SHARE

คัดลอกแล้ว

กกต. หอบเอกสารหลักฐานยื่นศาล รธน.วินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ปมกู้เงินธนาธร 191.2 ล้านแล้ว ลุ้นวันที่ 18 ธ.ค. 62 สำนวนคำร้องเข้าที่ประชุมตุลาการฯ หรือไม่

วันที่ 13 ธ.ค.2562 สำนักข่าวอิศรารายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น. ร.อ.มนูญ วิเชียรนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการสืบสวนสอบสวน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมพล พรผล ผอ.สำนักกิจการพรรคการเมือง สำนักงาน กกต. พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงาน กกต. นำสำนวนคำร้องของคณะกรรมการ กกต. กรณีขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีพรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 191.2 ล้านบาท ฝ่าฝืนมาตรา 72 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 หรือไม่ และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่ ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3) ประกอบมาตรา 93 แห่ง พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ

เบื้องต้น ฝ่ายรับเรื่องร้องเรียนศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบคำร้องพร้อมพยานหลักฐานที่ กกต. นำส่ง รวมถึงการลงชื่อรับรอง โดยใช้ระยะเวลาไม่นานในการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่สำนักงาน กกต. เดินทางกลับทันที และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน นอกจากนี้มีรายงานว่าในวันที่ 18 ธ.ค. 2562 จะมีการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญซึ่งต้องรอดูว่าสำนวนคำร้องนี้จะเข้าสู่ที่ประชุมด้วยหรือไม่

Workpoint News ได้ทำการสรุปไทม์ไลน์ของเหตุการณ์อนาคตใหม่ กู้เงิน ธนาธร ให้เข้าใจง่ายภายใน 13 ข้อ

1) ในการเลือกตั้งทั่วไป วันที่ 24 มีนาคม 2562 พรรคอนาคตใหม่ เป็นพรรคที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุดอันดับ 3 ของประเทศไทย กวาดส.ส.จากทั้งบัญชีรายชื่อ และ แบบแบ่งเขต ไปรวมถึง 81 คน มีประชาชนเลือกพรรคอนาคตใหม่ทั้งสิ้น 6,330,617 เสียงทั่วประเทศ

2) ตามปกติการเลือกตั้งแต่ละครั้ง แต่ละพรรคจำเป็นต้องใช้เงินทุนมหาศาล เนื่องจากในการหาเสียง ต้องใช้งบประมาณในการประชาสัมพันธ์ และลงพื้นที่ โดยแต่ละพรรคก็มีวิธีในการหาทุนที่แตกต่างกันออกไป

ตัวอย่างเช่นพรรคพลังประชารัฐ ใช้การจัดโต๊ะจีน ราคาโต๊ะละ 3 ล้านบาท ได้เงินทุนไปทั้งสิ้น 352 ล้านบาท

3) สำหรับพรรคอนาคตใหม่ มีการเปิดเผยจาก พรรณิการ์ วานิช โฆษกของพรรคในวันที่ 19 มีนาคม และ ตัวธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ในวันที่ 5 เมษายน และ 15 พฤษภาคม ว่าเรื่องการกู้ยืมเงินจากตัวธนาธรเอง เป็นเรื่องจริง โดยธนาธรขึ้นบรรยาย ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย โดยระบุว่า

“ผมให้เงินพรรคยืมอยู่ 110 ล้านบาท ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งรอบนี้ พรรคไม่สามารถระดมทุนได้ทันเวลา สำหรับการหาเสียง โดยพรรคอนาคตใหม่เพิ่งมีตัวตนทางกฎหมาย วันที่ 3 ตุลาคม 2561 ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เราจะสามารถระดมเงินได้ทันการเลือกตั้ง แต่เราก็ไม่ต้องการทำเหมือนพรรคอื่น เราต้องการความโปร่งใส ดังนั้นผมจึงไม่ได้ให้เงินพรรค แล้วบอกว่า ‘ให้พรรคใช้เงินก้อนนี้โดยไม่ต้องแจ้ง กกต.’ แต่ผมต้องการจะเปิดเผยแบบตรงไปตรงมา เราจึงแจ้งเรื่องเงินก้อนนี้ รวมถึงวิธีการใช้เงินของเรา

