Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

เร็วๆ นี้ GET แอปพลิเคชันออนดีมานด์ที่เป็นมากกว่าแอปฯ สั่งอาหาร แต่มีบริการที่ครอบจักรวาลไปถึงเรียกรถมอเตอร์ไซค์รับ-ส่งของ ต่อยอดสู่ธุรกิจเพย์เมนต์เข้ามาให้บริการแก่ผู้ใช้งานในประเทศไทย จะรีแบรนด์ไปใช้ชื่อ Gojek อย่างเป็นทางการ

แม้ Gojek จะไม่ใช่ผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาด และชื่อนี้ก็อาจไม่ค่อยคุ้นหูคนไทยสักเท่าไหร่ แต่ความจริงแล้ว GET กับ Gojek ไม่ใช่คนอื่นไกล เพราะ ถึง GET จะเป็นสตาร์ทอัพไทยที่ถือกำเนิดเมื่อปี 2561 แต่ก็ได้รับการสนับสนุนเงินลงทุน – เทคโนโลยี – องค์ความรู้จาก Gojek สตาร์ทอัพดาวรุ่งของอินโดนีเซียเหมือนกัน เพียงแต่ใช้ทีมผู้บริหารคนไทยทั้งหมด เพราะมองว่า ไม่มีใครเข้าใจความต้องการของคนไทยได้ดีไปกว่าคนไทยด้วยกันเอง ซึ่งวิสัยทัศน์นี้ก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่ผิด เพราะท่ามกลางการแข่งขันในตลาดแอปฯออนดีมานด์ที่ดุเดือด แต่ GET ก็แจ้งเกิดในฐานะแอปฯ ใหม่ได้อย่างเต็มภาคภูมิ จนถึงเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา GET ได้ให้บริการไปแล้วกว่า 20 ล้านออเดอร์ และได้มอบโอกาสในการสร้างรายได้ให้คนไทยจำนวนนับแสนราย

คำถาม คือ แล้วทำไม GET ต้องรีแบรนด์เป็น Gojek ?

ก่อนจะไปหาคำตอบดังกล่าว ต้องไปทำความรู้จัก Gojek ก่อนว่ามีที่มาอย่างไร ถึงกลายเป็นดาวเด่น

Gojek ก่อตั้งขึ้นในพ.ศ. 2553 เพื่อแก้ปัญหาการจราจรที่แออัดในกรุงจาการ์ต้าของอินโดนีเซีย โดยรูปแบบที่เปิดให้บริการครั้งแรก คือ ให้ผู้ใช้บริการโทรเข้ามาที่ Call Center แล้วทาง Gojek จะส่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปรับและส่งถึงที่หมาย โดยในยุคบุกเบิกนั้น Gojek มีคนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างในสังกัดไว้คอยให้บริการเพียง 20 คันเท่านั้น จากรูปแบบการให้บริการนี้เองจึงกลายเป็นที่มาของชื่อ Gojek ซึ่งมาจากคำว่า Go (ในภาษาอังกฤษหมายถึงไป) + Ojek (ในภาษาอินโดนีเซียหมายถึงมอเตอร์ไซค์รับจ้าง)

อย่างไรก็ตาม ด้วยรูปแบบธุรกิจที่ตอบโจทย์ Pain Point ลูกค้าเข้าอย่างจัง ทำให้ธุรกิจค่อยๆ ขยับขยาย จนในปี 2558 ได้เริ่มเปิดตัวแอปฯ Gojek ที่อัพเลเวลเป็นมากกว่าบริการเรียกรถด้วยมอเตอร์ไซค์ (GoRide) แต่มาพร้อมบริการรับส่งพัสดุ (GoSend) และบริการซื้อสินค้า (GoMart) จากนั้นจึงค่อยๆ พัฒนาเป็น “ซูเปอร์แอป” แพลตฟอร์มแบบวันสต็อปที่รวมบริการกว่า 20 ประเภท เชื่อมโยงคนขับพาร์ตเนอร์ที่ลงทะเบียนแล้วกว่า 2 ล้านคน ร้านค้าพาร์ตเนอร์ 500,000 แห่ง และมียอดดาวน์โหลดรวมแล้วกว่า 170 ล้านครั้ง ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

มาถึงการรีแบรนด์ครั้งนี้ เมื่อเล็งเห็นแล้วว่าประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งในประเทศที่มีศักยภาพมากในภูมิภาค Gojek จึงเดิมเกมรุกครั้งใหม่ ด้วยการนำเทคโนโลยี และโนวฮาวที่มีพร้อมมาลงสนามเอง เพราะ Gojek ก็มีเป้าหมายว่านอกจากจะยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนนับล้านในอินโดนีเซีย ยังมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีต่อยอดไปสร้างประโยชน์ในประเทศอื่นๆ ด้วย

