ชาวบ้านลักลอบเผาป่า “เขาทะลุ” ชุมพร ไฟลามหนักยังคุมไม่ได้

เกิดไฟป่าไหม้ “ภูเขาทะลุ” แหล่งสวนเกษตร ที่สำคัญของ จ.ชุมพร ทั้งสวนกาแฟ สวนยางพารา สวนทุเรียน ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 29 ก.พ. ที่ผ่านมา ทำให้ไฟไหม้กินพื้นที่กว้าง 3 ตำบล ตั้งแต่กลางภูเขาแล้วลามขึ้นสู่ยอดภูเขา และลามลงสู่พื้นราบที่เป็นที่อาศัยของชุมชนใน ต.เขาทะลุ ต.เขาค่าย และ ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร

วันที่ 1 มี.ค.63  เจ้าหน้าที่กู้ภัยเขาทะลุ ตำรวจ สภ.นาสัก และเข้าหน้าที่ป่าไม้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยชาวบ้าน นำเครื่องมือดับไฟ เดินทางขึ้นไปยังบนภูเขาทะลุ เพื่อหาวิธีการดับไฟป่า โดยใช้เวลาเดินร่วม 1 ชั่วโมง เพื่อให้สามารถเข้าไปใกล้จุดเกิดเพลิงไหม้

โดยไฟไหม้ป่าครั้งนี้ กินระยะทางรวม 1 กิโลเมตร จนสามารถมองเห็นได้จากริมถนนสายเขาทะลุ-เขาค่าย สร้างความหวาดหวั่นแก่ชาวบ้าสที่บ้านเรือนที่อยู่รอบภูเขาทะลุเป็นอย่างมาก

ชาวบ้านหญิงรายหนึ่ง ที่เดินทางขึ้นไปบนภูเขาเพื่อเฝ้าระวังไฟลามไหม้มายังสวนยางพาราของเธอ เล่าว่า ไฟไหม้เริ่มเกิดตั้งเที่ยง จากเป็นควันก็เริ่มเป็นเปลวไฟ และลุกลามเป็นวงกว้าง กำลังลามลงมาใกล้สวนยางพาราจึงชักชวนคนในครอบครัวมาเฝ้าระวังและ กลัว เจ้าหน้าที่จะควบคุมไฟไม่ได้

จากการเดินเข้าไปดับไฟป่าของเจ้าหน้าที่ ช่วงที่ใกล้ถึงยอดภูเขา พบ สายยางที่ต่อน้ำมาจากแหล่งน้ำด้านล่าง เพื่อ ดับไฟที่เผาขึ้น ทำให้สัญนิษฐานได้ว่ามีคนทำให้เกิดไฟไหม้ และพยายามดับแต่ควบคุมไม่อยู่ จึงทิ้งสายยางไว้แล้วหลบหนีออกไป จนทำให้ไฟลามไปทั่วทั้งภูเขาทะลุ และยังไม่สามารถควบคุมได้จนถึงเวลานี้

นายอัมพร ขาวศิริ หัวหน้าหน่วยป่าไม้ ที่ ชพ.6 นาสัก กล่าวว่า พบหลักฐานชัดเจนว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากชาวบ้านขึ้นไปจุดไฟเผาเพื่อต้องการที่ดินไปทำการเกษตร และนำสายพลาสติกส่งน้ำจากด้านล่างเพื่อควบคุมไฟในระหว่างการจุดไฟเผา แต่ไม่สามารถควบคุมไฟได้ จนลุกลาม ในขณะนี้ได้แจ้งความกับตำรวจ สภ.นาสัก เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดที่พอจะทราบตัว แต่ที่กังวลคือกลังจะควบคุมไฟไม่ได้ในวันนี้หรือพรุ่งนี้