วันที่ 19 ก.พ.63 สื่อต่างประเทศรายงานว่า ศาลอุทธรณ์เกาหลีใต้ได้ตัดสินโทษจำคุก นายลี เมียง บัก วัย 78 ปี อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ (2008-2013) ถึง 17 ปี จากคดีรับสินบน ฉ้อโกง และใช้อำนาจในทางมิชอบ พร้อมปฏิเสธการประกันตัว อีกทั้งศาลยังสั่งให้นายลีต้องจ่ายค่าปรับ 1.3 หมื่นล้านวอน หรือราว 300 ล้านบาท และค่าสินไหมอีก 5.7 พันล้านวอน หรือราว 150 ล้านบาท
โดยเมื่อปี 2018 ถูกศาลกรุงโซลตัดสินว่ามีความผิดในการติดสินบนและฉ้อโกง มีผลให้ติดคุกเป็นเวลา 15 ปี และถูกปรับเป็นจำนวนเงิน 1.3 หมื่นล้านวอน หรือ 11.5 ล้านดอลลาร์ จากความผิดข้อหารับเงินเกือบ 6 พันล้านวอน จากซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อออกคำสั่งการอภัยโทษแก่นาย ลี กุน ฮี ประธานบริษัทซัมซุงที่ถูกจำคุกในข้อหาเลี่ยงภาษี และสร้างกองทุนเพื่อวัตถุประสงค์ที่มิชอบด้วยกฎหมาย (Slush Fund) รวม 2.4 หมื่นล้านวอน เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัท DAS ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ของน้องชายตัวเอง
โดยในครั้งนั้น ศาลกรุงโซลได้ตัดสินจำคุกนายลี เมียง บัก เป็นเวลา 15 ปี และปรับเป็นจำนวนเงิน 1.3 หมื่นล้านวอน หรือ 11.5 ล้านดอลลาร์ กระทั่งเมื่อช่วงต้นปี 2019 ศาลสูงเกาหลีใต้คำสั่งให้ประกันตัวนายลี เมียง บัก หลังนายลียื่นอุทธรณ์ ซึ่งผลจากการพิจารณาคดีของศาลอุทธรณ์เกาหลีใต้ในครั้งนี้ (19 ก.พ.63) ทำให้นายลี เมียง บัก กลายเป็นประธานาธิบดีผู้นำเกาหลีใต้คนที่ 4 ที่ถูกดำเนินคดี