นอกจากนี้ ธนาธรเคยให้สัมภาษณ์กับ Workpoint News เปิดเผยในประเด็นนี้อีกด้วยว่า “ผมปล่อยกู้ เก็บดอกเบี้ยเรตตลาดนะครับ คุณไปตรวจสอบได้”

4) เมื่อมีการเปิดเผยออกมาว่า ตัวธนาธร เอาเงินของตัวเองให้พรรคของตัวเองเป็นคนกู้ ทำให้นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ยื่นหนังสือถึง กกต. ในวันที่ 23 กันยายน ให้ตรวจสอบสัญญากู้ยืมเงิน ระหว่างธนาธร กับ พรรคอนาคตใหม่ ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

5) นายศรีสุวรรณ อ้างอิงจาก พ.ร.ป. (พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ) มาตรา 62 ที่ระบุว่า พรรคการเมือง สามารถหารายได้ ด้วย 7 วิธี โดยใน 7 วิธีนั้น ไม่มีข้อไหนที่อนุญาตให้หาเงินจากการ “กู้ยืมเงิน” ดังนั้น จึงแจ้ง กกต. ว่าการกู้ยืมจากหัวหน้าพรรค ในลักษณะนี้ น่าจะเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง

6) ในขณะเดียวกัน ทางป.ป.ช. หรือคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้สรุปตัวเลขบัญชีทรัพย์สินที่ ธนาธร ให้พรรคอนาคตใหม่กู้เงิน สรุปแล้ว มีการกู้ 2 ครั้ง คือ 161.2 ล้านบาท และ 30 ล้านบาท รวมสองครั้งเป็นตัวเลข 191.2 ล้านบาท

7) หลังนายศรีสุวรรณ ส่งเรื่องให้กกต. ทางกกต.ใช้เวลาพิจารณาทั้งสิ้น 89 วัน จึงมีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ทันที โดยระบุเหตุผลว่า พรรคอนาคตใหม่ ฝ่าฝืนมาตรา 72 จึงมีมติด้วยคะแนนเสียงข้างมาก 5 ต่อ 2 เสียง ให้ยื่นเรื่องยุบพรรคอนาคตใหม่

โดยรายละเอียดของมาตรา 72 ระบุว่า “ห้ามพรรคการเมือง และผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง รับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่า มีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย”

8 ) อย่างไรก็ตาม นายปิยบุตร กนกแสงสกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ได้ออกมาโต้แย้งว่า พรรคอนาคตใหม่ตั้งพรรคเดือน ตุลาคม 2561 และ ณ เวลานั้น คสช.ยังไม่ปลดล็อกห้ามทำกิจกรรมการเมือง ขณะที่เหลืออีก 5 เดือนจะเลือกตั้งใหญ่แล้ว ทำให้พรรคไม่สามารถระดมทุนจากการบริจาคได้

แต่ทางพรรคได้ศึกษากฎหมายเป็นอย่างดีแล้ว ไม่มีข้อใดที่ห้ามพรรคการเมืองกู้เงิน เพราะพรรคการเมืองเป็นนิติบุคคลเอกชน มีเสรีภาพที่จะสามารถทำได้ ซึ่งเมื่อนายธนาธรให้พรรคกู้ยืมเงิน เมื่อสามารถเปิดระดมทุนได้ พรรคก็จะทยอยใช้คืน

9) หลังจากกกต. ฟันธง ว่าพรรคอนาคตใหม่ผิดมาตรา 72 ขั้นตอน ณ เวลานี้ คือส่งให้เรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค

ถ้าหากศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยแล้ว มีคำตัดสินว่า “ไม่ผิด” เหตุการณ์ก็จะสิ้นสุดลงไป พรรคอนาคตใหม่ก็จะยังทำงานได้ตามปกติเช่นเดิม

10) แต่ถ้าหากศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยแล้ว มีคำตัดสินว่า “ผิด” จะก่อให้เกิดเหตุการณ์ 4 เรื่องสำคัญคือ

1- ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ให้กู้ ต้องจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี

2- พรรคอนาคตใหม่ โดนปรับไม่เกิน 1 แสนบาท และริบเงินกู้ 181 ล้านบาทของพรรค เข้าสู่กองทุนพรรคการเมือง ซึ่งเป็นของ กกต. เนื่องจากในมาตรา 66 ระบุว่า บุคคลใดจะบริจาคเงิน หรือทรัพย์สินให้พรรคการเมืองเกิน 10 ล้านบาทไม่ได้ ดังนั้น จำนวนตัวเลขที่ธนาธร ให้กู้เงิน 191 ล้านบาท จึงมอบได้อย่างถูกต้อง 10 ล้าน ส่วนอีก 181 ล้านต้องส่งให้กกต.

