เจอเด็กหายเข้ามาเล่นเกมในระบบ เจรจาให้กลับบ้านสำเร็จ

จากกรณีมีการออกประกาศ เด็กชาย อายุ 11 ปี หายออกจากบ้าน ตั้งแต่ 27 ก.ย. โดยช่วงเช้าวันเกิดเหตุได้บอกคุณยายวัย 83 ปี ว่าจะไปโรงเรียนใน ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาตามปกติ

หลังหายตัวไปยายซึ่งดูแลหลานคนเดียว ออกตามหาหลานตลอดเวลาและได้ไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา แต่ก็ยังไม่สามารถพบตัวเด็กหรือติดต่อมีเบาะแสแต่อย่างไร

วันที่ 26 ต.ค. เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัว เด็กชาย อายุ 11 ปี กลับมาบ้านได้แล้ว หลังหายจากบ้านไปครบ 30 วัน โดยเด็กชาย เล่าว่า ได้รู้จักกับชายคนหนึ่ง ทราบชื่อ นายวันชาติ อายุประมาณ 48 ปี พบกันที่วัดท่าการ้อง ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา โดยเขาก็ถามว่า พ่อแม่อยู่หรือเปล่า ก็เลยบอกไปพ่อเสีย แม่อยู่กับสามีใหม่ จากนั้นก็นั่งมอเตอร์ไซค์ซ้อนท้ายชายคนดังกล่าวไปที่พัทยา

เด็กชาย เล่าด้วยว่า ตลอดเวลาที่ไปก็ไปนั่งเล่นเกมเฉยๆ ส่วนชายคนดังกล่าวก็ไปหาเงิน ตัวเองอยู่สบายโดยพักในโรงแรม ตอนแรกเห็นข่าวตามหาตนก็งง เพราะคิดว่าหน้าเด็กในข่าวไม่เหมือนตน แต่พอเห็นชื่อก็เลยรู้ว่าเป็นตนเอง พออีกวันก็เห็นข่าวเด็กหายอีกอีกเลยบอกให้นายวันชาติมาส่ง นายวันชาติก็ขับรถจักรยานยนต์ จากพัทยามาตั้งแต่เช้าเพิ่งมาถึงอยุธยาเมื่อเย็นที่ผ่านมา

ด้านแม่ของเด็กชายกล่าวสั้นๆ ว่าดีใจมากที่ลูกกลับมา ฝากขอบคุณมากๆ สำหรับทุกๆ คนที่ช่วยกันตามหา

ขณะที่นาย อิสรา กาญจนชุม อายุ 40 ปี เจ้าของร้านเกมส์ที่เด็กชายไปเล่นประจำและเป็นคนสำคัญที่สามารถติดตามตัวน้องจนพบ เล่าว่า ตั้งแต่น้องหายตนก็เข้าไปเล่นเกมทุกวัน เผื่อน้องจะเข้ามาเล่น จนเมื่อวันที่ 25 ต.ค. พบว่าน้องได้เข้ามาในระบบ จึงได้สอบถามจนแน่ใจว่าใช่ตัวจริง และได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเจอน้องแล้ว

ระหว่างที่เจอในเกมได้พูดคุยกันให้น้องกลับบ้าน โดยบอกว่าเขาตามหากันจากนั้นก็ส่งลิงก์ข่าวให้น้องดู พอ 3 ทุ่มเมื่อวานก็เงียบหายไป จนเมื่อเย็นสุนัขที่หน้าบ้านของตนเห่า จึงออกมาดูพบน้องเดินเข้ามาจะถึงหน้าประตูบ้าน รีบไปดูเห็นสภาพอิดโรย จึงหาน้ำหาขนมให้กินก่อนนำตัวมาส่งให้ที่บ้าน ส่วนตัวถามอะไรก็ไม่บอกได้แต่ร้องไห้สะอึกสะอื้น

ทั้งนี้ ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่พบว่านายวันชาติ ที่พาเด็กไปพัทยา เคยตกเป็นข่าวว่าลักพาตัวเด็กมาแล้วเมื่อปี 2559 อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบถามเด็ก อย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อเร่งติดตามชายคนดังกล่าวมาทำการสอบถามความจริงต่อไป