนในรอบซีรีส์ C เป็นเงินมูลค่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 5,036 ล้านบาท ส่งผลให้ปัจจุบัน Ascend Money กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่า 1,500 ล้านเหรียญ
ซึ่งมูลค่าดังกล่าวส่งให้บริษัทขึ้นแท่นเป็นสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นอีกหนึ่งตัวของไทย และถือเป็นยูนิคอร์นด้านฟินเทครายแรกของไทย หลังก่อนหน้านี้ ‘แฟลช’ ผู้ให้บริการโลจิสติกส์อย่างแฟลช เอ็กซ์เพรส เป็นสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นตัวแรกของไทยไปเมื่อเดือน มิ.ย. 2564 ที่ผ่านมา
สำหรับการระดมทุนในรอบซีรีส์ C นั้นมีนักลงทุนที่นำโดย ‘เครือเจริญโภคภัณฑ์’ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Ascend Money นอกจากนี้ยังมีบริษัทลงทุนจากสหรัฐฯ Bow Wave Capital Management และ Ant Group ของอาลีบาบา เข้าร่วมระดมทุนในครั้งนี้ด้วย
Ascend Money ระบุว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนในรอบนี้จะนำไปใช้เพื่อขยายแอปพลิเคชั่นอีวอลเล็ตของบริษัทอย่าง TrueMoney Wallet และขยายบริการทางการเงินดิจิทัล ตั้งแต่สินเชื่อดิจิทัลและการลงทุนดิจิทัล ไปจนถึงการโอนเงินข้ามพรมแดนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยในประเทศไทยที่นับว่ามีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังเริ่มยอมรับการใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลบนมือถือมากขึ้น ซึ่งจากรายงาน 2021 Mobile Wallets ของบริษัทฟินเทคสัญชาติอังกฤษแห่งหนึ่งระบุว่า TrueMoney เป็นแอปพลิเคชั่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยมาร์เก็ตแชร์สูงถึง 53% ในไทย
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ผู้ก่อตั้ง และ ประธานคณะกรรมการบริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า ความสำเร็จของบริษัทคือเครื่องสะท้อนศักยภาพและระบบนิเวศที่แข็งแกร่งของประเทศไทย ในการสนับสนุนบริษัทฟินเทคและสตาร์ทอัพให้สามารถประสบความสำเร็จในประเทศ และขยายไปยังต่างประเทศได้
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันการให้บริการดิจิทัลในวงการการเงินดูเหมือนจะยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นจากคู่แข่งที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่น Rabbit Line Pay ที่อาศัยประโยชน์จากแอปแชตยอดนิยมอย่าง Line และการเป็นพันธมิตรกับบัตรโดยสารแรบบิต
นอกจากนี้ สถาบันการเงินของไทยก็พยายามขยายอาณาจักรให้ครอบคลุมภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น อย่างเช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ประกาศแผนปรับตัวจากสถาบันการเงินไปสู่บริษัทแห่งเทคโนโลยี ซึ่งมีแผนลงทุนในฟินเทคพร้อมตั้งเป้าเป็นผู้นำตลาดในภูมิภาค
ด้านนายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แอสเซนด์ มันนี่ กล่าวว่า “เราคาดว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้จะมีมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เรายังเป้าหมายของบริษัทคือการมีผู้ใช้ 35 ล้านคน หรือครึ่งหนึ่งของประชากรไทยภายในปี 2566 เพิ่มขึ้นจาก 18 ล้านคนในขณะนี้”
สำหรับ Ascend Money นั้นก่อตั้งขึ้นในปี 2556 และมีการเติบโตอย่างรวดเร็วโดยอาศัยเครือข่ายของร้านสะดวกซื้อในเครือซีพีอย่าง 7-Eleven โดย TrueMoney Wallet นั้นเป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการทั้งการเติมเงินมือถือ, จ่ายบิล และโอนเงิน
และปัจจุบันนอกจากประเทศไทยแล้ว ยังมีการดำเนินงานที่แข็งแกร่งทั้งในอินโดนีเซีย, เวียดนาม, เมียนมา, กัมพูชา และฟิลิปปินส์
ที่มา: