SHARE

คัดลอกแล้ว

ประชากร Gen Z กำลังขยายตัวกลายเป็นประชากรวัยผู้ใหญ่ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างรวดเร็ว และคาดกันว่าจะมีจำนวนแตะ 165 ล้านคน หรือคิดเป็น 30% ของประชากรทั้งหมดภายในปี พ.ศ. 2573

ด้วยเหตุนี้จึงมีความสำคัญอย่างมากสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ ผู้จำหน่าย และตัวแทนจำหน่ายที่ต้องทำความเข้าใจความชอบและรสนิยมที่มีความเฉพาะตัวของผู้ซื้อในช่วงวัยนี้ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่ตรงกับความต้องการของผู้ซื้อกลุ่มใหม่นี้ให้มากที่สุด

โจนาธาน วาร์กัส รุยซ์ง ผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรมคมนาคม จากเอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในเดือนเมษายนปี พ.ศ. 2566 เอบีม คอนซัลติ้ง ได้ทำการสำรวจ โดยมีผู้ตอบแบบสำรวจจำนวน 2,200 คนในประเทศอินโดนีเซียและไทย ซึ่งเป็นสองประเทศที่มีตลาดรถยนต์ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ผลการสำรวจพบว่า แม้กลุ่ม Gen Z จะมีความคล้ายคลึงกับผู้บริโภคในเจเนอเรชันอื่น แต่ก็ยังมีความแตกต่างที่เห็นได้ชัดหลายประการ ดังนั้น จึงสามารถคาดการณ์ได้ว่าการจำหน่ายรถยนต์ในอนาคตจะต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อเอาใจกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ที่มีอายุน้อยลงนี้

แต่เรามองว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะเป็นวิวัฒนาการตามกาลเวลาและสถานการณ์ มากกว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงปฏิรูป เพราะผู้ซื้อ Gen Z ยังมีความพึงพอใจกับประสบการณ์การซื้อรถยนต์ที่ผ่านมาของตัวเอง

Generation Z หรือที่นิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า Gen Z คือประชากรที่ในตอนนี้มีอายุระหว่าง 14-26 ปี และเติบโตท่ามกลางยุคที่มีการใช้อินเทอร์เน็ต รวมทั้งโซเชียลมีเดียและสมาร์ทโฟนอย่างแพร่หลาย

โดยกลุ่ม Gen Z กำลังเติบโตและไปแทนที่สัดส่วนของจำนวนประชากรผู้ใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างรวดเร็ว และคาดว่าจะมีจำนวนถึง 30% ของประชากรทั้งหมดในภูมิภาคภายในปี พ.ศ. 2573 และเป็นกลุ่มที่มีแนวความคิดและมีค่านิยมที่แตกต่างจากคนรุ่นก่อน ๆ อย่างมาก

โดยเฉพาะถ้าเทียบกับคนในกลุ่ม Gen X (อายุระหว่าง 43-58 ปี ในตอนนี้) ที่มองว่าการครอบครองรถยนต์แสดงถึงสถานะทางสังคมมากถึง 45%

ในขณะที่กลุ่ม Gen Z ในประเทศไทยเพียง 31% เท่านั้นที่มีค่านิยมแบบนี้ และมองว่ารถยนต์เป็นปัจจัยที่มีไว้เพื่อมอบความสะดวกสบายให้กับตนเองและครอบครัวมากกว่าจะเอาไว้ใช้แสดงความร่ำรวย

มากไปกว่านั้น ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมก็มีความสำคัญอย่างมากต่อการตัดสินใจซื้อรถของกลุ่ม Gen Z

จากผลสำรวจราคารถยนต์ยังเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเป็นอันดับหนึ่ง โดย 57% ของผู้ตอบแบบสำรวจมองว่าราคาเป็นปัจจัยที่สำคัญ

ขณะที่ปัจจัยด้านความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมีความสำคัญเป็นอันดับสองเทียบเท่ากับความสามารถของรถยนต์ด้านการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง โดยอยู่ที่ 24% ของจำนวนผู้ตอบแบบสอบถาม ซึ่งแตกต่างจากผู้ซื้อในกลุ่มเจเนอเรชันอื่นที่ให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมเป็นอันดับที่เก้า

มากไปกว่านั้น 68% ของ Gen Z ที่ตอบแบบสอบถามยังแสดงความสนใจต่อยานยนต์พลังงานไฟฟ้ามากขึ้นอย่างมากเพราะเหตุผลด้านราคาน้ำมัน และอีก 43% ยังคำนึงถึงความต้องการที่จะลดผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ยังพบว่า 30% ของผู้ตอบแบบสอบถามมองเรื่องของเงินสนับสนุนจากภาครัฐก็มีส่วนในการตัดสินใจอย่างมากด้วย

ที่น่าประหลาดใจก็คือ แม้ Gen Z จะเป็นกลุ่มคนที่คุ้นเคยและเชี่ยวชาญการใช้งานช่องทางดิจิทัล ผู้ซื้อในกลุ่ม Gen Z จำนวนไม่น้อยที่มีมากถึง 78% ยังชอบการซื้อรถด้วยวิธีการออฟไลน์มากกว่า

ดังนั้นในอนาคต ตัวแทนจำหน่ายจึงยังคงมีบทบาทสำคัญในการซื้อขายรถยนต์อยู่ แต่ก็ควรที่จะพัฒนาวิธีการขายให้ครอบคลุมมากขึ้น เช่น การเน้นประสบการณ์ขายแบบผสมผสานทุกช่องทางการตลาด, การใช้วิธีการสื่อสารทางการตลาดที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล และเพิ่มการมีส่วนร่วมกับลูกค้าให้มากขึ้น

โจนาธาน วาร์กัส รุยซ์ ยังให้ข้อเสนอแนะที่อ้างอิงจากการศึกษาครั้งนี้เพิ่มเติมว่า “การเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่เพิ่มมากขึ้นแสดงให้เห็นว่าผู้ซื้อที่รวมถึงกลุ่ม Gen Z ยังให้ความสำคัญกับการมีส่วนเกี่ยวข้องของตัวแทนจำหน่ายรถยนต์

แต่บทบาทของตัวแทนจำหน่ายต้องได้รับการปรับเปลี่ยนไป เนื่องจากผู้เล่นในตลาดธุรกิจให้บริการยานพาหนะร่วมกันอย่างบริการเรียกรถสาธารณะหรือบริษัทรถเช่า จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้น

แนวโน้มความเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ต้องปรับตัว และนำมุมมองรอบด้านของลูกค้าแบบ 360° และประสบการณ์แบบการผสานทุกช่องทางการตลาดที่รวมทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน (Omnichannel) มาใช้เพื่อสร้างกลยุทธ์ด้านการตลาด

ผู้ค้าปลีกบุคคลที่สามจะยังคงมีบทบาทสำคัญอยู่ในกระบวนการขาย แม้ว่าการมีส่วนร่วมกับลูกค้าที่เพิ่มขึ้นของบริษัทผู้รับจ้างผลิตสินค้าหรือ OEMs อาจทำให้ตัวกลางในการขายมีความสำคัญน้อยลงก็ตาม

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า