แฟลชม็อบนักศึกษายังกระจายไปหลายจังหวัดบางพื้นที่มาน้อยคน แต่ขอแสดงจุดยืนยึดหลัก 3 ข้อ ให้รัฐบาลหยุดคุกคาม-ยุบสภา-แก้รัฐธรรมนูญ ก่อนสลายตัว

วันที่ 29 ก.ค. 2563 เวลา 17.00 น. ที่ถนนหน้าศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรี นักเรียน นักศึกษา ประมาณ 100 คน เข้าร่วมกิจกรรมแสดงพลังและยื่นข้อเรียกร้องถึงรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จำนวน 3 ข้อโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองมาคอยอำนวยความสะดวกและดูแลความสงบเรียบร้อยท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเกือบ 1 ชั่วโมง
การชุมนุมครั้งนี้มี นายภาณุพงศ์ จาดนอก และนายพริษฐ์ ชิวารักษ์เป็นแกนนำ ส่วนของจังหวัดสุพรรณบุรีมี “โกโก้” เป็นตัวแทนเยาวชนปลดแอก มีการปราศัยโจมตีการบริหารงานของรัฐบาลที่ผ่านมาว่าล้มเหลว และยื่นข้อเรียกร้องถึงรัฐบาล 3 ข้อประกอบด้วย 1.ขอให้รัฐบาลประกาศยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน เปิดทางให้คนที่มีความรู้ ความสามารถเข้ามาแก้ไขปัญหาทางการเมืองและเศรษฐกิจ 2.ขอให้หยุดคุกคามประชาชน ทั้งทางกายภาพ ทางจิตวิทยา ตลอดจนการยัดข้อหาเพื่อดำเนินคดี รวมไปถึงให้รัฐสภายกเลิกกฎหมายที่ละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพในการชุมนุมตามระบอบประชาธิปไตย 3.ขอให้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดยคำนึงถึงหลักการสิทธิมนุษยชนเป็นหลัก ปราศจากการแทรกแซงของคนที่ประชาชนไม่ได้เลือก
บรรยากาศการปราศรัยมีนักเรียนนักศึกษายืนถือป้ายข้อความเผด็จการจงพินาศประชาธิปไตยจงเจริญ ยุบสภา หยุดคุกคามประชาชน ไม่มีแฟนไม่เป็นไรไม่มีประชาธิปไตยอยู่ไม่ได้ และมีการผลัดเปลี่ยนกันปราศัยโดยนายไมค์ ภาณุพงศ์ เป็นคนแรก ก่อนที่นายเพนกวิน ปราศรัยเป็นเพลงฉ่อย หลังจบการปราศรัยกลุ่มผู้ชุมนุมได้แสดงสัญลักษณ์โดยการชู 3 นิ้ว ก่อนแยกย้าย
ส่วนที่ จ.น่าน เครือข่ายนักเรียนนักศึกษาและเยาวชน พากันมารวมตัวบริเวณข่วงเมืองน่าน หน้าวัดภูมินทร์ อ.เมือง เพื่อร่วมเคลื่อนไหว “น่านกระซิบลุง แก้ไขรัฐธรรมนูญ ลาออก ยุบสภา” โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองได้เข้ามาช่วยดูแลความสงบ จัดการจราจร และเฝ้าระวังสถานการณ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จากสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองน่าน ตั้งจุดตรวจคัดกรองโควิด-19
เครือข่ายเยาวชนจังหวัดน่านได้เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการ 3 ข้อ คือ ยุบสภา หยุดคุกคามประชาชน และร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดยยืนยันว่าการชุมนุมดังกล่าวไม่มีผู้ใดอยู่เบื้องหลัง การชุมชนดำเนินไปกว่า 1 ชั่วโมง กลุ่มผู้ชุมนุมจะได้พากันยืนตรงเคารพธงชาติ เพื่อเป็นแสดงจุดยืนของเยาวชนเมืองน่านก่อนแยกย้ายกันกลับ