วันที่ 31 ก.ค. สถานการณ์ไฟป่าพรุควนเคร็ง ท้องที่ตำบลการะเกด อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ยังคงลุกลามในเขตป่าอย่างกว้างขวางแนวไฟยาวหลายร้อยเมตร เนื่องจากถูกกระแสลมที่มีกำลังแรงทำให้สภาพไฟลุกลามอย่างหนัก และขยายวงกว้างไปเรื่อยๆ โดยที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถควบคุมแนวไฟไว้ได้ เนื่องจากแนวไฟมีขนาดใหญ่และเปลวไฟที่รุนแรงมีความสูงของเรือนยอดเปลวไฟกว่า 20 เมตร ขณะที่กลุ่มควันพุ่งสูงขึ้นสู่ท้องฟ้านับร้อยเมตร
โดยกลุ่มควันได้ลอยไปสร้างมลพิษทางอากาศในเขตตัวเมืองหัวไทร อำเภอหัวไทร ซึ่งอยู่ห่างไปกว่า 30 กิโลเมตร ขณะที่ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ทำได้เพียงพยายามป้องกันบ้านเรือนและแนวสวนปาล์มที่อยู่ติดกับป่าพรุ โดยใช้รถน้ำมาคอยฉีดป้องกันไม่ให้แนวไฟเข้าประชิดบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ขณะที่ต้นปาล์มของชาวบ้านได้รับความเสียหายจำนวนมาก เช่นเดียวกับท้องที่ตำบลสวนหลวง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีแนวไฟขนาดใหญ่ที่ยังควบคุมไม่ได้เช่นเดียวกัน
ด้านนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยผ่านสำนักงานประชาสัมพันธ์ว่าสาเหตุหลักๆ ของไฟไหม้ป่าพรุเกิดจากประชาชนจุดไฟในพื้นที่ของตัวเองและลุกลามเข้าไปในเขตพื้นที่ป่า และการเกิดเหตุไฟไหม้ในพื้นที่ป่าพรุโดยตรง ซึ่งทางจังหวัดได้ใช้มาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันและควบคุมไฟไหม้ มีการจัดทำแนวกันไฟพื้นที่โดยรอบ อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ฝากถึงประชาชนในพื้นที่ส่วนหนึ่งที่ออกมาแสดงความไม่พอใจและประณามผู้ที่เป็นต้นตอให้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ขึ้นว่า ขอให้ใจเย็นและใช้เหตุผลเป็นสำคัญ โดยคนที่ทำผิดต้องได้รับการลงโทษตามกฎหมาย
ส่วนความคืบหน้าการเข้าควบคุมสถานการณ์ในขณะนี้นั้น ได้มีการประสานไปยังเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อเสริมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติการ ขณะที่การควบคุมการลอบจุดไฟเผาในพื้นที่นั้นผู้นำท้องที่ต้องเป็นกำลังหลักในการป้องปราม และหากมีการลอบจุดอย่างต่อเนื่องผู้นำท้องที่จะต้องทราบข้อมูลผู้ที่ลอบเผาและต้องรับผิดชอบ
ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปเหตุการณ์ เมื่อ 18.00 น.ว่า เมื่อช่วง 16.00 น. เกิดไฟไหม้ สวนปาล์มและป่าพรุ ในพื้นที่ อ.เชียรใหญ่ คือ ต.เขาพระบาท และต.การะเกด พื้นที่สวนปาล์มและป่าพรุเสียหาย 170 ไร่ และอ.หัวไทร ได้รับผลกระทบจากควันไฟ 7 ตำบล ได้แก่ ต.ทรายขาว ต.บ้านราม ต.บางนบ ต.ท่าชอม ต.เกาะเพชร ต.หัวไทร ต.หน้าสตน
ประชาชนได้รับผลกระทบจากควันไฟ 26 ราย ส่งผลให้มีอาการ ภูมิแพ้หายใจติดขัด 3 ราย , วิงเวียนศีรษะ 5 ราย , อาการเคืองตา 18 ราย สาธารณสุข อ.ชียรใหญ่ อ.หัวไทร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ประจำอำเภอและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้บริการรักษาเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันยังไม่สามารถควบคุมไฟป่าได้ และได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังป้องกันการปะทุคืน และติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชม.
https://www.facebook.com/WorkpointNews/videos/423510251707586/