Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว
ศาลถอนประกัน อานนท์ นำภา คดีชุมนุมแต่ให้โอกาสยื่นของปล่อยชั่วคราวใหม่ได้ แต่เจ้าตัวสละสิทธิ์ เขียนจดหมายระบุหมดหน้าที่นอกคุกแล้ว ขอให้ทุกคนสู้ต่อในการุมนุม 19 ก.ย. ขณะที่ ไมค์ ระยอง ได้ประกัน แต่ขอไม่ใช้สิทธิ์ โทรศัพท์คุยกับแม่ก่อนยอมถูกจำคุก
วันที่ 3 ก.ย. 2563 จากกรณีที่ พนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ได้ยื่นคำร้องขอเพิกถอนการปล่อยชั่วคราว นายอานนท์ นำภา และนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง ผู้ต้องหาจากการร่วมการชุมนุมทางการเมือง ที่ได้รับการปล่อยชั่วคราว โดยมีเงื่อนไขห้ามกระทำการใดๆ ในลักษณะเดียวกับที่ถูกกล่าวหาในคดีอีก มิฉะนั้นถือว่าผิดสัญญาประกัน เนื่องจากเห็นว่าได้กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนเงื่อนไขของศาล ซึ่งศาลมีคำสั่งให้นัดไต่สวนคำร้อง เวลา 09.00 น.
หลังจากไต่สวนโดยใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง เมื่อเวลา 16.00 น. ศาลอาญาอ่านคำสั่งศาล โดยศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า
กรณีของภาณุพงศ์ จาดนอก ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานในการไต่สวนคําร้องและคําคัดค้านของทนายความผู้ต้องหาแล้ว เห็นว่าบทบัญญัติเรื่องการปล่อยตัวชั่วคราวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 108 วรรคท้าย นอกจากศาลมีอํานาจพิจารณาอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวต้องหาได้แล้ว ศาลอาจใช้ดุลพินิจวางข้อกําหนดเงื่อนไขใดให้ผู้ถูกปล่อยชั่วคราวปฏิบัติก็ได้  ทั้งนี้เพื่อป้องกันภัยอันตรายหรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการปล่อยตัวชั่วคราวนั้น
ในวันที่ 8 ส.ค. 2563 ผู้ต้องหาได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยมีเงื่อนไขว่าห้ามกระทําการใดๆ ในลักษณะเดียวกันกับการกระทําที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้อีก มิฉะนั้นถือว่าผิดสัญญาประกัน
แต่ในวันที่ 10 ส.ค. 2563 ผู้ต้องหากลับขึ้นปราศรัยต่อผู้ชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดยปรากฏจากพยานหลักฐานของผู้ร้อง โดยที่ผู้คัดค้านไม่มีพยานหลักฐานใดมาแสดงต่อศาลให้เห็นว่าข้อความที่ปรากฏตามคําถอดเทปของผู้ร้องไม่ถูกต้องตรงกับข้อความที่ผู้ต้องหาพูดในที่เกิดเหตุ เพราะผู้ต้องหาก็รับว่าตามวันเวลาและสถานที่ตามคําร้อง ผู้ต้องหาได้พูดปราศรัยจริง เพียงแต่จําข้อความที่ตนเองพูดไม่ได้
เมื่อพิจารณาประกอบกับพนักงานสอบสวนสถานีตํารวจภูธรคลองหลวงนําเหตุแห่งการปราศรัยของผู้ต้องหาในคดีนี้ไปขอหมายจับที่ศาลจังหวัดธัญบุรี จนกระทั่งศาลจังหวัดธัญบุรีได้ออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้ ตามหมายจับที่ จ.324/2563 ลงวันที่ 14 ส.ค. 2563 โดยมีข้อหาเช่นเดียวกับที่ผู้ร้องกล่าวอ้างเป็นเหตุให้เพิกถอนสัญญาประกัน ปรากฏตามเอกสารเพิ่มเติมคําร้องขอให้ศาลเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาฉบับลงวันที่วันนี้ จึงเพียงพอและน่าเชื่อว่าผู้ต้องหาได้ขึ้นปราศรัยโดยมีข้อความตามที่ปรากฏในบันทึกถอดเทปคําปราศรัยกลุ่มผู้ชุมนุม
เอกสารท้ายคําร้องขอให้ศาลเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา โดยมีลักษณะเป็นการกระทําให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา อันมิใช่เป็นการกระทําภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญหรือมิใช่เพื่อการแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน อันมีลักษณะเป็นการกระทําเดียวกันกับการกระทําที่ศาลพิจารณาออกหมายจับ และเป็นการกระทําที่ผู้ต้องหาถูกกล่าวหาในคดีนี้ เป็นการผิดเงื่อนไขตามสัญญาประกันจึงถือว่าผิดสัญญาประกัน
แต่เมื่อพิเคราะห์ถึงอายุ อาชีพ และพฤติกาณ์แห่งการกระทําที่ถูกกล่าวหาให้เพิกถอนการปล่อยชั่วคราว ยังไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่การสอบสวนหรือการดําเนินคดี สมควรให้โอกาสแก่ผู้ต้องหาสักครั้งหนึ่ง แต่มีเงื่อนไขโดยให้มีประกันในวงเงินเพิ่มเป็น 200,000 บาท และให้ผู้ต้องหามารายงานตัวต่อศาลทุก 15 วันนับแต่วันนี้ หากผู้ต้องหาไม่ดําเนินการตามคําสั่งในวันนี้ ให้เพิกถอนการปล่อยชั่วคราว และรับตัวไว้ หมายขัง
