SHARE

คัดลอกแล้ว

จากกรณีเด็กชายเล่นเกมจนหัวร้อนคว้ามีดจะฟันแม่และอาม่า ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ได้ไปสัมภาษณ์ แม่เล่าว่าลูกเป็นโรคไฮเปอร์ แต่เป็นเด็กเรียนเก่ง ซึ่งเหตุการณ์หลังจากคลิปตัดก็ไม่มีอะไรรุนแรง

เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 62 ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ได้พูดคุย น้องเอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี​ เด็กชายที่เล่นเกมจนหัวร้อน โดยน้องเอได้เปิดเผยว่า เขาเป็นโรคไฮเปอร์มาแต่เด็ก เวลาปิดเทอมมักจะเล่นเกมวันละประมาณ 4-5 ชั่วโมง วึ่งจากเหตุการณ์ในคลิป​ตอนนั้นทำไปเพราะความรู้สึกโมโห​ พอช่วงหลังๆ ถึงได้เริ่มใส่อารมณ์ เพราะโกรธแม่ที่ปาหูฟังจนพัง​ ซึ่งตอนนี้รู้สึกได้รับบทเรียนค่อนข้างเยอะ​ จะพยายามเล่นเกมให้น้อยลง​ และตนได้ขอโทษแม่กับอาม่าไปแล้ว ซึ่งแม่และอาม่าก็ให้อภัย​ ปกติตนรักแม่มากนอนกอดกันทุกคืน​ จากนั้นน้องเอ (นามสมมติ) ได้นำผลการเรียน​เทอมที่แล้วมาให้ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ดู พร้อมเผยว่าตนเป็นเด็กที่เรียนพอใช้ได้ อย่างเทอมที่ผ่านมาก็เรียนได้เกรดเฉลี่ย 3.27

ด้านนางบี (นามสมมติ) ​แม่ของน้องเอ เปิดเผยว่าเคยพาน้องเอไปหาคุณหมอรักษาโรคไฮเปอร์ตั้งแต่ 4 ขวบ หมอบอกว่าสามารถเรียนรู้เรื่อง ส่วนอารมณ์ก้าวร้าว เชื่อว่าลูกน่าจะได้มาจากการเล่นเกมมากกว่า โดยก่อนหน้านี้เมื่อ 2 ปีก่อน ลูกชายเคยเล่นเกมแล้วเครียดถึงกับร้องไห้ เธอจึงบอกว่าให้หยุดเล่น แต่เมื่อช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาก็กลับมาเล่นอีก​ และเริ่มเห็นพฤติกรรมรุนแรงมากขึ้น​ สาเหตุน่าจะมาจากเขาถูกโกง​ของในเกม

ปกติแล้วน้องเอจะมีพฤติกรรม​ที่เมื่อมีความสนใจเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ก็จะไปให้ถึงที่สุด อย่างเช่นเรื่องการซ่อมคอมพิวเตอร์ และเรื่องเกมก็เช่นกัน เวลาไปเรียนคุณครู ก็มักจะมาพูดคุยกับตนว่าน้องเออยู่ในห้องเรียนจะเป็นเด็กที่ช่างถามทุกเรื่องจนเขาเข้าใจ​ โดยเฉพาะเรื่องความจำน้องเป็นคนที่ค่อนข้างจำแม่น WiFi ที่บ้าน password น้องใส่รหัส 20-30 ตัว น้องจำได้ หรือแม้แต่จำเลขบัตรประจำตัวประชาชนของเพื่อนๆ ได้เกือบทั้งห้อง​ ทั้งนี้หลายคนเป็นห่วงว่าหลังจากคลิปดังกล่าวแล้วจะมีเหตุการณ์อะไรต่อจากนั้น​ คุณแม่ยืนยันว่า​ ไม่ได้มีเหตุการณ์รุนแรง​ ประกอบกับมีรุ่นพี่ในเกม (มาลี​ สวยมาก)​ได้โทรศัพท์มาหาลูกชายและบอกให้ขอโทษตน ซึ่งน้องก็ได้มากราบขอโทษทันที ส่วนอาม่าของน้องเอยืนยันเช่นกันว่าเหตุการณ์วันนั้นหลังจากคลิปไม่ได้มีความรุนแรง​ ตนได้แย่งมีดจากหลาน​ และมีการพูดคุยดีๆ จน​หลานใจเย็นลง ซึ่งที่ผ่านมาทราบดีว่าหลานชายมักหัวร้อนบ้างแต่ไม่เคยรุนแรงเหมือนครั้งนี้

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า