“บิ๊กตู่” ชี้แจงเงินน้ำท่วมมีหลักเกณฑ์ไม่ใช่รัฐบาลไม่ช่วยอะไรเลย

วันที่ 17 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เรื่องน้ำท่วมหลายคนไม่เข้าใจว่าขั้นตอนการดำเนินการของรัฐบาลที่มี 3 ขั้นตอน คือ ก่อนเกิดภัย ระหว่างเกิดภัย และขั้นตอนการฟื้นฟู รัฐบาลมีวงเงินที่จะสามารถใช้จ่ายได้ เป็นงบกลางในการช่วยเหลือเยียวยาซึ่งจะเป็นขั้นตอนที่ 3 แต่ระหว่างนี้มีงบประมาณ 50 ล้านบาทของแต่ละจังหวัด ในการแก้ปัญหาเร่งด่วน ซึ่งถ้าไม่พอสามารถขอเพิ่มเติมมาที่รัฐบาลได้ การใช้งบประมาณมีขั้นตอนอยู่ไม่ใช่ตนจะไม่ให้อะไรเลย

ในส่วนของการเตรียมการช่วยเหลือมีหลายช่วย เช่น ของกระทรวงการคลัง, การเยียวยาพืชผลการเกษตร ไร่นา ปศุสัตว์ ประมงที่เสียหาย ซึ่งมีกฎหมายกำหนดไว้อยู่แล้ว นอกจากตรงนี้ยังมีเรื่องบรรเทาหนี้และดอกเบี้ย กำลังเร่งสำรวจเพื่อเยียวยาตามหลักเกณฑ์ แล้ว 3-4 เดือนข้างหน้าหลังน้ำลดต้องหามาตรการเสริม เช่น โครงการปลูกพืชน้ำน้อย ต้นทุนเมล็ดพันธุ์พืช ซ่อมถนน ซึ่งจะใช้วงเงินเยียวยา ไม่ใช่เอาเงินทั้งก้อนมาใช้หมดในวันนี้วันหน้าก็จะไม่มี

พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยกันทั้งภาคธุรกิจ ภาคประชาชน เช่น กรณีของ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนมีความสุขที่ทุกคนมีส่วนร่วมในการทำงานร่วมกับรัฐบาล  จะมีการเปิดรับบริจาคในช่วงค่ำ ตนจะไปร่วมรับบริจาคเพื่อจะนำเงินส่วนนี้มาสมทบทุนในการช่วยเหลือน้ำท่วมด้วย เพื่อเอามาใช้เพื่อดูแลประชาชนเพิ่มเติมนอกจากที่สามารถใช้จ่ายได้ตามกฎหมาย

“คืนนี้ก็ขอแรงช่วยกันบริจาคในรายการพิเศษ ร่วมใจพี่น้องไทย ช่วยภัยน้ำท่วม เวลา 19.30 น. ทางช่อง 9 MCOT HD นะครับ”

เมื่อถามถึงเสียงวิจารณ์ว่ารัฐบาลคิดช้าในการดำเนินการแก้ปัญหา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไปคิดช้าอย่างไร ตนคิดล่วงหน้าไว้ตลอดตั้งแต่ก่อนน้ำท่วม แต่ไม่ได้คาดการณ์ว่าจะตกมากขนาด 500 มิลลิเมตร ขอให้ฟังกันด้วย ขีดความสามารถในการรองรับน้ำของประเทศไทยรองรับได้ 200 มิลลิเมตร ทั้งปีตกรวม 1,000 กว่ามิลลิเมตร นี่ตก 5 วัน 500 มิลลิเมตร ก็ต้องแก้ไขไปตามสถานการณ์ ไม่ได้คิดช้า ช่วงแรกวางป้องกัน ช่วงนี้ดูแลให้ประชาชนดำรงชีวิตอยู่ได้ เร่งรัดทุกประทรวง พื่นที่ใดไม่ทั่วถึงก็แจ้งมายังศูนย์ต่างๆ ที่มีอยู่แล้ว ทั้งหมดคือแผนงานที่ทำมา ทั้งแผนเผชิญหน้า แผนเผชิญเหตุ ปรับเปลี่ยนวิธีการช่วยเหลือ เราคิดไว้ล่วงหน้าทั้งสิ้น ไม่อย่างนั้นจะสับสนอลหม่านมากกว่านี้

ส่วนกรณีการลงพื้นที่ ตนได้ลงไปแล้วได้เห็นสภาพทำให้นึกภาพออกตลอด และมีข้อมูลรายงานผ่านระบบออนไลน์ให้ตนดูซึ่งอยู่ในกรอบการทำงานอยู่แล้ว เมื่อมีการมอบภารกิจลงไปแล้วตนก็มีหน้าที่ในการติดตาม

ช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง คนที่วิจารณ์เรื่องงบประมาณอีกครั้งว่า ต้องรู้ว่าเงินส่วนไหนมีระเบียบการใช้อย่างไร

“อย่าไปสร้างความไม่เข้าใจอีกเลย บางคนก็บอกรัฐบาลไม่รู้หรือไงมีเงินอยู่ ทำไมผมจะไม่รู้ สำนักงบประมาณก็อยู่กับผม แต่เขาก็บอกว่าเงินตรงนี้ใช้ตรงไหนได้บ้าง กฎหมายมีอยู่ ไม่ใช่ผมมาใช้ได้หมดทุกอัน”