กลุ่มธุรกิจแฟลช (Flash Group) ผู้ให้บริการอี-คอมเมิร์ซสัญชาติไทยแบบครบวงจร และเป็นบริษัทแม่ของ แฟลช เอ็กซ์เพรส (Flash Express) ผู้ให้บริการด้านขนส่งเอกชน ปิดดีลยักษ์จากการระดมทุนรอบซีรีส์ D+ และซีรีส์ E คว้าเม็ดเงินรวมกว่า 150 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 4,700 ล้านบาท ประกาศขึ้นเป็นขนส่งเอกชนอันดับ 1 ด้วยตัวเลขจัดส่งพัสดุต่อวันสูงสุดร่วม 2 ล้านชิ้น ทะยานสู่ยูนิคอร์นตัวแรกของไทย
นายคมสันต์ ลี ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจแฟลช (Flash Group) ผู้ให้บริการอี-คอมเมิร์ซสัญชาติไทยแบบครบวงจร เปิดเผยข้อมูลล่าสุดจากการระดมทุนรอบซีรีส์ D+ และซีรีส์ E ที่สามารถระดมทุนไปได้สูงถึง 150 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 4,700 ล้านบาท
ทั้งนี้ แฟลชนับเป็นสตาร์ทอัพไทยรายแรกที่สามารถระดมทุนรวมได้มากที่สุดในระยะเวลาเพียงแค่ 3 ปี ซึ่งทำให้ธุรกิจมีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือมากกว่า 30,000 ล้านบาท กลายเป็นสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นตัวแรกของไทย
สำหรับการระดมทุนในรอบซีรีส์ D+ ได้ผู้ร่วมทุนรายใหม่อย่าง SCB 10X พ่วงด้วยบริษัท จันวาณิชย์ ซีเคียวริตี้พริ้นท์ติ้ง จำกัด เข้าสนับสนุน
ขณะที่ในส่วนของซีรีส์ E แฟลชยังคว้า Buer Capital กลุ่มทุนจากสิงคโปร์ ร่วมด้วย SCB 10X ตามด้วยผู้ลงทุนเดิมอย่าง eWTP, บริษัท ปตท. น้ำมัน และการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์, บริษัท เดอเบล จำกัด (Durbell) ภายใต้กลุ่มธุรกิจ TCP, บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด (Krungsri Finnovate) ในเครือกรุงศรี กรุ๊ป ตบเท้าเข้าร่วมลงทุน
โดยคาดว่าเม็ดเงินลงทุนจะถูกกระจายไปในหลายสัดส่วนทั้งด้านการบริหาร และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ครอบคลุมไปถึงการลงทุนในด้านแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซ ที่จะตอบโจทย์และสร้างความแตกต่างให้แก่ตลาด รวมถึงการเพิ่มช่องทางการขาย ขยายบริการ และสร้างกลยุทธ์ใหม่ๆ
สำหรับกลุ่มธุรกิจแฟลชก่อตั้งขึ้นจากแนวคิดการเป็นผู้ให้บริการอี-คอมเมิร์ซสัญชาติไทยแบบครบวงจร โดยได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มนักลงทุนหลายอุตสาหกรรมเข้ามาร่วมสนับสนุน ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจแฟลชมีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดด พร้อมธุรกิจในเครือหลากหลายประเภท อาทิ Flash Express ผู้ให้บริการขนส่งแบบครบวงจร ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นหัวใจหลักในการบริหารจัดการด้านระบบขนส่ง
โดยปัจจุบัน Flash Express มียอดจัดส่งพัสดุต่อวันสูงสุดร่วม 2 ล้านชิ้น นอกจากนี้ยังมีบริการ Flash Fulfilment คลังสินค้าแบบครบวงจร ที่มีบริษัทชั้นนำเป็นพันธมิตร และใช้บริการมากมาย รวมถึงบริษัทในเครืออีกหลายบริษัทที่สอดคล้องกับธุรกิจอี-คอมเมิร์ซและรูปแบบตลาดของประเทศไทย รวมไปถึงบริการใหม่ที่เตรียมขยายออกสู่กลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรอการเปิดเผยหลังจากนี้
“ถือเป็นความสำเร็จที่น่าภูมิใจของทีมงานแฟลชทุกคน ที่ทำให้ผู้ลงทุนเชื่อมั่นในศักยภาพของเรา โดยจากนี้บริษัทจะทยอยประกาศความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นระหว่างกลุ่มธุรกิจแฟลชกับผู้ลงทุน ซึ่งแน่นอนว่ากลยุทธ์หลักของแผนการทำงานยังคงมุ่งไปที่การเป็นผู้ให้บริการแบบ One stop service สำหรับอี-คอมเมิร์ซทั้งในประเทศไทยและสากล รวมไปถึงการเร่งขยายบริการออกสู่ต่างประเทศ
“โดยยึดความตั้งใจเดิม คือ เริ่มจากกลุ่มประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้จะมีอุปสรรคในช่วงสถานการณ์โควิด แต่แผนการทำงานของแฟลช กรุ๊ป ยังคงเดินหน้าต่อไป ซึ่งคาดว่าภายในไตรมาส 4 ของปีนี้น่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น จากการทยอยเปิดให้บริการบางส่วนในภูมิภาค” นายคมสันต์ กล่าว