รู้จัก HMD แบรนด์น้องใหม่ จากบิ๊กสมาร์ทโฟนยุโรปผู้ผลิต Nokia ที่เตรียมเปิดตัวในไทยเร็วๆ นี้

รู้หรือไม่ว่า ‘HMD Global’ คือผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ผู้จำหน่ายโทรศัพท์มือถือไปกว่า 400 ล้านเครื่องในปีเดียว และเป็นยักษ์ใหญ่ผู้อยู่เบื้องหลังการสานต่อฟีเจอร์โฟนและสมาร์ทโฟนภายใต้แบรนด์ ‘Nokia’ โดยเป็นบิ๊กเทคที่เข้าใจจุดแข็งเดิมของแบรนด์ คือ มือถือปุ่มกดทนทาน แต่ก็เข้าใจโลกยุคใหม่ ทำสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในระบบ Android ออกมาจำหน่ายหลายรุ่น

แต่คนส่วนใหญ่กลับไม่รู้ว่า ‘HMD’ เป็นใคร? บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติฟินแลนด์นี้มีความเชี่ยวชาญขนาดไหน จึงสามารถรับช่วงต่อ Nokia และพาไปสู่ยุคใหม่ได้ วันนี้ TODAY Bizview ชวนทุกคนทำความรู้จักกับ ‘HMD’ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดในยุโรปที่กำลังจะออกสินค้าภายใต้แบรนด์ HMD เป็นครั้งแรก อะไรทำให้แบรนด์ผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ที่ไม่เคยเผยตัวตัดสินใจเปิดหน้า ใช้กลยุทธ์มัลติแบรนด์เจาะคนรุ่นใหม่เตรียมจำหน่ายสินค้าสู่สายตาคนทั่วโลก?

[ HMD บริษัทแม่ของ Nokia ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดในยุโรป ]

‘HMD’ ย่อมาจาก Human Mobile Devices และมีชื่อเรียกบริษัทอย่างเป็นทางการว่า ‘HMD Global’ ที่เป็นบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติฟินแลนด์ (สัญชาติเดียวกับ Nokia Technologies) ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2016 ด้วยทีมงานมากประสบการณ์จาก Nokia และมี ‘Arto Nummela’ ผู้มีประสบการณ์จาก Nokia 17 ปีมาเป็น CEO คนแรก

โดย ‘HMD’ คือผู้รับซื้อสิทธิในการผลิตและจัดจำหน่าย รวมถึงสิทธิบัตรเกี่ยวกับเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือหลายอย่างของ Nokia ในปี 2016 ซึ่งเป็นการซื้อสิทธิต่อจาก Microsoft ที่ได้สิทธิในการผลิตและจัดจำหน่ายในช่วงเวลาดังกล่าว

ตลอดระยะเวลา 7 ปีทำให้ ‘HMD’ กลายเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์รายใหญ่ที่สุดในยุโรปและเป็นครองตำแหน่งผู้นำตลาดอันดับ 2 ของตลาดฟีเจอร์โฟน (โทรศัพท์มือถือที่มีฟังก์ชันการใช้งานแบบทั่วไป อาทิ โทรออก ถ่ายรูป ดูรูป ดูหนัง ฟังเพลง แต่ไม่ใช่สมาร์ทโฟน) ในปี 2023

นอกจากนั้น HMD ยังถูกกล่าวขานในฐานะของผู้ผลิตที่เข้าใจจุดแข็งเดิมของ Nokia คือ มือถือปุ่มกด เน้นคุณภาพ คงทน มาตรฐานยุโรป ในราคาจับต้องได้ แต่ก็เข้าใจโลกใหม่ในยุคสมาร์ทโฟน สะท้อนผ่านการผลิตสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในระบบ Android ออกมาจำหน่ายหลายรุ่น

โดยในปีที่ผ่านมา HMD จำหน่ายโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตไปกว่า 400 ล้านเครื่องในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ดังนั้น ถ้าคุณเห็นมือถือ Nokia วางจำหน่ายอยู่ที่ไหนก็รู้เลย HMD อยู่ที่นั่น

[ เตรียมเปิดตัวแบรนด์ ‘น้องใหม่’ เน้นคุณภาพ คงทน ในราคาจับต้องได้ ]

หลังพา Nokia ฝ่าความเปลี่ยนแปลงในโลกยุคใหม่มาได้สำเร็จ ล่าสุดในงาน Mobile World Congress 2024 ทาง HMD ได้เปิดตัวแบรนด์น้องใหม่ภายใต้ชื่อ ‘HMD’ โดยแนวทางของแบรนด์ที่ให้โอกาสผู้บริโภคได้ใช้สมาร์ทโฟนในราคาที่เข้าถึงได้

