รัฐบาลสหรัฐฟ้องขัดขวางดีลควบรวมกิจการซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

ต้นสัปดาห์มานี้มีข่าวใหญ่ในแวดวงธุรกิจค้าปลีกเมื่อ คณะกรรมาธิการการค้าของสหรัฐอเมริกา (Federal Trade Commission – FTC) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลกลาง ยื่นฟ้องเพื่อคัดค้านดีลควบรวมกิจการมูลค่า 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (8 แสนกว่าล้านบาท) ของสองซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ในสหรัฐ Kroger และ Albertsons ซึ่งถือเป็นการควบรวมกิจการซูเปอร์มาร์เก็ตครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา

สำหรับดีลควบรวมกิจการนี้ถูกประกาศมาตั้งแต่ปี 2565 เป็นการพยายามจะรวมธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่อันดับที่ 5 และ 10 ในประเทศเข้าด้วยกัน

โดย FTC มีความกังวลว่าอาจจะส่งผลให้ราคาสินค้าสูงขึ้น นำมาสู่การปิดร้านสาขา และมีคนตกงาน

ในแถลงการณ์ของ FTC กล่าวว่า การควบรวมกิจการจะทำให้การแข่งขันในอุตสาหกรรมซูเปอร์มาร์เก็ตลดการแข่งขันลงและยังอาจผลักดันให้ต้นทุนสินค้าวัตถุดิบอาหารสูงขึ้นอีก

ขณะที่สองซูเปอร์มาร์เก็ตทั้ง Kroger และ Albertsons ซึ่งมีแรงงานจากสหภาพแรงงานทำงานเป็นส่วนใหญ่ กล่าวว่า ต้องการรวมกิจการเพื่อให้สามารถแข่งขันกับบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ไม่ได้มีสหภาพแรงงาน เช่น Walmart, Amazon และ Costco ได้มากขึ้น นอกจากนี้ธุรกิจนี้ยังเผชิญแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจาก Aldi เป็นเครือข่ายซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่จากเยอรมนีที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

“การควบรวมกิจการจะช่วยเร่งตำแหน่งของเราในฐานะทางเลือกที่น่าสนใจมากขึ้นสำหรับคู่แข่งรายใหญ่และที่ไม่ใช่สหภาพ” ซีอีโอของ Kroger กล่าวไว้เมื่อตอนมีการประกาศดีลควบรวม

โดยทั้งสองบริษัทมีพนักงานรวมกัน 710,000 คน มีร้านค้าเกือบ 5,000 แห่ง และมียอดขายมากกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ บริษัทระบุว่าการควบรวมกิจการจะทำให้ต้นทุนถูกลงและมีผลต่อราคาสินค้าที่ลดลง รวมทั้งทั้งสองบริษัทจะมีการปรับโปรโมชั่นเพื่อให้ลูกค้าประหยัดเงินได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม FTC ไม่เชื่อในประเด็นนี้

“การควบรวมกิจการครั้งใหญ่ในธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ผู้บริโภคชาวอเมริกันเห็นว่าราคาของชำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การเข้าซื้อ Albertsons ของ Kroger จะส่งผลให้ราคาสินค้าในร้านขายของชำเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าในชีวิตประจำวัน” FTC ระบุ

ก่อนหน้านี้เพื่อเลี่ยงข้อกล่าวหาผูกขาดโดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีร้านสาขาของ Kroger และ Albertsons ทับซ้อนกัน ทั้งสองบริษัทจึงตกลงที่จะขายร้านค้าประมาณ 400 แห่งให้กับค้าปลีกเจ้าอื่น

อย่างไรก็ตาม ‘ลีน่า ข่าน’ ประธาน FTC ที่รับรู้กันดีว่ามีบทบาทเป็นนักเคลื่อนไหวต่อต้านการผูกขาดของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ อย่าง Amazon, Facebook, Google, Apple และยังเป็นอดีตอาจารย์ด้านกฎหมายของมหาวิทยาลัยโคลัมเบียที่สนใจเรื่องการต่อต้านการผูกขาด มองว่า ข้อเสนอการขายกิจการบางส่วนออกไปเพื่อเลี่ยงการผูกขาดนั้นไม่น่าเชื่อว่าจะช่วยให้เกิดการส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันได้

ตอนนี้นอกจาก FTC แล้วยังมีกลุ่มที่คัดค้านดีลควบรวมครั้งใหญ่นี้ด้วย อาทิ สหภาพแรงงานร้านขายปลีกรายย่อย ส.ส.จากพรรคเดโมแครต และรีพลับลิกันบางคน

โฆษกของ Kroger กล่าวในแถลงการณ์ว่าความเคลื่อนไหวของ FTC จะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคและแรงงานของอเมริกา

“การฟ้องร้องดีลนี้ของ FTC เพียงเพราะต้องการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่ไม่ใช่สหภาพแรงงาน เช่น Walmart, Costco และ Amazon โดยอนุญาตให้พวกเขาเพิ่มการครอบงำอุตสาหกรรมซูเปอร์มาร์เก็ตอย่างมากมายและยังปล่อยให้เติบโตต่อไป” แถลงการณ์ระบุและบอกด้วยว่า Kroger จะอุทธรณ์คำตัดสินของ FTC