พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไต้หวัน เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 8 เดือน

วันที่ 22 ธ.ค. 2563 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า ทางการไต้หวันพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไต้หวันเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 8 เดือน โดยผู้ติดเชื้อคนดังกล่าวเป็นผู้หญิงอายุ 30 ปี คาดว่าน่าจะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากการมีประวัติใกล้ชิดกับนักบินคนหนึ่งในช่วงวันที่ 7-12 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งนักบินคนดังกล่าวเดินทางมาจากประเทศนิวซีแลนด์และตรวจพบเชื้อโควิด-19 ไปแล้วก่อนหน้านี้

รายงานระบุว่า ในตอนนี้ทางการไต้หวันได้เริ่มเข้าตรวจสอบบุคคลใกล้ชิดกับผู้หญิงคนดังกล่าวจำนวน  167 คน เช่นเดียวกับสอบสวนผู้มีประวัติใกล้ชิดกับนักบิน ซึ่งเชื่อว่าเป็นบุคคลที่แพร่เชื้อให้กับผู้ป่วยรายล่าสุด เบื้องต้นพบว่า มีผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 2 คนเชื่อมโยงกับนักบินรายดังกล่าว โดยน่าจะติดเชื้อระหว่างทำงานด้วยกันบนเครื่องบิน เที่ยวบินจากสหรัฐฯ มายังไต้หวันเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมา

ผู้ป่วยรายล่าสุดในไต้หวัน ถือเป็นคนแรกในรอบกว่า 8 เดือน หลังจากพบผู้ป่วยโควิด-19 ในไต้หวันรายสุดท้ายตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยที่ผ่านมามีการตรวจพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเท่านั้น ทำให้ไต้หวันได้รับเสียงชื่นชมจากนานาชาติว่า มีมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ได้อย่างดีเยี่ยม โดยปัจจุบันไต้หวันมีจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 770 คน และมีผู้เสียชีวิตเพียง 7 คน

ความสำเร็จในการควบคุมโรคโควิด-19 ในไต้หวัน ถูกมองว่า มาจากการบังคับใช้มาตรการเข้มงวดผู้ที่จะเดินทางเข้าไต้หวัน การปิดพรมแดนอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงกระบวนการตรวจโรคและกักตัวกลุ่มเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ

ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ไต้หวันอยู่ในสถานะปลอดโรคโควิด-19 ทำให้กิจการห้างร้านส่วนใหญ่เปิดทำการได้ตามปกติ การเดินทางท่องเที่ยวภายในไต้หวันสามารถทำได้ แต่ต้องมีมาตรการเข้มงวดป้องกันการแพร่ระบาด ขณะเดียวกันความต้องการสินค้าเทคโนโลยีมีส่วนช่วยประคับประคองเศรษฐกิจไต้หวันด้วย โดยคาดว่า เศรษฐกิจไต้หวันในปีนี้น่าจะเติบโตขึ้นราว 2.3% สวนทางหลายชาติทั่วโลกที่อาจเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย ผลจากการระบาดของโรคโควิด-19