พี่น้องตระกูล ‘เจียรวนนท์’ ครองแชมป์มหาเศรษฐีไทยปี 2564 มูลค่าทรัพย์สิน 9.8 แสนล้านบาท

พี่น้องตระกูลเจียรวนนท์ รั้งอันดับ 1 ทำเนียบมหาเศรษฐีเมืองไทยประจำปี 2564 โดยนิตยสาร Forbes ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 9.8 แสนล้านบาท ตามด้วยเฉลิม อยู่วิทยา และเจริญ สิริวัฒนภักดี ส่วนทักษิณ ชินวัตร ติดอันดับ 18 ในปีนี้

วันที่ 8 ก.ค. 2564 นิตยสาร Forbes จัดอันดับทำเนียบ 50 มหาเศรษฐีไทยประจำปี 2564 สำหรับปีนี้ Forbes ระบุว่า แม้เศรษฐกิจที่พึ่งพาการท่องเที่ยวของไทยจะหดตัวถึง 6.3% ในปี 2563 ซึ่งเป็นการลดลงครั้งใหญ่สุดในรอบ 2 ทศวรรษ ขณะที่ในปีนี้จำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ก็กลับมาเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน แต่รัฐบาลไทยยังคงให้คำมั่นที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้วภายในเดือนต.ค. โดยเริ่มเปิดแล้วที่ภูเก็ตเมื่อต้นเดือนก.ค. ที่ผ่านมา

ในส่วนของแนวโน้มการฟื้นตัวภาพรวมของเศรษฐกิจและภาคการส่งออก พบว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของไทยปรับตัวขึ้น 43% จากการประเมินครั้งล่าสุดเมื่อ 15 เดือนที่แล้ว ซึ่งมีส่วนทำให้มูลค่าทรัพย์สินรวมกันของทั้ง 50 มหาเศรษฐีไทยในทำเนียบ Forbes เพิ่มขึ้นมากกว่า 20% มาอยู่ที่ 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีนี้

โดยในปีนี้ พี่น้องตระกูลเจียรวนนท์ แห่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ ยังคงครองอันดับ 1 ในทำเนียบมหาเศรษฐีเมืองไทย ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 3.02 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 9.8 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 2.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 9.4 หมื่นล้านบาท

ตามมาด้วย เฉลิม อยู่วิทยา เจ้าของแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลัง Red Bull ที่มีทรัพย์สิน 2.45 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 8 แสนล้านบาท

อันดับ 3 ตกเป็นของ เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี แห่งเครือไทยเบฟเวอเรจ มีมูลค่าทรัพย์สิน 1.27 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4.1 แสนล้านบาท

ด้านตระกูลจิราธิวัฒน์ ผู้พัฒนาห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ที่สุดของประเทศอย่าง Central Group รั้งอันดับที่ 4 โดยมีมูลค่าทรัพย์สิน 1.16 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.8 แสนล้านบาท และสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 5 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 8.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.8 แสนล้านบาท

มหาเศรษฐีที่มีรายชื่ออยู่ใน 10 อันแรก ได้แก่ ตระกูลโอสถานุเคราะห์อยู่ในอันดับ 6 มีมูลค่าทรัพย์สิน 3.5 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.1 แสนล้านบาท, อันดับ 7  สมโภชน์ อาหุนัย มีมูลค่าทรัพย์สิน 3.3 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.07 แสนล้านบาท, อันดับ 8 ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ มีมูลค่าทรัพย์สิน 3.25 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.05 แสนล้านบาท, อันดับ 9 ประจักษ์ ตั้งคารวคุณ มีมูลค่าทรัพย์สิน 3.2 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.03 แสนล้านบาท และอันดับ 10 ชูชาติ เพ็ชรอำไพและดาวนภา เพชรอำไพ มีมูลค่าทรัพย์สิน 3 พันล้านดอลลาร์ หรือ 9.7 หมื่นล้านบาท

ส่วนอันดับอื่นๆ ที่น่าสนใจ อาทิ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา แห่ง King Power รั้งอันดับ 16 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 2.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 7 หมื่นล้านบาท และอันดับ 18 ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย มีมูลค่าทรัพย์สิน 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 6.5 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีมหาเศรษฐีหน้าใหม่อีก 3 รายจาก 3 กลุ่มธุรกิจ ที่ติดทำเนียบปีนี้ ได้แก่ สมชาย รัตนภูมิภิญโญ ผู้ก่อตั้งธุรกิจอาหาร บมจ.อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย สมหวัง และ ไวยวุฒิ สินเจริญกุล คู่พ่อลูกผู้อยู่เบื้องหลังศรีตรัง บริษัทอุตสาหกรรมยางธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ และอดิศักดิ์ และ ณัฐยา ตั้งมิตรประชา ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้าน Dohome

ด้าน 1 ใน 3 รายชื่อที่หวนคืนสู่ทำเนียบในปีนี้อีกครั้ง ได้แก่ บัญชา องค์โฆษิต จากการที่บริษัทเคซีอี อีเลคโทรนิคส์ ผู้ผลิตแผงวงจรพิมพ์สำหรับภาคยานยนต์ ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า