พ่อร้องตร. ลูกชายถูกรับน้องทรมาน-ล้างสมอง จนทนไม่ไหว

วันที่ 25 ส.ค. ที่ สน.สามเสน นายพลสิงห์ แสนสุข ประธานอำนวยการศูนย์พญาอินทรี พร้อมด้วย นายพิสาร (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี พ่อนายเดช (นามสมมติ) อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สถาบันเทคโนโลยีชื่อดังแห่งหนึ่ง เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.วรพจน์ ตาลแก้ว รอง สว.สอบสวน สน.สามเสน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับรุ่นพี่ในสถาบันข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บและกักขังหน่วงเหนี่ยว

นายเดชได้แสดงหลักฐานเป็นรอยฟกช้ำ แผลพุพองที่อยู่ตามลำตัว ทั้งไหล่ แขน และหน้าท้อง ที่ถูกรุ่นพี่ 4-5 คนรุมทำร้ายร่างกายในกิจกรรมรับน้อง นานกว่า 2 เดือน โดยรุ่นพี่ให้เหตุผลว่าต้องร่วมกิจกรรมเข้าระบบนี้หนึ่งภาคการศึกษา

นายพลสิงห์ กล่าวว่า จากการสอบถามทราบว่ารุ่นพี่เหล่านี้จะมีทั้งศิษย์ปัจจุบัน และศิษย์เก่าที่จบไปแล้วพารุ่นน้องออกไปทำกิจกรรม หรือเรียกว่าการเข้าระบบซึ่งเป็นระบบการสอนที่รุ่นพี่กำหนดขึ้นมาเอง โดยการพาผู้เสียหายพร้อมเพื่อนร่วมสาขา จำนวน 24 คน ที่สมัครใจเข้าระบบที่ว่าไปทำกิจกรรมเข้าระบบซึ่งมีอยู่ 2 แห่ง แห่งแรกบ้านพักที่อยู่ในสถาบัน อีกที่อยู่ซอยจรัญ 76 ที่รุ่นพี่เช่าไว้ ซึ่งในเรื่องนี้มีรุ่นน้องถูกกระทำหลายคน แต่ไม่กล้าทำอะไรเพราะกลัวความไม่ปลอดภัย

นายพิสาร เล่าว่า ลูกชายเพิ่งเข้าเรียนเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมาลูกชายไม่เคยบอกอะไรตนเกี่ยวกันการเรียน จนกระทั่งตนสังเกตเห็นบาดแผลตามตัวลูกชายจึงซักถามจนได้ความว่า หลังจากที่เข้าเรียนได้ 2 อาทิตย์ จะมีรุ่นพี่มาชักชวนให้เข้าร่วมกลุ่มในสาขาต่างๆ โดยมีการชี้แจงว่าหากจะเข้ามาต้องยอมรับกฏระเบียบ

ตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมาลูกชายและเพื่อนๆอีก 23 คน ถูกรุ่นพี่เรียกไปยังบ้านพักที่รุ่นพี่เช่าไว้ แล้วให้ยืนให้รุ่นพี่ 4-5 คนผลัดกันทำร้ายร่างกาย โดยการเตะ ต่อย บังคับใช้ไหล่เดิน หลดน้ำตาเทียนใส่ ล่าสุดใช้น้ำมันสนจุดไฟลน พร้อมกับพร่ำสอนแนวคิด ซึ่งลูกชายบอกว่า ต้องทำกิจกรรมเป็นการท่องจำเพื่อให้ได้มาซึ่งของ 8 อย่าง แต่ลูกชายไม่ยอมบอกว่าเป็นอะไร บอกแต่เพียงว่าไม่ใช่สิ่งของ และถ้าทำไม่ได้ ทำไม่ผ่านก็จะถูกลงโทษ

ล่าสุดลูกชายทนไม่ได้และไม่ยอมไปเรียนมานาน 4-5 วันแล้ว และก่อนหน้านี้ยังมีเพื่อนนักเรียนคนอื่นรวมอีก 18 คน ต้องออกจากโรงเรียนเพราะกลัวรุ่นพี่ทำร้าย เหลือเพียง 5 คนเท่านั้นที่ยังทนรับการถูกทำร้ายได้อยู่ ตลอดระยะเวลา 2 เดือนทุกคนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ทุกคนไม่กล้าพูด

นายพิสาร เล่าต่อว่า ตนรับไม่ได้กับการกระทำของรุ่นพี่วันนี้จึงพาลูกชายออกมาเรียกร้องหาหน่ายงานมารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น เนื่องจากลูกชายไม่กล้ากลับไปเรียนเพราะกลัวรุ่นพี่มาทำร้าย อยากหาที่เรียนให้ลูกใหม่ และเพื่อไม่ให้รุ่นพี่พวกนี้ไปไปทำร้ายรุ่นน้องคนอื่นๆ ซึ่งตนเองเรียกว่ากิจกรรมล้างสมอง โชคดีที่ลูกชายออกมาได้