คุยกับ ‘ฟรัง นรีกุล’ เจ้าของ 3 ธุรกิจ ที่วันนี้ขอเรียนรู้ระหว่างทาง

“ตอนเล่นซีรีส์ฮอร์โมนส์ เราสนุกนะ แต่ก็ไม่ได้มองตัวเองตอนอายุ 30 ว่าจะยังอยู่ในวงการบันเทิงอยู่” เรื่องเล่าจาก ‘นรีกุล เกตุประภากร’ หรือที่รู้จักกันดี ‘หมอฟรัง’ 

ถ้าย้อนกลับไปผลงานแรกๆ ที่ทำให้เราได้รู้จัก ‘ หมอฟรัง’ ก็มาจากซีรีส์ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น ซีซั่น 2 ที่รับบทเป็นตัวละคร ‘ออย’ นักเรียนสุดเนิร์ดที่มีบาดแผลจากครอบครัวมากมาย 

ผ่านมาจากความสำเร็จของซีรีส์แจ้งเกิด ตอนนี้ ‘หมอฟรัง’ ในวัย 27 ปี ไม่ได้มีแค่บทบาทนักแสดงอีกต่อไป เพราะเป็นทั้งหมอ คอนเทนต์ครีเอเตอร์ และเป็นนักธุรกิจที่มีธุรกิจในมือถึง 3 แบรนด์ ซึ่งแต่ละธุรกิจคนละขั้วกันเลย นั่นก็คือร้านตัดสูทผู้หญิง  Ellis, น้ำผลไม้เพื่อสุขภาพ MOOOOD, คลินิกความงาม ONE SURGERY AND AESTHETICS CLINIC

บทความนี้ TODAYBizview จะชวนคุยกับ ‘หมอฟรัง’ ในมุม ‘นักธุรกิจ’ ว่ามีแนวคิดในการทำงานแต่ละอย่างอย่างไร? 

‘หมอฟรัง’ เริ่มจากเล่าถึงตัวตนจริงๆ ให้ฟังว่าตั้งแต่เด็กเป็นคนดื้อ ไม่ชอบอยู่ในกรอบ ชอบอิสระมาก แค่ที่ผ่านมาไม่ได้มีเส้นทางให้เราดื้อได้อย่างเต็มที่ จึงเริ่มเป็นคอนเทนต์ครีเตอร์ซึ่งเป็นอิสระในการทำคอนเทนต์มากๆ รวมถึงยังสามารถใช้วิชาชีพหมอที่เรียนมาสามารถให้ความรู้และช่วยเหลือผู้คนได้ด้วย

หลังจากนั้นมาก็ค้นหาตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมองแล้วว่าการแสดงยังไม่ใช่ความชอบที่สุด เลยอยากลอง ‘ทำธุรกิจ’ 

[ เปิดร้านตัดสูทผู้หญิง จาก Pain Point ของตัวเองที่ออกงานบ่อย ]

โดยธุรกิจแรกที่เริ่ม ‘หมอฟรัง’ เล่าให้ฟังว่าด้วยความเป็นหมอจริงๆ อยากลองเปิดแบรนด์ ชุดสครับ (Scrubs suit) คือ ชุดที่บุคคลากรทางการแพทย์สวมใส่กัน แต่ด้วยความที่ผ้าที่ถูกใจหายาก เลยไม่ได้ลองทำ จนกระทั่งตัวเองเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ด้วย ได้ไปออกงานบ่อยๆ ก่อนจะพบ Pain Point ที่สำคัญว่าผู้หญิงไม่ค่อยมีร้านตัดสูทเฉพาะทาง ขณะที่ร้านตัดสูทเฉพาะทางของผู้ชายกลับหาง่าย จึงคิดทำธุรกิจร้านตัดสูทผู้หญิง 

“เวลาออกงาน เราจะเห็นแต่สูทผู้ชาย แล้วทำไมผู้หญิงถึงไม่มีตัวเลือกเท่ๆ บ้าง” อีกทั้งที่บ้านยังมีเครือญาติที่เป็นช่างตัดสูทและได้รับการสนับสนุน หมอฟรังเลยเริ่มต้นทำทันที

สำหรับร้านตัดสูทผู้หญิง Ellis ลูกค้าของแบรนด์นี้ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงวัยทำงาน 30+ ที่มีสไตล์ มีกำลังซื้อ และอยากได้ชุดสูทที่ใส่แล้วมั่นใจ

[ แบรนด์น้ำผลไม้เพื่อสุขภาพ MOOOOD สอนให้รู้ว่าบรรทัดทองคนไปกินของอ้วน ]

