จากกรณีที่น้ำป่าไหลหลากเข้าบ้านเรือนประชาชน รีสอร์ทต่างๆ ในพื้นที่ จ.นครนายกจนเกิดความเสียหาย และน้ำป่ายังซัดรถยนต์ที่จอดไว้ไปกับกระแสน้ำด้วยนั้น
วันที่ 17 ส.ค. ทีมกู้ภัยได้ล่องเรือมาตามลำน้ำจนกระทั้งมาพบรถกระบะโตโยต้า คันที่ 3 ติดอยู่บริเวณตรงข้ามแก่งสามชั้น ต.หินตั้ง อ.เมือง ซึ่งห่างจากจุดที่รถจอดไว้ที่รีสอร์ทประมาณ 3-4 กิโลเมตร จึงได้ช่วยกันผูกเชือกกับตัวรถ ก่อนที่จะใช้รถลากช่วยลากรถขึ้นจากน้ำด้วยความยากลำบาก เนื่องจากกระแสน้ำที่ยังแรงอยู่ โดยสภาพรถได้รับความเสียหายทั้งคัน
นาย พงษ์ศิริ จันทร์เหลือง เจ้าของรถกระบะ ที่ทั้งดีใจและเสียที่พบรถของตนแล้ว บอกว่า ตนมาพักรีสอร์ทกับเพื่อน 2 คนและจอดรถไว้หน้าห้องพัก โดยตอนเกิดเหตุตนไม่รู้ว่าน้ำป่ามาตอนไหน พอมารู้ตัวก็เห็นว่าน้ำได้ท่วมรถไปกว่าครึ่งคัน จากนั้นตนจึงทิ้งรถแล้วรีบขึ้นที่สูงเพื่อเอาตัวรอดก่อน เห็นรถแล้วรู้สึกเสียใจเพราะว่าถ้าซ่อมคงซ่อมไม่ไหว ตนมาจากจังหวัดปทุมธานี 2 คนกับเพื่อน ดีใจเจอรถแต่สภาพเละ อย่างไรก็ตามขอบคุณทีมกู้ภัยที่ช่วยค้นหารถตนจนเจอ
ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ต้นกำเนิดแหล่งน้ำแห่งใหญ่และสายหลักในพื้นที่จังหวัดนครนายกเพื่อหาที่มาของมวลน้ำป่าที่ไหลบ่าลงมายังแหล่งน้ำในพื้นที่ อ.เมืองนครนายก โดยมีนายอร่าม ทัพหิรัญ รักษาการหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มาให้ความรู้และที่มาที่ไปของมวลน้ำ
นายอร่าม กล่าวว่า ปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่แหล่งน้ำอุทยานน้ำตกนางรองและอุทยานวังตะไคร้จนเกิดน้ำป่าไหลหลากตั้งแต่ช่วงตี 2 ที่ผ่านมานั้น เกิดขึ้นจากฝนตกสะสมตั้งแต่คืนวันที่ 16 ส.ค. ในปริมาณ 136 มิลลิเมตร และในคืนวันที่ 17 ส.ค. อีก 135 มิลลิเมตร ในที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เลยสมทบกลายเป็นมวลน้ำ 2 ก้อนด้วยกัน
นายอร่ามยังได้อธิบายพร้อมชี้แผนที่อีกว่า น้ำตกที่จะไหลลงสู่แม่น้ำนครนายก จะมีน้ำตกจากอุทยานน้ำตกนางรอง น้ำตกสาริกา คลองมะเดื่อ อุทยานวังตะไคร้ และน้ำตกลำสะกุแห้ง ส่วนสาเหตุที่มีปริมาณน้ำป่าไหลบ่าลงมายังอุทยานน้ำตกนางรองทุกปีนั้นมาจาก บริเวณพื้นที่จุดรับน้ำบริเวณอุทยานตรงจุดนั้นมีลักษณะเป็นทุ่งใหญ่ ลักษณะเป็นปากกรวย (กว้างมาแคบ) ทำให้น้ำป่าที่ไหลลงมาจะค่อนข้างรุนแรงและมีสีเข้มกว่าจุดอื่นๆ เช่นคลองมะเดื่อที่มีสีน้ำใสกว่า
สำหรับเมื่อคืนที่มีปริมาณฝนตกหนักนั้นจะอยู่บริเวณบึงไผ่ คลองอีเฒ่า ซึ่งจะไหลลงลำตะคลองทั้งหมดที่อยู่บริเวณด้านหลังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของอุทยาน โดยจะเห็นได้ว่าน้ำมีลักษณะค่อนข้างที่จะรุนแรงและยังไหลเชี่ยว ปริมาณน้ำฝนที่จะต้องมีการแจ้งเตือนและเฝ้าระวัง คือในปริมาณที่มากกว่า 100 มิลลิเมตร เมื่อถึงทางอุทยานจะต้องแจ้งให้พื้นที่โดยรอบอุทยานทั้งเขตพื้นที่ 11 อำเภอ ใน 4 จังหวัด ได้แก่ อำเภอปากช่อง อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา / อำเภอนาดี อำเภอกบินทร์บุรี อำเภอประจันตคาม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี / อำเภอปากพลี อำเภอบ้านนา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก และอำเภอแก่งคอย อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี โดยมีฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น ปภ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และประชาชนได้ทราบว่าอาจจะมีน้ำป่าไหลลงในพื้นที่
ขณะที่เขื่อนขุนด่านปราการชลนั้นได้ช่วยรองรับน้ำจากน้ำตกต่างๆ4-5 แห่งเอาไว้ จึงทำให้ไม่ห่วงเรื่องระดับน้ำในแม่น้ำนครนายกเท่าไหร่นัก