หรือนำเสนอสมาร์ทโฟนแบรนด์ยุโรปที่มาพร้อมคุณสมบัติพื้นฐานอย่างความคงทน คุณภาพ มาตรฐานยุโรป (หรือเรียกว่าเก็บจุดแข็งของ Nokia มาอย่างครบถ้วน) พร้อมๆ กับสเปคที่จะจัดเต็มและดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ พร้อมระบุว่า HMD มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่เปี่ยมประสบการณ์ในหลากหลายสาขาด้วย “ราคาไม่ถึงหมื่น” และเตรียมจะเปิดตัวแบรนด์ HMD ในประเทศไทยเร็วๆ นี้

โดย ‘กลุ่มเป้าหมายหลัก’ ของ HMD ในครั้งนี้ คือ ลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ New Generation ที่กำลังจะกลายเป็นกลุ่มผู้บริโภคหลักของตลาดเร็วๆ นี้ ดังนั้น HMD ที่รู้ว่า Gen Z คือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ให้ความสำคัญกับคุณภาพและความทนทานเป็นหลัก จึงชูจุดขายที่เรียกว่า 3R

[ สมาร์ทโฟนยั่งยืนไม่ใช่แค่พูด ซ่อมง่าย ซ่อมเองได้จริง ]

จุดขายหนึ่งของแบรนด์ HMD คือ แนวทางความยั่งยืน 3R ที่ได้แก่ Repair, Reuse และ Recycle เพราะทำให้ HMD สามารถสร้างความยั่งยืนได้ทุกระดับ อธิบายง่ายๆ แบบนี้

R แรก = Repair (ซ่อมแซม) เพราะ HMD ติดโผ ‘สิ่งประดิษฐ์ที่ดีที่สุด’ ของ TIME ประจำปี 2023 เพราะเป็นแบรนด์ที่เอื้อให้ผู้ใช้สามารถซ่อมแซมโทรศัพท์ได้ด้วยตัวเองหรือที่เรียกว่า FIX จาก Fix it Yourself โดยรวมถึงการซ่อมหน้าจอแตกด้วย ทำให้โทรศัพท์ของ HMD มีอายุการใช้งานนานมาก ประหยัดขึ้น

R สอง = Reuse (ใช้ซ้ำ) โดยได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในระดับ Platinum ในปี 2022 และปี 2023 จาก EcoVadis ผู้ประเมินและจัดอันดับ (Rating) ด้านความยั่งยืนในห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ  

R สาม = Recycle (รีไซเคิล) เพราะโทรศัพท์จาก HMD สามารถรีไซเคิลได้ตั้งแต่ส่วนประกอบของสมาร์ทโฟนไปจนถึงบรรจุภัณฑ์ รวมถึงสามารถนำส่วนประกอบบางอย่างมาใช้ซ้ำได้ด้วย 

เรียกว่าเราได้เห็นเส้นทางการเติบโตของ HMD ภายใต้การผลิตและจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือแบรนด์ Nokia มาแล้วกว่า 7 ปี สำหรับ TODAY Bizview เรามองว่า นี่นับเป็นก้าวใหม่ที่แตกต่างจากเดิมของ HMD หลังเลือกใช้กลยุทธ์มัลติแบรนด์ในการทำตลาด หลังจากขายสินค้าภายใต้แบรนด์ Nokia มาหลายปี โดยมุ่งเป้าไปที่การเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ในตลาด

แต่จุดตัดสำคัญที่ว่า HMD จะสามารถขึ้นเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในใจคน Gen Z ได้ไหม อาจจะอยู่ที่ว่า HMD สามารถรักษาจุดแข็งเก่าอย่างคุณภาพ ความทนทาน มาตรฐาน และราคาเอาไว้ พร้อมๆ กับนำเสนอจุดแข็งใหม่อย่างสินค้าที่มีสเปคยอดเยี่ยมในราคาประหยัดได้หรือไม่ ถ้าทำได้ก็ไม่แน่ว่า กลยุทธ์มัลติแบรนด์นี้จะประสบความสำเร็จ ส่ง HMD ติดตลาดสมาร์ทโฟนไทยที่พร้อมเปิดรับแบรนด์ใหม่ๆ อยู่แล้วได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้ยึดติดแบรนด์เท่ากับอดีต

สุดท้าย ‘แบรนด์ HMD’ จะปังขนาดไหน จะสามารถเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ New Generation สร้างฐานลูกค้าใหม่ๆ ด้วยสเปคและราคาที่จับต้องได้ได้จริงไหม เราคงต้องจับตาดูการเปิดตัวที่จะมาถึงเร็วๆ นี้