SHARE

คัดลอกแล้ว

กทม.จ่อถอดบทเรียนเตรียมความพร้อมรับมือน้ำท่วมในปีหน้า เตรียมเครื่องสูบน้ำ จุดลอกคูคลอง และต้องเขียนแผนให้ชัดเพื่อให้ กทม.ได้มีเวลาเตรียมพร้อมรับมือมากขึ้น หลังลงพื้นที่ชุมชนวัดเทวราชกุญชร พร้อมสั่งการรับมือน้ำเหนือและน้ำทะเลหนุน ประเมินสถานการณ์จะไม่วิกฤตเหมือนปี 54

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) พร้อมด้วยนายวิศณุ ทรัพย์สมพล (รองผู้ว่าฯ กทม.) ตรวจเยี่ยมชุมชนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้น บริเวณชุมชนวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร เขตดุสิต ช่วงเย็นวานนี้ (5 ต.ค. 2565) ซึ่งวันนี้เป็นอีกวันที่น้ำทะเลหนุนสูงสุด ช่วงเวลาประมาณ 18.30 น. น้ำเจ้าพระยาอยู่ที่ระดับ +2.13 เมตร รทก.

 

ส่วนวันที่ 7-9 ต.ค. 2565 คาดว่า ระดับน้ำจะสูงขึ้นอีกประมาณ 10 เซนติเมตร เป็นน้ำที่มาจาก 2 ส่วน คือ เขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งปล่อยมาประมาณ 3,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มารวมกับฐานน้ำที่จะขึ้นลงตามภาวะน้ำทะเลหนุน

นายชัชชาติ กล่าวว่า ประชาชนที่ถูกน้ำท่วมจากแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนใหญ่เป็นชุมชนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ จะมีทั้งหมด 16 ชุมชน ชุมชนวัดเทวราชกุญชรก็เป็นหนึ่งในนั้น นอกจากนี้มีชุมชนกลุ่มพื้นที่ฟันหลอ 24 จุด ระยะทางประมาณ 3.2 กิโลเมตร  จุดที่ฟันหลอ จุดที่เขื่อนไม่ต่อเนื่อง จะต้องเรียงกระสอบทรายให้มั่นคงและต้องเฝ้าระวังไม่ให้กระสอบทรายพัง และจุดที่น้ำซึม เพราะเป็นเขื่อนเก่า อาจจะทำให้น้ำซึมเข้าบริเวณด้านล่างของเขื่อน

ด้านผู้อำนวยการเขตดุสิตรายงานสถานการณ์ว่า พื้นที่เขตดุสิตจุดที่เป็นปัญหาน้ำท่วมแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักๆ คือ

กลุ่มที่หนึ่งคือ เนื่องมาจากการขึ้นลงของระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งแบ่งเป็น บริเวณแนวฟันหลอที่ไม่มีเขื่อนถาวร บริเวณที่มีเขื่อนแต่เขื่อนรั่วซึม และอยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ

กลุ่มที่สองคือ ปัญหาเนื่องมาจากน้ำฝน เดิมมีปัญหาอยู่ที่ซอยระนอง หลังจากยกระดับถนนแล้วปัญหาลดลงแต่ยังมีเรื่องของการเชื่อมท่อ จุดปัญหาที่พบใหม่คือบริเวณรัฐสภา บริเวณถนนทหารและถนนสามเสน เวลาที่ฝนตกมากจะต้องมีการระบายน้ำออก ซึ่งจะต้องเจรจากับทางรัฐสภาเพื่อร่วมมือในการผันน้ำออกให้เร็วขึ้น

ผู้ว่าฯ กทม. ได้สอบถามประชาชนบริเวณดังกล่าวพบว่า เมื่อถึงหน้าน้ำเหนือและน้ำทะเลหนุนจะประสบปัญหาน้ำเอ่อท่วมทุกปี และประชาชนอยากได้เขื่อนกั้นน้ำถาวร มีบ้านเรือนอยู่ประมาณ 48 หลังคาเรือน ซึ่งจะต้องประสานขออนุญาตกับกรมเจ้าท่าเนื่องจากเป็นบริเวณท่าเรือด้วย อย่างไรก็ตามจุดที่ท่วมขังในขณะนี้คือบริเวณที่อยู่ริมน้ำเจ้าพระยาเท่านั้นยังไม่เอ่อล้นไปท่วมที่บริเวณถนนและตลาด

คงต้องรอดูมวลน้ำที่จะเข้ามาเพิ่มและน้ำทะเลหนุน ซึ่งจะหนุนสูงสุดวันที่ 9 ต.ค.นี้ ซึ่งแม่น้ำเจ้าพระยา กทม. ยังสามารถรับมวลน้ำได้ 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่ปี 54 น้ำเจ้าพระยามาประมาณ 4,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และปีนี้ยังหางจากวิกฤตปี 54 มาก คิดว่าเมื่อเรารู้จุดอ่อนก็จะทำให้สามารถผ่านไปได้ อาจจะมีท่วมชุมชนบ้างนิดหน่อยเท่านั้น

และวันนี้ (6 ต.ค. 2565) จะมีการหารือถอดบทเรียนเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมในปีหน้าด้วย ทั้งการเตรียมเครื่องสูบน้ำ จุดลอกคูคลอง และต้องเขียนแผนให้ชัดเพื่อให้ กทม.ได้มีเวลาเตรียมพร้อมรับมือมากขึ้น

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า