ผู้ว่าฯ ภูเก็ตสั่งถอดบทเรียนน้ำท่วม เมืองเก่าภูเก็ต เตือน 8 จังหวัดใต้เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน 18-22 ต.ค. นี้

ภูเก็ตสรุปสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่มตลอดทั้งวันที่ผ่านมาพร้อมถอดบทเรียนสถานการณ์น้ำที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบ 6,080 คน  เตือน 8 จังหวัดภาคใต้ เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก 18-22 ต.ค. นี้

นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยพลเรือโทอาภากร อยู่คงแก้วผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 เป็นประธานการประชุมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่มจังหวัดภูเก็ตครั้งที่ 2/2565 เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมีนายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์, นายอานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบำ, นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, หัวหน้าส่วนราชการภาครัฐเอกชนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

นายอุดมพร กาญจน์ หัวหน้าสำนักการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สถานการณ์ฝนตกหนักและต่อเนื่องว่าเมื่อช่วงดึกของวันที่ 16 ตุลาคม 2565 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ทั้ง3 อำเภอของจังหวัดภูเก็ต คือ อำเภอเมือง อำเภอกะทู้ และอำเภอถลาง มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนใน 16 ตำบล 80 ชุมชน/หมู่บ้าน 6,080 คน 1,850 ครัวเรือน แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิต

ส่วนถนนได้รับความเสียหาย จำนวน 5 สาย สะพานมีความเสียหายจำนวน 3 แห่ง ระบบไฟฟ้าและประปาได้รับผลกระทบจากการสไลด์ของดิน แยกเป็น อำเภอถลาง ได้รับผลกระทบ 6 ตำบล 29 ชุมชน/หมู่บ้าน 950 ครัวเรือน 2,800 คน อำเภอกะทู้ ได้รับผลกระทบ 3 ตำบล 11 ชุมชน/หมู่บ้าน 100 ครัวเรือน 280 คน และ อำเภอเมืองภูเก็ต ได้รับผลกระทบ 7 ตำบล 40 ชุมชน/หมู่บ้าน 800 ครัวเรือน 3,000 คน ซึ่งตลอดทั้งวันที่ผ่านมา หน่วยงานทุกภาคส่วนได้ระดมบุคลากรและเครื่องมือเข้าให้การช่วยเหลือ สูบน้ำ และเข้าระบายน้ำในพื้นที่ ปิดกั้นเส้นทางจราจรที่ชำรุด และฉีดล้างบ้านเรือนประชาชน

นอกจากนี้จังหวัดภูเก็ตได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ณ ห้องประชุมสำนักงาน ปภ.จังหวัดภูเก็ต ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อบูรณาการประสานความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา ขณะเดียวกัน องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาอุทกภัย และดินสไลด์ทับเส้นทางจราจร พร้อมสนับสนุนรถแบ็คโฮ 3คัน เครื่องสูบน้ำ 3 เครื่อง รถ JCB 1 คัน รถบรรทุกยกสูง 4 คัน เจ้าหน้าที่ 20 คน และจัดตั้งโรงครัวของ อบจ.ภูเก็ต ณ ศาลาประชาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต พร้อมทั้งมีการจัดตั้ง ศูนย์พักพิง จำนวน 4 จุด คือ

จุดที่1 วัดเทพกระษัตรี (บ้านดอน) โทร 076274573

️จุดที่ 2 อาคารอเนกประสงค์ อบต.กมลา โทร 076385789

️จุดที่3 โรงเรียนเทศบาล 2 (อาคารโดม) บ้านกะทู้ เทศบาลเมืองกะทู้ โทร 076322121 และ 076322122

จุดที่ 4 โรงเรียนเทศบาลพิบูลสวัสดี เทศบาลนครภูเก็ต โทร. 076211111 โทร. 199 หรือสายด่วนเทศบาลนครภูเก็ต โทร. 1132

