บุคลากรสาธารณสุขฝรั่งเศส โดนสั่งพักงาน 3,000 คน เหตุยังไม่ยอมไปฉีดวัคซีน

ฝรั่งเศสเอาจริง สั่งพักงานบุคลากรสาธารณสุขที่ปฏิเสธเข้ารับการฉีดวัคซีน ทำให้โรงพยาบาลบางแห่งเริ่มประสบปัญหาขาดคนแล้ว

วันที่ 16 ก.ย. 2564 สำนักข่าวบีบีซี (BBC) รายงานว่า ฝรั่งเศสเริ่มบังคับใช้มาตรการกำหนดให้บุคลากรสาธารณสุข จำเป็นต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อที่จะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ทำให้มีผู้ที่ถูกสั่งพักงานไปแล้วราว 3,000 คน

มาตรการนี้ครอบคลุมบุคลากรทั่วประเทศ 2.7 ล้านคน ทั้งแพทย์ พยาบาล พนักงานโรงพยาบาล อาสาสมัคร ผู้ดูแลตามบ้าน และพนักงานดับเพลิง

โอลิวิเยร์ เวอราน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศสเปิดเผยว่า การพักงานส่วนใหญ่มีผลเพียงชั่วคราวเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง เคยประกาศแจ้งเตือนล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค. แล้ว เพื่อให้กลุ่มบุคลากรมีเวลาในการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส ภายในวันที่ 15 ก.ย. มิฉะนั้นก็ให้ลาออกจากงานไป 

หลังจากที่ประธานาธิบดีได้ประกาศออกมา เว็บไซต์สำหรับการจองฉีดวัคซีนอย่าง Doctolib ประสบปัญหาเว็บล่มทันที จากการที่คนจำนวนมากพยายามเข้าไปจองคิว

อย่างไรก็ตาม แม้จะถึงเส้นตายที่กำหนดแล้ว แต่ยังมีอีกหลายพันคนที่ไม่ยอมไปฉีด ทำให้เกิดความกังวลว่าจะเกิดปัญหาด้านการบริการสาธารณสุขขึ้น

อย่างเช่นในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองนีซทางตอนใต้ของฝรั่งเศส มีบุคลากรเกือบ 450 คนที่ถูกพักงาน ทำให้พวกเขาออกมาประท้วงหน้าโรงพยาบาล

เช่นเดียวกับ โรงพยาบาลในเมืองมอนเตลิมาร์ ที่ต้องทำการยกเลิกคิวผ่าตัดที่ไม่เร่งด่วนออกไปก่อน หลังประสบปัญหาไม่มีวิสัญญีแพทย์เพียงพอ เนื่องจากยังไม่ได้ฉีดวัคซีน

ปัจจุบันฝรั่งเศสมีประชากรวัยผู้ใหญ่ที่ได้รับวัคซีนแล้วเกือบ 90% และกำลังจะเริ่มกระจายวัคซีนสู่เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป รวมถึงฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 ให้กับกลุ่มเปราะบางต่อไป