3- กรรมการบริหารพรรค 15 คน จะถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งในอนาคต

4- ส.ส.ทั้งพรรค ต้องหาพรรคใหม่ใน 60 วัน หากใครหาไม่ได้ จะสิ้นสภาพ ส.ส.

11) หลังจากที่ กกต. ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญฟันความผิด นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แสดงความไม่เห็นด้วยกับกกต. โดยตั้งคำถาม 3 ข้อคือ

1- กกต. เร่งรัดคดีอย่างผิดสังเกตหรือไม่ โดยไม่มีการเรียกพรรคไปสอบสวนใดๆทั้งสิ้น

2- กกต. พยายามชี้นำทางสื่อ มีการปล่อยเอกสารหลุดออกมา เพื่อพยายามทำให้สังคมเชื่อว่าพรรคอนาคตใหม่ผิดจริง

3- กกต. บอกว่า พรรคทำผิดตามมาตรา 72 คือรับเงินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย คำถามคือเงินกู้จากนายธนาธรหัวหน้าพรรค ไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไร

โดยนายปิยบุตร เรียกร้องไปยังพี่น้องประชาชนว่า อย่ายอมให้การยุบพรรคเป็นเรื่องปกติ อย่ายอมให้การใช้กฎหมายเล่นงานกันแบบนี้ กลายเป็นเรื่องปกติในสังคม

12) อย่างไรก็ตาม นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. ระบุว่า กกต.ได้มีมติส่งศาลไปแล้ว จึงเป็นเรื่องของศาลที่จะพิจารณา ตนเองไม่สามารถให้ความเห็น หรือให้คำอธิบายใดๆได้ แก่พรรคอนาคตใหม่

13) สำหรับ ณ เวลานี้ อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาคดี ของศาลรัฐธรรมนูญ โดยทางกกต.คาดว่า น่าจะใช้เวลาไม่นานนัก ในการสรุปว่าผิดจริงหรือไม่

 

ล่าสุด กกต. ออกเอกสารชี้แจงระยะเวลาพิจารณาคดี “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงิน รายละเอียดดังนี้

วันที่ 15 ธ.ค. คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชี้แจงเรื่องระยะเวลาในการพิจารณากู้ยืมเงินของพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า ตามที่ปรากฏข่าวทางสื่อ Workpoint News ว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เอาเงินของตัวเองให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงิน และนายศรีสุวรรณ จรรยา ได้ยื่นหนังสือต่อ กกต. เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2562 ขอให้ตรวจสอบสัญญากู้ยืมเงินระหว่างนายธนาธร กับพรรคอนาคตใหม่ ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

ซึ่งภายหลังจากที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ส่งเรื่องให้กกต.ใช้เวลาในการพิจารณาทั้งสิ้น 89 วัน จึงมีมติส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ทันทีนั้น

สำนักงานกกต. ขอเรียนว่า การเสนอข่าวดังกล่าวข้างต้น คลาดเคลื่อนไม่ตรงกับความเป็นจริง เนื่องจาก นายศรีสุวรรณ จรรยา ได้ยื่นหนังสือต่อกกต. ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2562 ขอให้ตรวจสอบกรณี นายธนาธร ให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงิน

ส่วนเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2562 นายศรีสุวรรณ ได้มายื่นหนังสือต่อกกต. ขอส่งเอกสารพยานหลักฐาน(เพิ่มเติม) ภายหลังจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่เอกสารบัญชีรายการแสดงทรัพย์สินและหนี้สินของนายธนาธร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่

ดังนั้น นายศรีสุวรรณ จึงมิได้พึ่งมายื่นหนังสือต่อกกต. เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2562  และกกต.มิได้ใช้ระยะเวลาในการพิจารณาเรื่องดังกล่าว 89 วัน ตามที่ปรากฎเป็นข่าวแต่อย่างใด

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า