ด้านนายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตได้ประสานกับ รพ.สต.ศรีสุนทรโดยได้จัดทำข้อมูลรายชื่อผู้ป่วยติดเตียงและย้ายผู้ป่วยเข้าสู่โรงพยาบาลถลางจำนวน 1 ราย สำหรับผู้สูงอายุได้ย้ายไปยังศูนย์พักพิงโดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขไปดูแลอย่างใกล้ชิด

ขณะที่ผู้แทนชลประทานจังหวัดภูเก็ตรายงานข้อมูลสถานการณ์น้ำและผลกระทบในพื้นที่อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำมีดินสไลด์ 6 จุดทำให้รถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้ ในวันพรุ่งนี้ 17 ตุลาคม 2565 เจ้าหน้าที่จะเร่งแก้ไข โดยพบว่าในวันที่ 15-16 ตุลาคม 2565 บริเวณอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำสามารถวัดปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาได้ถึง 230 มิลลิเมตร ทำให้ระดับน้ำล้นอ่างเก็บน้ำ โดยขอยืนยันว่าทางชลประทานฯ ไม่ได้ปล่อยน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ

ด้านรองผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคภูเก็ต รายงานว่าในพื้นที่ตำบลกมลา อำเภอกะทู้ มีเสาไฟฟ้าขนาด 115 kv ล้มจำนวน 9 ต้น ไฟฟ้าดับรวม 6,000 ครัวเรือน ซึ่งได้ดำเนินการแก้ไขแล้วเสร็จเมื่อเวลา ประมาณ 21:00 น. ทั้งนี้ คาดว่าจะใช้เวลาซ่อมแซมเสาไฟฟ้าทั้ง 9 ต้น ประมาณ 5 วันโดยได้ประสานบูรณาการทีมช่างจากจังหวัดนครศรีธรรมราชเข้ามาช่วยเหลือ และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น…ทำให้พบว่า หากเกิดสถานการณ์น้ำท่วม และมีระดับน้ำสูงมากกว่า 40 เซนติเมตร จำเป็นจะต้องตัดกระแสไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัย

นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เน้นย้ำว่า เจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้าให้การช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ประชาชนที่ต้องการขอรับความช่วยเหลือสามารถแจ้งศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ภูเก็ต (ปภ.) 1784 หรือ 076510098 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ตรับแจ้งเหตุ ขอความช่วยเหลือสถานการณ์ “น้ำท่วม” โทร 1567

เตือน 8 จังหวัดภาคใต้ เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก 18-22 ต.ค. นี้

ขณะที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ประกาศฉบับที่ 51/2565 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคใต้ โดยระบุว่า จากการติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศ โดยกรมอุตุนิยมวิทยา ช่วงวันที่ 17 – 18 ต.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีน ได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นกับมีลมแรง และมีฝนบางแห่ง ในขณะที่ร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนัก ถึงหนักมากบางแห่ง

กอนช. ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ ด้วยฝนคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบว่า ต้องเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก บริเวณภาคใต้ ในช่วงวันที่ 18 – 22 ตุลาคม 2565 ได้แก่ จ.ชุมพร (อ.หลังสวน ละแม สวี เมืองชุมพร และพะโต๊ะ) , จ.ระนอง (อ.เมืองระนอง กระบุรี ละอุ่น กะเปอร์ และสุขสำราญ) , จ.พังงา (อ.เมืองพังงา กะปง ท้ายเหมือง ตะกั่วป่า ทับปุด และตะกั่วทุ่ง) , จ.ภูเก็ต (อ.เมืองภูเก็ต กะทู้ และถลาง) , จ.กระบี่ (อ.อ่าวลึก) , จ.สุราษฎร์ธานี (อ.พระแสง ท่าฉาง คีรีรัฐนิคม ท่าชนะ บ้านนาสาร ไชยา พนม พุนพิน เกาะสมุย และเกาะพะงัน) , จ.นครศรีธรรมราช (อ.เมืองนครศรีธรรมราช ท่าศาลา และปากพนัง) และ จ.สตูล (อำเภอเมืองสตูล)

ภาพและข้อมูลจากสำนักประชาสัมพันธ์ จ.ภูเก็ต