 ในส่วนกรณีของอานนท์ นำภา ศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานในชั้นไต่สวนคําร้องและคําคัดค้านขอเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวแล้ว ได้ความจากผู้ร้องและผู้คัดค้านเป็นพยานเบิกความไม่โต้แย้งกัน ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2563 ผู้ต้องหาร่วมกิจกรรมชุมนุมเชียงใหม่ #คณะประชาชนปลดแอก และกล่าวปราศรัยตามบันทึกถอดเทปคําปราศรัยกลุ่มผู้ชุมนุม
และเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2563 ผู้ต้องหาร่วมกิจกรรมชุมนุมธรรมศาสตร์จะไม่ทน และกล่าวปราศรัยตามบันทึกถอดเทปคําปราศรัยกลุ่มผู้ชุมนุม
คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนตํารวจภูธรจังหวัดปทุมธานีได้รับอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา เนื่องจากผู้ต้องหาร่วมกิจกรรมชุมนุมธรรมศาสตร์จะไม่ทน และกล่าวปราศรัย ตามหมายจับที่ จ.325/2563 ของศาลจังหวัดธัญบุรี
เห็นว่าเมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2563 ศาลมีคําสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา โดยมีเงื่อนไขห้ามกระทําการใดๆ ในลักษณะเดียวกับการกระทําที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้อีก เมื่อผู้ต้องหาเป็นบุคคลคนเดียวกับผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี โดยมีข้อกล่าวหาว่าร่วมกันกระทําให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทําภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อให้เกิดความไม่สงบในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน อันมีลักษณะการกระทําใดๆ ในลักษณะเดียวกับการกระทําที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้อีก
เป็นการผิดเงื่อนไขการอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เพื่อป้องกันผู้ต้องหาจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น กรณีมีเหตุสมควร จึงมีคําสั่งให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา หมายขังผู้ต้องหาในระหว่างสอบสวน
ทั้งนี้ กรณีของนายอานนท์ ศาลไม่ได้ตัดสิทธิผู้ต้องหาในการยื่นประกันตัวใหม่ได้ แต่นายอานนท์ได้แถลงต่อศาลว่า ตนตัดสินใจไม่ขอยื่นประกัน เนื่องจากการปราศรัยในการชุมนุมนั้นเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพ ไม่ใช่ความผิด ตนจึงยินดีจะสละเสรีภาพส่วนตัว​ เพื่อรักษาอุดมการณ์ทางการเมือง และยืนยันว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับนักเรียนนักศึกษาเป็นสิ่งที่ผิด
จากนั้นได้มีการโพสต์ภาพกระดาษเขียนด้วยลายมือในเฟซบุ๊กว่า
“ให้การขังผมในวันนี้ เป็นใบเสร็จของการคุกคามประชาชน 19 ก.ย. 63 ไปเอาคืน เชื่อมั่นและศรัทธา”
โดยก่อนหน้านั้นโพสต์ภาพกระดาษเขียนด้วยลายชื่อเช่นกันว่า
“ยินดีที่ได้ต่อสู้กับทุกคน เราเดินมาไกล จงเดินต่ออย่างกล้าหาญ หน้าที่นอกคุกผมจบแล้ว ขอเดิมพันทั้งหมด เพื่อการเปลี่ยนแปลง 19 ก.ย.นี้ ช่วยยืนยันที่ว่าเรามาถูกทาง เชื่อมั่นในทุกๆ คน”
ด้านนายภาณุพงศ์  ได้โทรศัพท์คุยกับแม่ และตัดสินใจไม่ยินยอมรับเงื่อนไขในการให้เพิ่มวงเงินประกันตัวของศาล โดยได้เขียนจดหมายและโพสต์ในเฟซบุ๊ก ความว่า “ขบวนการประชาธิปไตยเริ่มออกเดินทาง เมื่อทุกคนรู้ว่าสิ่งที่เป็นอยู่ในสังคมปัจจุบัน คือการหลงระเริงด้วยอำนาจของเหล่าชนชั้นผู้นำ การออกเดินทางในครั้งนี้ พวกเราผู้มีอุดมการณ์แห่งความเป็นประชาธิปไตย มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือการเดินหน้าสู้ต่อความอยุติธรรมและความเหลื่อมล้ำ รวมถึงระบบศักดินาที่คอยกัดกล่อนกินระบอบประชาธิปไตยของเราเรื่อยมา
หากขบวนการในการเดินทางครั้งนี้จะต้องขาดใครสักคน ขอทุกคนจงเชื่อมั่นในจุดมุ่งหมายที่เราร่วมทางกันมา อย่าหยุดรอใครให้เวลามันเดินไปอย่างเสียเปล่า แต่ขอจงสู้ต่อไป เพื่อนำชัยชนะมาสู่ขบวนการของพวกเรา การเสียสละอิสรภาพของใครคนใดคนหนึ่งเป็นเพียงการต่อสู้ที่ต้องพบเจอของนักต่อสู้ ผมเชื่อมั่นในตัวทุกคนว่าถ้าผมไม่ได้รับอิสรภาพทุกคนจะเดินต่อไปได้ และจะพบชัยชนะตามที่เราต่อสู้มา”
หลังจากนั้นทั้งคู่ถูกนำตัวไปที่ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า