ต่อมาเป็นอีกหนึ่งธุรกิจของ ‘หมอฟรัง’ คือ แบรนด์น้ำผลไม้เพื่อสุขภาพ MOOOOD โดยจุดเริ่มต้นที่คิดค้นแบรนด์มาจากการที่ตัวเองชอบดื่มน้ำผลไม้มากๆ  และไม่ได้วางแผนธุรกิจเป๊ะๆ ตั้งแต่ต้น ขณะเดียวกันตัวเองก็มีเพื่อนเป็นเชฟที่ช่วยคิดสูตรจึงทำให้เกิดเป็นแบรนด์ MOOOOD ที่มี 3 สาขาขึ้นมา (บรรทัดทอง, ทองหล่อ 10 และสาขาที่ 3 คอลแลปกับร้านกาแฟ) 

 “เราเริ่มจากสิ่งที่อินก่อน แล้วค่อยเรียนรู้ระหว่างทาง” 

‘หมอฟรัง’ นิยามว่าการทำธุรกิจของตัวเองก็เหมือนการ ‘เรียนรู้ระหว่างทาง’ เช่น แบรนด์ MOOOOD มีสาขาที่บรรทัดทองก็จริง แต่ยอดขายส่วนใหญ่ก็ยังมาจาก Grab เพราะลืมไปว่าคนไปบรรทัดทองส่วนใหญ่มักไปหาของอร่อยๆ อ้วนๆ ทาน ทำให้นี่เป็นอีกหนึ่งบทเรียนสำคัญเรื่องทำเลในการทำธุรกิจ

และแพลนหลังจากนี้ก็คาดว่าจะขยายสาขาไปให้ครบ 10 สาขา โดยที่ตอนนี้แบรนด์ยังต้องมี ‘หมอฟรัง’ เข้ามาช่วยทำการตลาดอยู่เป็นหลักด้วย 

[ คลินิกเสริมความงาม เป็นพาร์ทเนอร์กับเพื่อนเพราะยังเห็นโอกาสการเติบโต ]

ต่อมาเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ นั่นก็คือคลินิกความงาม ‘ONE SURGERY AND AESTHETICS CLINIC’  โดยรอบนี้ ‘หมอฟรัง’ เข้าไปเป็นพาร์ทเนอร์กับเพื่อน เพราะเห็นโอกาสในตลาดไทยที่คนเริ่มดูแลตัวเองเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย และกลุ่มลูกค้าก็ไม่ได้มีแค่คนไทย แต่ยังมีคนจีน อินโดนีเซีย ที่มองไทยเป็น Destination ด้านความงาม

ถ้าเทียบกับเกาหลีที่ขึ้นชื่อเรื่องคลินิกความงาม ‘หมอฟรัง’ ให้ความเห็นเรื่องนี้ว่า “ข้อดีของการไปเกาหลีคือเห็นนวัตกรรมเยอะมาก แต่เรารู้สึกว่าเราก็อยากเอาสิ่งดีๆ แบบนั้นมาใช้ในไทยบ้าง” หรือพูดง่ายๆ ว่าคลินิกความงามในไทยยังสามารถพัฒนาได้ และไม่ได้แพ้ที่อื่นในโลก

จากที่มาของธุรกิจทั้ง 3 แนวของ ‘หมอฟรัง’ จะเห็นว่าเธอเน้นเริ่มต้นจากสิ่งที่ชอบ บางธุรกิจก็เริ่มจาก Pain Point ของตัวเอง เพื่อจะได้เข้าใจเรื่องราวมากที่สุด และจากนั้นสิ่งสำคัญคือ ‘เรียนรู้ระหว่างทางอยู่เสมอ’ 

อ่านมาถึงตรงนี้ต้องเข้าไปทำงานดูแลธุรกิจ และยังเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ผสมกับเป็นคุณหมอบ้างในบางเวลา ถามว่า แบ่งเวลาให้ตัวเองยังไง ‘หมอฟรัง’ บอกว่า มีบางช่วงที่งานยุ่งมาก ไม่มีเวลาพักผ่อนเท่าไหร่ 

แต่พาร์ทการทำงานก็สำคัญ ทุกวันนี้ต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงาน จะได้แบ่งเวลาให้ได้พักผ่อน ซึ่งไอเทมที่ขาดไม่ได้เลยคือ iPhone และ Macbook ที่ช่วยทุ่นแรงเรื่องงานและการบริหารจัดการชีวิต

เพราะในอีกบทบาทอย่างคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ‘หมอฟรัง’ บอกว่า ยังอยากทำต่อไปเรื่อยๆ ผลิตคอนเทนต์ให้ออกมาสม่ำเสมอ เพราะสนุกกับการแชร์ความรู้ และอยากให้คนได้ประโยชน์จริงๆ

‘หมอฟรัง’ บอกทิ้งท้ายว่าเป็นคนที่สนุกกับอะไรหลายๆ อย่าง และทุกอย่างก็ได้เรียนรู้ระหว่างทางทั้งนั้น