จากผลการศึกษาการวางแผนและความก้าวหน้าปี 2566 โดย Northwestern Mutual พบว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะลงทุน รวมถึงเริ่มต้นการออมเพื่อการเกษียณในอัตราที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
เกือบ 1 ใน 3 หรือประมาณ 65% ของผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า ผู้หญิง Gen Z มีความมั่นใจว่าพวกเขาจะเตรียมพร้อมทางการเงินสำหรับการเกษียณอายุเมื่อถึงเวลา ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับ 54% ของ Gen Y และ 45% ของ Gen X และ 52% ของ Baby Boomer
ผู้หญิง Gen Z หรือผู้หญิงที่กำลังมีอายุระหว่าง 10-21 ปี กลุ่มนี้มีความมั่นใจเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับผู้หญิงรุ่นอื่นๆ
จากการศึกษาระบุว่า เกือบ 6 ใน 10 หรือ 59% ของผู้หญิงในกลุ่มอายุนี้เชื่อว่าพวกเขาจะมีความมั่นคงทางการเงิน และเตรียมพร้อมทางการเงินไว้สำหรับการเกษียณอายุ เทียบกับ Gen Y ที่ 43% Gen X 38% และ Baby Boomer ที่ 48%
[ Gen Z ออมเงินเร็วกว่าคนยุคอื่น ]
ที่สำคัญคน Gen Z มีการเริ่มต้นการออมเงินเพื่อการเกษียณตั้งแต่อายุยังน้อยเมื่อเทียบกับคนรุ่นอื่นๆ อายุเฉลี่ยที่จะเริ่มออมเงินเพื่อการเกษียณอายุคือ 19 ปี เทียบกับคนรุ่น Gen Y ที่ 25 ปี Gen X ที่ 30 ปี และ Baby Boomer ที่อายุ 35 ปี
นอกจากนี้ ผลสำรวจพบว่าผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะมีอายุยืนมากขึ้น ดังนั้น การเริ่มต้นวางแผนสำหรับเกษียณของสาวๆ จะเป็นเรื่องที่สำคัญมากขึ้น
โดยผู้หญิง Gen Z ประมาณ 39% และผู้หญิง Gen Y ประมาณ 32% เชื่อว่าพวกเขาจะมีอายุยืนถึง 100 ปีตามรายงาน เปรียบเทียบกับ 23% ของ Gen X และ 20% ของ Baby Boomer
จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา อายุขัยเฉลี่ยของผู้หญิงในอเมริกาคือ 79 ปี ขณะที่สำนักงานสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐอเมริกาคาดการณ์ว่า อัตราอายุขัยของผู้หญิงจะเกิน 87 ปีภายในปี 2563 สะท้อนว่าผู้หญิงจะมีอายุยืนมากขึ้น
ดังนั้น การเริ่มต้นวางแผนสำหรับการเกษียณอายุและการลงทุนตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้นักลงทุนอายุน้อยก้าวไปข้างหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงความกลัวที่คนสูงวัยจะต้องพบเจอ
Veronica Fuentes กรรมการผู้จัดการของ Northwestern Mutual ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ได้แนะนำสองขั้นตอนง่ายๆ ในการเริ่มต้นออมเงินเตรียมพร้อมสำหรับวัยเกษียณ ดังนี้
1. ทบทวนแผนการออมเพื่อการเกษียณเป็นประจำ
ตามหลักการแล้วควรทบทวนแผนทุกปีหรือประมาณนั้น ซึ่งช่วยให้แน่ใจได้ว่ามาถูกทางตามเป้าหมาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีความหวังว่าจะเกษียณอายุก่อนกำหนด การทำเเบบนี้จะทำให้มีโอกาสที่จะปรับเปลี่ยนแผนได้ทันหากเป้าหมายหรือลำดับเวลามีการเปลี่ยนแปลง
2. เพิ่มเงินสมทบเพื่อการเกษียณอายุในทุกๆ ปี
ที่ปรึกษาส่วนใหญ่แนะนำให้เก็บเงิน 15% ของค่าใช้จ่ายรายปีไว้สำหรับการเกษียณอายุ นั่นอาจดูเหมือนเป็นมูลค่าที่สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนงานที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานใหม่ๆ
แต่หากยังไม่สามารถทำได้ในทันที ให้ตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนการออมเงินขึ้นเป็นประจำในทุกๆ ปี หรือมีการตั้งเป้าหมายการออมใหม่ทุกปี
แม้จะเป็นแค่การปรับเล็กน้อยเพียง 1% ต่อปีอาจดูไม่มากมาย แต่การเก็บออมตลอดทั้งปีในช่วง 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี จะสร้างความแตกต่างอย่างมากและสร้างความพร้อมสำหรับช่วงสูงวัยได้แน่นอน
ที่มาข้อมูล : cnbc , latest1news