SHARE

คัดลอกแล้ว

สำนักข่าวบีบีซี (BBC) รายงานว่า อัยการของรัฐมินนิโซตาได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับ 4 อดีตตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ สำหรับ เดริค เชาวิน ผู้ใช้เข่ากดลงไปที่คอของผู้ตายโดนเพิ่มข้อหาเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนาขณะกระทำความผิดร้ายแรง (Second Degree Murder) ส่วนอีก 3 คนที่เหลือโดนฟ้องในข้อหาช่วยเหลือและสนับสนุนการฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา

ส่วนรายการการชันสูตรศพของฟลอยด์อย่างเป็นทางการฉบับเต็มได้ถูกเปิดเผยแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการแถลงออกมาเพียงแค่เสียชีวิตจากการถูกฆาตกรรม รายงานระบุว่าฟลอยด์มีผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวก และมีความเห็นแนบท้ายว่าผู้ตายมีประวัติติดเชื้อโดยไม่แสดงอาการมาตั้งแต่ 3 เม.ย. แล้ว แต่ปอดยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ จึงไม่ถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเสียชีวิต

ก่อนหน้านี้เมื่อคืนวันจันทร์ทางเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพจาก Hennepin County ของเมืองมินนิอาโพลิสออกมาระบุว่าสาเหตุการตายของฟลอยด์คือการถูกฆาตกรรม และวันนี้ได้มีการเผยแพร่รายงานฉบับเต็มออกมา

ในด้านคดีความนั้น ข้อกล่าวหาที่เพิ่มขึ้นเป็นข้อหาที่มีอัตราโทษจำคุกสูงสุด 40 ปี จากที่ก่อนหน้านี้โดนข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย (Third Degree Murder) และ กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย (Second Degree Manslaughter) นั้น มีโทษจำคุกสูงสุด 25 ปี และ 10 ปี ตามลำดับ

ในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ละรัฐจะมีการบังคับใช้กฎหมายแตกต่างกัน สำหรับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมนั้นส่วนใหญ่จะมีการแบ่งเป็นระดับ 1 (รุนแรงที่สุด) และ ระดับ 2 แต่ในบางรัฐจะมีการเพิ่มระดับ 3 เข้ามาด้วย รวมถึงรัฐมินนิโซตาเช่นกัน 

สำหรับในหลาย ๆ รัฐ การฆาตกรรมระดับ 2 จะถือเป็นการฆาตกรรมโดยเจตนาแต่ไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน แต่สำหรับมินนิโซตานั้นจะยังไม่ถือว่าอยู่ในระดับที่มีเจตนาในการฆ่า และนั่นก็เป็นเหตุให้ทางทนายความของครอบครัวฟลอยด์บอกกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น CNN ว่าทางครอบครัวอยากให้มีการแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและมีการไตร่ตรองไว้ก่อน (First Degree Murder) ซึ่งมีโทษคือจำคุกตลอดชีวิต และพวกเขาก็ได้รับแจ้งว่าการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อกล่าวหาอีกในภายหลัง

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า