ดังนั้น ถ้ามองข้ามช็อต สิ่งที่น่าจับตามมองคือโซลูชั่นใหม่ๆ ที่จะมาอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตของคนไทย ไม่เฉพาะในฝั่งลูกค้า แต่รวมถึงพาร์ตเนอร์และพันธมิตรร้านค้า ซึ่งเชื่อว่า Gojek ไม่มีทางมองข้ามดาต้าอันทรงพลังที่ทีม GET สร้างไว้ พร้อมต่อยอดให้ดียิ่งขึ้น

 

คนขับ-ร้านค้ามั่นใจ “ก้าวไปด้วยกัน”

แน่นอนว่าในฐานะลูกค้า ย่อมจับตามองการรีแบรนด์ครั้งนี้ว่าจะมีโปรโมชั่นหรือสิทธิประโยชน์อะไรมายั่วใจ เช่นเดียวกับฝั่งพาร์ตเนอร์อย่างคนขับ ตลอดจนร้านค้าต่างตื่นเต้นไม่น้อยกับการรีแบรนด์ครั้งนี้ ซึ่งน่าจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

นายปัทม์ พงษ์วิทยาพิพัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ยินดีอย่างมากที่ได้ทราบข่าวการรีแบรนด์ครั้งนี้ เพราะเชื่อมั่นทั้ง GET และ Gojek อยู่แล้วจากการเป็นพาร์ตเนอร์ที่ผ่านมา

นายปัทม์ พงษ์วิทยาพิพัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด

“การเข้ามาทำตลาดในนาม Gojek น่าจะช่วยตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างมาก ทั้งความเชี่ยวชาญชั้นนำระดับโลกทางด้านเทคโนโลยี ดาต้า เงินลงทุน เพราะแอปฯ Gojek มีบริการที่หลากหลายมากในอินโดนีเซียตั้งแต่การเดินทาง ดิจิตัลเพย์เมนต์ ส่งอาหาร โลจิสติกส์ และบริการแบบออนดีมานด์อีกมากมาย ผมเชื่อว่าต่อไปคนไทยคงจะได้สัมผัสประสบการณ์จากบริการใหม่ๆ จากแอปฯ Gojek อย่างแน่นอน ที่สำคัญการรีแบรนด์ครั้งนี้น่าจะเข้ามาช่วยขยายธุรกิจในกลุ่มฟู้ดของเราให้เติบโตได้ดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับกระแสฟู้ดเดลิเวอรี่ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องตอนนี้”

ด้าน นายวระพงศ์ สีมุน คนขับ GET อายุ 41 ปี กล่าวว่า เดิมขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง แต่พอมีเจ้าหน้าที่ของทาง GET มาชวน ด้วยข้อเสนอว่าแค่มีป้ายเหลืองก็มาขี่ได้ ทำให้ประทับใจและตัดสินใจมาเป็นคนขับ GET และยึดเป็นอาชีพหลักมาปีกว่า หลังจากขี่ GET ทำให้มีรายได้มากขึ้น ชีวิตดีขึ้น สามารถปลดหนี้ แถมยังมีเงินก้อน มีรายได้จุนเจือครอบครัว และใช้จ่ายได้คล่องมือมากขึ้น ที่สำคัญยังเปลี่ยนมุมมองในชีวิต จากเดิมที่ไม่เคยคิดว่าจะเข้ามาเป็นพาร์ตเนอร์ของแอปฯ เรียกรถ กลายเป็นว่าได้พาตัวเองมาเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยคิดมาก่อน จากเดิมที่นั่งรอลูกค้าอยู่ที่วิน ได้ไปเจอลูกค้า เรียนรู้ลูกค้าใหม่ๆ ดังนั้น ต่อให้จากนี้ GET จะรีแบรนด์ไปเป็น Gojek ก็ยังเชื่อมั่น รายได้ไม่ลดลงแน่นอน

“ผมดีใจนะ พอรู้ว่า GET จะรีแบรนด์ไปเป็น Gojek และภูมิใจที่จะได้เป็นฟันเฟืองเล็กๆ ของแอปฯ ระดับโลก ผมเชื่อว่าการรีแบรนด์ครั้งนี้จะนำมาซึ่งสิ่งดีๆ แน่นอน อย่างที่บอก ผมเป็นคนชอบท้าทายอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นผมไม่กังวลเลย แถมยังเชื่อว่า หลังจากการรีแบรนด์จะทำให้ลูกค้าหันมาสนใจและเรียกใช้มากขึ้นแน่นอน”

 

(advertorial)

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า