SHARE

คัดลอกแล้ว

ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงค่ำวานนี้ (3 ต.ค. 2565) ทำให้รถติดหนัก เนื่องจากถนนหลายสายถูกน้ำท่วมสูงการสัญจรเป็นไปด้วยความยากลำบาก รถยนต์หลายคันไม่สามารถลุยน้ำต่อไปได้ จอดเสียกลางทาง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น กรมขนส่งทางบกได้วิธีเอาตัวรอด เมื่อต้องขับรถลุยน้ำท่วม ทำอย่างไรให้เครื่องไม่ดับ รถไม่พัง น้ำท่วมสูงแค่ไหนไม่ควรไปต่อ และถ้ารถดับระหว่างทางจะทำอย่างไร

รถเกียร์อัตโนมัติ ควรใช้เกียร์ต่ำ ลุยฝ่าน้ำท่วมที่ไม่สูงมากนัก ส่วนรถเกียร์ธรรมดา ให้ใช้อัตราทดเกียร์ รักษาระดับความเร็วสม่ำเสมอ อย่าหยุดรถกลางน้ำ

  1. ลดความเร็วรถยนต์ เหลือไม่เกิน 60 กม./ชม. ป้องกันน้ำเข้าเครื่องยนต์
  2. ปิดแอร์รถยนต์ เพราะตัวพัดลมจะพัดตีน้ำขึ้นมาถูกห้องไฟฟ้า อาจทำให้เครื่องยนต์ดับได้
  3. เปิดไฟหน้ารถ ช่วยให้การมองเห็นชัดเจนขึ้น
  4. เปิดที่ปัดน้ำฝน ระดับที่เหมาะสมเพื่อการมองเห็น
  5. ไม่ขับรถชิดคันหน้า ควรเว้นระยะ 2-3 เท่าจากปกติ เพราะเบรกที่แช่น้ำนานๆ ประสิทธิภาพการทำงานต่ำลง
  6. เมื่อถึงที่หมาย ควรเบรกย้ำๆ เพื่อไล่น้ำออกจากผ้าเบรก
  7. ไม่ควรดับเครื่องทันทีเมื่อถึงที่หมาย ติดเครื่องยนต์ไว้สักพัก เพื่อไล่น้ำและความชื้นที่ค้างออก
  8. หากรถดับกลางทาง ไม่ควรสตาร์ทรถตรงที่มีน้ำท่วม เพราะน้ำจะเข้าเครื่องยนต์ ระบบไฟฟ้าจะเสียหาย

ทำอย่างไร เมื่อรถดับกลางน้ำท่วม 

  1. ห้ามสตาร์ทรถเด็ดขาด  ป้องกันน้ำเข้าเครื่องยนต์ จะยิ่งทำให้รถเสียหายเพิ่มขึ้น หรือเกิดไฟฟ้าลัดวงจรขึ้นได้ ให้ตั้งสติ บิดกุญแจดับเครื่อง
  2. เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน เตือนรถคันอื่นให้หลีกเลี่ยง รับรู้ว่ารถเรากำลังเกิดปัญหา ช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
  3. ออกจากรถ ขอความช่วยเหลือโทรติดต่อบริษัทประกัน ศูนย์บริการ รถยก-รถลาก ที่ช่วยนำรถออกจากบริเวณน้ำท่วมได้ หรือเข็นรถหนีน้ำไปที่แห้ง
  4. เปิดฝากระโปรงหน้ารถ ตรวจสอบเบื้องต้น เมื่อเคลื่อนย้ายรถหนีน้ำได้แล้ว ถอดขั้วแบตเตอรี่ออกเพื่อตัดระบบจ่ายไฟ แล้วเปิดดูไส้กรองอากาศมีน้ำเข้าหรือไม่ หากไส้กรองอากาศแห้ง
  5. สาเหตุที่รถดับอาจมาจากระบบไฟฟ้าช็อต เปียกน้ำ หากไม่มั่นใจ ไม่รู้จักชิ้นส่วนต่างๆ ให้นำรถเข้าศูนย์บริการจะดีที่สุด
  6. รีบนำรถเข้าศูนย์บริการ/อู่ซ่อมรถ อย่าปล่อยรถทิ้งไว้ ให้ช่างตรวจสอบหาสาเหตุ หาความเสียหาย หากมีอุปกรณ์ส่วนใดชำรุด จะได้ทำการแก้ไขทันที

ประเมินระดับน้ำท่วม แค่ไหนไม่ควรไปต่อ

  1. น้ำท่วมสูง 5 – 10 ซม. ไม่สามารถส่งผลต่อการเดินทางของรถ
  2. น้ำท่วมสูง 10 – 20 ซม. ยังผ่านไปได้ รถเก๋งต้องเพิ่มความระมัดระวัง กรณีขับรถสวนกันก็อาจจะมีคลื่นสูงบ้าง
  3. น้ำท่วมสูง 20 – 40 ซม. รถเก๋งอาจเริ่มมีปัญหา ถ้าน้ำท่วม 3 ใน 4 ของล้อรถ จะทำให้ท่อไอเสียจมน้ำ ถ้าระยะทางสั้นๆ ยังพอไปได้
  4. น้ำท่วมสูง 40 – 60 ซม. อันตรายมากสำหรับรถเล็ก ไม่ควรขับผ่าน
  5. น้ำท่วมสูง 60 – 80 ซม. อันตรายกับรถทุกประเภท ทั้งรถใหญ่ รถเล็ก

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า