ดีเอสไอจับซีอีโอบริษัท FOREX-3D หลังหลบหนีจากไทยซุกสิงคโปร์นานนับปี

ดีเอสไอจับซีอีโอบริษัท FOREX-3D ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ภายในคอนโดหรูย่านทองหล่อ หลังหลบหนีจากไทยซุกสิงคโปร์นานนับปี รวมมูลค่าความเสียหายในคดีกว่า 2 พันล้านบาท

วันที่ 15 ม.ค.2564  พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีดีเอสไอ และนายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ร่วม แถลงผลการจับกุมนายอภิรักษ์ โกฎธิ  ซีอีโอบริษัท FOREX-3D ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา

โดยนายปิยะศิริ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนเข้าตรวจค้นจับกุมตัว นายอภิรักษ์ได้ที่คอนโดมิเนียมย่านทองหล่อ พร้อมของกลางจำนวนมาก โดยเฉพาะรถยนต์ Lamborghini Huracan LP610-4 CO ซี่งเดิมเป็นสีส้ม แต่ผู้ต้องหาได้ทำสีใหม่เป็นสีฟ้าเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่และเตรียมนำไปชายในตลาดมืด มูลค่ากว่า 24,800,000 บาท และจะนำไปขายในราคาคันละ 10 ล้านบาท ซึ่งในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การแบ่งรับแบ่งสู้ และไม่ได้ปฎิเสธทั้งหมด  พร้อมยืนยันว่า มีธุรกิจเกี่ยวกับการเทรดเงินในต่าง ประเทศ ทั้ง ฮ่องกง ดูใบ และสิงคโปร์ จำนวน 3 บริษัท โดยมีสมาชิกทั้งชาวไทยและต่างประเทศกว่า 60,000 คน แต่ไม่สามารถนำหลักฐานมาแสดงต่อพนักงานสอบสวนได้ พร้อมแจ้งว่าขอให้การในชั้นศาล นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ยึดเอกสารที่แสดงกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของที่ดิน สมุดบัญชีเงินฝาก ตู้เซฟเก็บทองคำ  โทรศัพท์มือถือ นาฬิกาหรู เครื่องประดับ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค กระเป๋าแบรนด์เนมและอีกหลากหลายรายการ

นายปิยะศิริ ยังกล่าวอีกว่า นายอภิรักษ์ได้หลบหนีการจับกุมและไปอาศัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านตั้งแต่ปี 2562 และดีเอสไอได้ออกหมายจับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2563 จากข้อมูลการข่าวทราบว่านายอภิรักษ์ได้หลบหนีไปมาระหว่างประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย ต่อมาในช่วงปลายเดือนต.ค. 2563 ได้ลักลอบกลับมายังประเทศไทยผ่านเข้ามาทางชายแดนประเทศกัมพูชาตามช่องทางธรรมชาติ ซึ่งระหว่างที่พักอยู่ในกทม.ไม่มีที่อาศัยเป็นหลักแหล่ง พนักงานสอบสวนดีเอสไอจึงได้ใช้เทคนิคสืบสวนจนทราบเส้นทางสัญจรของรถยนต์ที่นายอภิรักษ์ใช้ จึงได้แสดงหมายจับเข้าตรวจค้นและจับกุม ทั้งนี้ก่อนหน้าที่จะจับกุมได้พบว่า ผู้ต้องหาได้มาอาศัยอยู่ในคอนโดดังกล่าวเพียง  2 เดือน

ขณะเดียวกันดีเอสไอได้ใช้อำนาจตามพ.ร.บคดีพิเศษ เรียกผู้เกี่ยวข้องในคดีดังกล่าวเข้าสอบปากคำอีก 7 ราย ซึ่งกลุ่มบุคคลทั้งหมดอาจมีความผิดฐานฟอกเงิน เนื่องจากการสืบสวนพบว่า บางรายทำหน้าที่นำทรัพย์สินไปขาย และอีกส่วนหนึ่งได้พาผู้ต้องหาหลบหนีการจับกุมด้วย